ฤดูที่ฝนพรำ : เงิน 1,000 ไปขึ้นสวรรค์เขาค้อ ภูทับเบิก หนึ่งคืน (ทริปกินเที่ยวแน่น) by Huawei P9

เที่ยวแบบกรู (การเดินทางของครอบครัวหัวหยอง) : อยู่ๆ ก็อยากกรูกันไปเขาค้อ ภูทับเบิก ในวันที่ฝนพรำ..

ภูทับเบิกสำหรับเราแล้วครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งล่าสุดตอนท้องได้ 8  เดือน ขับขึ้นภูเองเลยค่ะ นอนเต็นท์ด้วยปวดหลังสุดๆ ตอนนั้นลูกสาวที่อยู่ในท้องยังไม่ได้เห็นความสวยงามของทะเลหมอกยามเช้า ไร่กะหล่ำปลีสีเขียวเต็มภูเขา และยิ่งเมื่อเห็นภาพทะเลหมอกฤดูฝนจากหลายคนที่แชร์กันมา กระตุ้นต่อมการเดินทางสุดๆ จะรออะไร ไปสิคะคุณ

หลายคนอาจเคยติดตามเราผ่านเพจมาบ้างจะรู้ว่าบ้านเราเที่ยวกันบ่อยเดือนละอย่างน้อย 2 ทริป แต่ชอบชวนเพื่อนไปด้วย
ตอบแบบโลกสวย ก็ “ไปกับเพื่อนสนุกดีค่ะไม่เหงา มีคนให้เม้ามอย”
ตอบแบบโลกแห่งความเป็นจริง “ เพื่อนไปด้วยสิดีมีคนเล่นกับลูกและที่สำคัญค่าใช้จ่ายจะถูกลงมาก “

ทริปนี้เราเลือกที่จะล้อหมุนออกจากกรุง ตี 1 กว่าๆ ตั้งใจให้ไปถึงภูทับเบิกตอนเช้าเที่ยวถ่ายรูป บ่ายๆ ค่อยไปที่เขาค้อ และเลือกพักที่

“ไปรษณีย์เขาค้อ”
เรา : ไม่ทราบว่าบ้านพักที่นี่ว่างมั้ยคะ วันที่ 9 ก.ค. ค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ว่างครับ จองเลยมั้ย
เรา : พี่คะ บ้านพักที่นี่เห็นหมอกหน้าบ้านเลยมั้ยคะ
เจ้าหน้าที่ : ถ้าเปิดหน้าต่างก็เห็นครับ ถ้าปิดหน้าต่างก็ไม่เห็นนะ ต้องเลือกเอา
เรา : ตึง!

เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ที่นี่เป็นคนตลก

ทริปนี้พิเศษกว่านั้นเมื่อเรามีโอกาสได้สัมผัส Huawei P9 และพาเจ้าเครื่องนี้ไปเที่ยวด้วย แอบตื่นเต้นเล็กน้อยถึงปานกลางเนื่องจากนี่เป็นการทดลองใช้แอนดรอยด์ครั้งแรกของเรา และอยากสัมผัสมือถือที่ได้รับการยอมรับว่าถ่ายรูปสวยมาก เนื่องจากมีกล้อง Leica บริษัทผลิตกล้องชั้นนำของโลกสัญชาติเยอรมัน ที่ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และการเดินทางท่องเที่ยวของเราแทบจะไม่เคยหยิบมือถือมาถ่ายรูปเลย

ดังนั้นภาพที่อยู่ในรีวิวนี้เกือบทั้งหมดถ่ายด้วย Huawei P9 ยกเว้นภาพที่เห็นตัวเครื่องเราใช้ DSLR แต่งภาพด้วยโปรแกรมในเครื่อง มีเพียงใส่ลายน้ำและ Re-size ใน PS

มือถือพร้อม เงินพร้อม เพื่อนมาครบ เอาล่ะล้อหมุนเดินทางเลยค่ะ

cof
เราติดงานเลยได้นอนไปแค่ชั่วโมงเดียว ทำให้หน้าที่พลขับตกเป็นของสามีแบบยาวๆ ฝนตกตลอดทางหลับสบายเลยเรา ลืมตาขึ้นมา โอวววหมอกมาแล้ววว ประมาณตี 5 กว่าๆ เราขึ้นมาถึงมุมนี้ค่ะ

cof

บรรยากาศหลังฝนตก ฟ้ายังไม่สว่างมาก กล้องของเรารุ่นนี้สามารถปรับ iso รูรับแสงได้ ดังนั้นในช่วงเวลาที่แสงน้อยแบบนี้สำหรับเราพอใจเลยล่ะ

cof

นี่คือภูทับเบิกฤดูฝนครั้งแรกของเราและครอบครัวหัวหยอง หลังจากที่เดินทางมาหลายทริปเราถามลูกสาววัยสองขวบห้าเดือนว่า

เรา : ลูกชอบทะเลหรือภูเขาคะ
ลูกสาว : ชอบภูเขา
เรา : ภูเขามีอะไรคะ
ลูกสาว : ภูเขามีทะเลหมอก เมลลี่อยากไปดูทะเลหมอก

ทริปนี้จึงเป็นทริปที่รักษาสัญญากับเด็กหัวหยองว่าพ่อกับแม่จะพามาดูทะเลหมอก ^^

อุณหภูมิวันนั้น 18 องศา ขนาด 10 โมงแล้วยังหนาวเย็นแถมฝนยังตกเรื่อยๆ ตกๆ หยุดๆ หยิบมือถือออกจากกระเป๋าทีก็กลัวจะโดนฝน ของใหม่ก็งี้กำลังเห่อค่ะต้องดูแลมากๆ ^

ส่วนใหญ่เราจะใช้โหมดปกติ ถ้าแสงน้อยมากๆ ก็เลือกใช้โหมด Pro เพื่อดัน ISO กับปรับรูรับแสงช่วย สนุกเหมือนใช้ DSLR เลย มุมนี้ใกล้ๆ กับไร่สุวิทย์ค่ะ เราเลือกขับรถวนไปดูทางไปวัดก่อน

cof

sdr
เด็กๆ บริเวณจุดชมวิวยิ้มหวานๆ ให้ (จ่ายเงินให้ด้วยนะพี่ 55)
dig
อยู่บริเวณนั้นสักพัก “แม่จ๋าหิวข้าว”
ได้เวลาแบกลูกขึ้นหลังไปหาอะไรหม่ำกัน
mon
เคยมาแต่ช่วงเทศกาล รถแน่น คนเยอะ ไม่เคยได้มาชิลล์ๆ แบบนักท่องเที่ยวน้อยๆ แบบนี้มันดีมาก

sdredf

edf

edf

cof
หมูปิ้งแอบแพงนะไม้ละตั้ง 15 บาท
cof
แต่ถ้ามาถึงภูทับเบิกไม่ได้กินผัดกะหล่ำก็ถือว่ามาไม่ถึงนะ
cof
มื้อเช้าของพวกเราค่ะ กินกันง่ายๆ กระเพราไก่ไข่ดาว ข้าวต้ม และกะหล่ำปลีผัด

76

อิ่มแล้วเดินลงไปข้างล่างแถวๆ ไร่ริมผา เผื่อจะได้หมอกงามๆ แต่สิ่งที่เห็นคือ!!

cof
ขาวโพลนไปหมด มีนักท่องเที่ยวมากางเต็นท์บริเวณนี้บ้าง เราเองก็เคยมานอนที่นี่เหมือนกันค่ะ
cof
เดินออกจากตรงนั้นเงียบๆ และเขรอะมาก รองเท้าขาวๆ เน่าสนิท (ใครใช้ให้ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวไปเที่ยวหน้าฝน!!)

เราว่ามุมถ่ายดงกะหล่ำปลีที่สวยที่สุดต้องเดินลงไปทางไร่ริมผา แต่สิ่งที่เห็นคือ !เพิ่งจะตัดวันนี้เลยจ้า แทบจะไปช่วยเค้าขนขึ้นรถcofcof

cof
ชากาละ  99 บาท  หมั่นโถวลูกละ 25 บาท เข้าร้านปุ๊บฝนเทเลยจ้าหนักมาก

cof

cof
บริเวณหน้าร้านโรงเตี้ยมเป็นจุดที่มีคนมาแวะถ่ายรูปกับไร่กะหล่ำปลีเยอะที่สุด น่าจะเป็นมุมที่กำลังเขียวสวยและยังไม่ถูกตัดออกไป

sdr

edf

76เราอยู่ที่ภูทับเบิกเกือบเที่ยง แม้เวลาไม่กี่ชั่วโมงแต่เห็นชัดๆ เลยว่าภูทับเบิกมีที่พักผุดขึ้นมาใหม่เยอะมาก เยอะจนนับไม่หวาดไม่ไหว เป็นสีลูกกวาดเต็มไปหมด นี่ถ้าเกิดสั่งให้รื้อถอนจริงๆ คงหายไปเยอะมาก

dig
ระหว่างทางลง ร้านกาแฟหลายร้านถูกปิดไป คงกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในช่วงหน้าหนาว แต่ร้านตำนานแห่งขุนเขา ยังเปิดอยู่นะ
dig
ฝนก็ยังคงตกพรำๆ เราก็ยังไม่ได้รูปโค้งสวยๆ เลยนะทำยังไงดี T_T
sdr
อยู่ๆ ฝนก็หยุดและได้ภาพแบบนี้มาสักรูปสองรูปก็ยังดี
dig
ขับลงมาประมาณอีก 8  กิโลเมตรสุดท้าย จะเจอกับร้านกาแฟ Small Ville ร้านนี้คนแน่นมาก

cof

cof
ราคาเครื่องดื่มถูกด้วยนะ แถมรสชาตินี่ดีเลยล่ะ

cof

edf
จิบชาชมวิว
cof
บ่ายแล้วยังไม่ได้จัดมื้อเที่ยงเลย ขอแวะไปหาร้านขนมจีนก่อนขึ้นเขาค้อ เราไม่ได้ทำการบ้านมาว่าร้านไหนเด็ด อาศัยถามๆ คนแถวนั้นเอาเค้าบอกว่าไปที่นี่สิ ขนมจีนสารัช
sdr
ร้านสวยงามหาไม่ยาก ป้ายเด่นมาก

sdr

cof

sdr

cof
คนไม่ค่อยเยอะค่ะ อาจเป็นเพราะไม่ใช่เทศกาลหรือวันหยุดยาว

sdr

edf
พวกเราสั่งขนมจีนเส้นสมุนไพร 7 สี ชุดใหญ่ มีทั้งหมด 24  จีบ เสิร์ฟพร้อมน้ำยา 3 อย่าง อันได้แก่ น้ำพริก กะทิ แกงป่า โดยรวมอร่อยทั้งสามอย่างค่ะ  เซตนี้ 240 บาท กิน 4 คนเหลือๆ หารแล้วมื้อนี้คนละ 58 บาทเอง
cof
อิ่มแล้ว พร้อมหลับ คนขับก็ขับไปนะจ๊ะ สถานีต่อไป …เขาค้อ
cof
ทีพักของเราคืนนี้ ไปรษณีย์เขาค้อ หลังละ 1,500 บาท นอนชั้นบนนะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขึ้นไปบนบ้านก็จะเจอมุมนั่งเล่น
cof
มีกฎระเบียบติดไว้ชัดเจน อ่านทำความเข้าใจก่อนเข้าพักนะคะ
cof
ซ้ายมือจะเป็นห้องนอนใหญ่ มีเตียงขนาด 6 ฟุตสองเตียง นอนได้ 4 คนสบายๆ พร้อมตู้เสื้อผ้า ทีวี พัดลมหรือแอร์ไม่มีแค่เปิดหน้าต่างลมก็แรงมากค่ะ ถามเด็กหัวหยองว่า “ สบายมั้ยคะลูก โอเคมั้ย “ ลูกบอก “โอเค สบายมาก” พร้อมกับกลิ้งลงไปนอนอย่างสบายใจ
cof
ห้องนอนเล็กติดกันนอนได้ 2 คน ห้องนี้มีตู้เสื้อผ้าแต่ไม่มีทีวี
cof
ห้องน้ำก็สะอาดดี มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยนะ
cof
ถัดมาเป็นห้องครัวค่ะ มีตู้เย็นและมุมฟินๆ
cof
นี่ไงเปิดหน้าต่างก็เจอแบบนี้
cof
หมอกอยู่ไหน ไหนล่ะหมอก ลูกไม่ได้ถาม อิแม่ถามเอง พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่น่าจะมีนะเพราะลมแรงมาก T_T เสียใจหนักมาก แวะไปนอนร้องไห้แป๊บ
cof
บ่าย 3 เป็นช่วงเวลาที่กำลังคิดว่าไม่รู้จะไปไหนอยากหลับสักงีบเพราะคนขับก็เพลียมาก สมาชิกทั้งหมดลงความเห็นว่านอนกันเถอะพวกเรา จู่ๆ ฝนก็ตกลงมาหนักมาก  เอาล่ะสิลุ้นกันต่อไปขอให้ฝนหยุดแล้วหมอกลง โอมเพี้ยง!
sdr
ตื่นมา 5 โมงเย็น ฝนยังคงเทกระหน่ำ ลมพัดแรงมากเปิดไม่ได้ต่างไม่ได้เลย (เพราะไม่มีตัวเกี่ยว)
sdr
เกือบหกโมงฝนเริ่มหยุด มองจากหน้าต่างหันไปอีกทีอ้าว
ลูกกับสามีไปยืนชมวิวซะแล้ว อากาศตอนนั้นอย่างหนาว จัดพาโนรามาสักรูป72
cof
พระอาทิตย์ตกมุมนี้พอดี นักท่องเที่ยวต่างมารอชมที่นี่ แต่วันนั้นฝนตกขนาดนี้ อย่าว่าแต่พระอาทิตย์ตกเลย แสงสีทองยังไม่โผล่มาให้เห็น ส่วนทะเลหมอกในจินตนาการก็ได้แต่ฝันต่อไป มีแต่หมอกฟุ้งๆ อย่างที่เห็นค่ะ
cof
หันไปมองอีกฝั่งบริเวณทิวสน โอววว นี่มันไม่รู้จะอธิบายยังไง เหมือนหน้าหนาวเลยภาพนี้ไม่ได้แต่งเพิ่มนะคะ
cof
ในเมื่อโดนพระอาทิตย์หักอก เราไปหาอะไรกินกันเถอะพวกเรา เดินหนาวๆ ท่ามกลางสายหมอก
cof
หนาวๆ แบบนี้จัดหมูกระทะน่าจะเหมาะไปต้องขับรถออกไปไหนเลยค่ะเดินไปด้านหน้าไปรษณีย์ก็มีแล้ว
cof
หมูกระทะแบบชั่งกิโลขาย เลือกเลยจ้าชุดใหญ่ 1 กิโล 289 บาท
ชุดเล็กครึ่งกิโล 199 บาท หารกันแล้วคนละ 70 บาท คุณพระ!
เป็นหมูกระทะที่ถูกที่สุดตั้งแต่เคยกินมาแถมอิ่มด้วยนะ
ร้านนี้มีบริการส่งที่พักด้วย เผื่อใครอยากจะปิ้งย่างชมวิวหน้าเต็นท์

mde

mon

mon

เช้าวันใหม่….
เราตื่นตั้งแต่ตี 5 กว่าๆ ถึงกับฝันว่าเช้านี้จะได้ทะเลหมอกงามๆ เปิดหน้าต่างปุ๊บ เฮ้ยยมันมาแล้ว

mde

cof
ส่องหน้าต่างอีกบาน ทางนี้ก็มา แต่หน้าเสียดายทำไมไม่ลอยมาถึงนี่คะ T_T  เจ้าหน้าที่บอกว่าปลายฝนต้นหนาวจะมาถึงหน้าบ้านพักเลย

mde

cof
บางคนก็บอกว่าสัก 8 โมง อาจจะลอยมาก็ได้นะ  ทุกคนล้วนมีความหวังส่วนเราขอไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น (ยังหวังว่าจะได้เห็น) ที่ จุดชมวิววัดกองเนียม ในตำนาน
dig
เลี้ยวรถเข้าไปเรียกว่าซิ่งมากกลัวไม่ทัน หมาที่วัดกรูกันมาต้อนรับเต็มเลยจ้า เดือดร้อนหลวงพ่อต้องมาช่วย พวกเราไปถึงเป็นกลุ่มแรกแม้ไม่ได้หมอกที่สวยงาม แต่เราได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น เอาน่าๆ อย่างน้อยก็มีเรื่องดีๆ ปลอบใจตัวเอง

sdr

78ยังคงมีความหวังต่อไป เราไปต่อที่ จุดชมวิวเขาตะเคียนโงะ  ก่อนจะขึ้นไปยังจุดชมวิวมุมนี้ก็สวยงามนะ มีแปลงข้าวสีเขียวกับภูเขาที่อยู่ตรงหน้า

cof

sdr

sdr

cof
มีนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง ส่วนหมอกก็พอให้เห็นประปรายค่ะ

cof

cof
กลับไปทานข้าวเช้าหน้าไปรษณีย์ และยังคงหวังต่อไปอีกว่าหมอกอาจจะลอยมาหน้าบ้านพักของเราก็ได้นะแกรร (ชีวิตหล่อนนี่หวังทุกเรื่องเลยนะ)

แต่สิ่งที่เห็น….ฝนตก…ยิ่งนึกถึงทีไรก็ยิ่งชุ่มฉ่ำ (มันใช่เวลาร้องเพลงมั้ย)

cof
กลับขึ้นไปนอนละกัน ไหนๆ ฝนก็เป็นใจ นอนกันชั่วโมงกว่าๆ  10 โมงเช้า เราเช็คเอ้าต์ออกจากที่พัก มุ่งหน้าร้านสุดฮิต Pino Latte ค่ะ
cof
แต่ช้าก่อน ระหว่างทางเราเจอกับร้านกาแฟร้านหนึ่งเข้า
มีหมีเต็มไปหมดเลยเมลลี่ชอบเลยต้องจอดไปเช็คอินหน่อยสิคะ ร้านหลุยส์ คอฟฟี่
cof
ด้านนอกก็หมีเต็มไปหมด หมีควาย หมีแรด หมีต่างชาติ หมีทั้งนั้น
ในส่วนของลมนั้นแรงใช้ได้ผมคุณแม่ไม่เป็นทรงเลยค่ะ

sdr

cof
ร้านนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ดินแบ่งขายแปลงสวยอยู่นะคะ
อยากได้เหมือนกัน ฝันไปก่อน บรรยาศรายล้อมด้วยภูเขา
มีสวนสวยหน้าร้านด้วยนะดอกไม้เต็มไปหมด เช้าๆ น่าจะดีงามมาก
นอกจากกาแฟแล้วยังมีขนมปังปิ้ง เริ่มต้น 30  บาท ส่วนกาแฟเริ่มต้น 60 บาทค่ะ

edf

cof
อยู่ๆ ก็เรียกให้แม่มาถ่ายรูปให้ (ปกติยากมากนางติสต์) พร้อมกับทำท่าแบ๊วๆ 555
sdr
ออกจากหลุยส์ คอฟฟี่ ไปที่จุดหมายต่อไป Pino Latte Resort & Cafe
sdr
พอไปถึงช็อคเลยค่ะคนเยอะมาก ต้องเดินไปหาโต๊ะนั่งเอง เจออันไหนว่างรีบนั่งเลยนะ

sdr

sdr

sdr

sdr
มุมสุดฮิตสินะ ที่ก่อนไปมโนไว้ว่าจะไปนั่งชิลล์ๆ จิบชาชมวิว แต่ความเป็นจริงคือ คนเยอะมากการนั่งตรงนี้นานๆ รู้สึกผิดเลยล่ะเพราะจะทำให้คนอื่นไม่ได้ถ่ายรูป
sdr
นอกจากร้านกาแฟแล้ว ที่นี่ยังมีที่พักในโลเคชั่นที่ดีงาม ถ้ามาพักที่นี่สักคืน สัญญาจะตั้งใจทำงานและเที่ยว ^^ (ขอวันที่หมอกงามๆด้วยนะ)
sdr
ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มที่นี่จะเน้นพวกของทานเล่นมากกว่า กาแฟคุณสามีบอกว่าเข้มข้นมาก ส่วนขนมก็อร่อยดีค่ะราคาเริ่มต้น 145 บาท ส่วนกาแฟเริ่มต้น 85 บาท

77

edf
เป็นกาแฟแก้วที่อร่อยที่สุดอีกแก้ว (สามีกล่าวคงเป็นวิวด้วยสินะ) ในตัวเครื่องของ Huawei P9 มีลูกเล่นในการแต่งภาพน่ารักๆ แบบนี้ด้วยนะคะ  แบบไม่ต้องโหลดแอพตัวอื่นมาเพิ่มเลย
sdr
ออกจากร้าน Pino Latte เราไปจัดขนมจีนอีกร้านใกล้วัดพระธาตุซ่อนแก้ว

ชื่อร้านขนมจีนหล่มเก่าคุณยายน้อย เสิร์ฟน้ำยา 3 อย่าง ไม่อร่อยสักอย่าง มีดีแค่วิวสวยค่ะ
หลังจากนั้นก็แวะไปที่วัดปรากฎว่าฝนตกหนักมาก จนทำให้ไม่สามารถถ่ายรูปอะไรได้เลย เลยต้องกลับกรุงประมาณบ่าย 3

ค่าใช้จ่ายทริปนี้
– ค่าที่พัก 1,500 บาท หาร 4 คน ตกคนละ 375 บาท (จริงๆ หลังนี้พักได้ 6 คน หาร 6 จะถูกมาก)
– ค่าน้ำมันไปกลับ 1,600 บาท คนละ 400 บาท
– มื้อละ 50-70 บาทเท่านั้น
แพงสุดทริปนี้คือค่าขนมและกาแฟค่ะ

หลังจากที่ได้ใช้ Huawei P9 หน้าจอ 5.2 นิ้ว
เราขอรีวิวแบบคนใช้งานถ่ายนะคะแบบไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับมือถือมากมาย
–  อย่างแรกที่ชอบคือตัวเครื่องเบา
– การถ่ายภาพสนุกมีลูกเล่นเยอะ ปรับ ISO รูรับแสงได้ ถ่าย
– Monochrome คือดีงามสมคำร่ำลือเริ่มติดใจอยากหามุมถ่ายใหม่ๆ
– สามารถแต่งภาพได้จากตัวเครื่องโดยที่ไม่ต้องโหลดแอพเพิ่ม
– พาโนรามาถ่ายง่าย เลือนทางซ้ายจบโหลดภาพอัพเฟซบุ๊คได้เลย

สิ่งที่ไม่ชอบมีแค่ยังรู้สึกชัดเตอร์ช้านิดๆ หน่อยๆ มีหน่วงบ้าง
แต่อย่างไรเสียหลังจากมือถือเครื่องเก่ากำลังใกล้จะดับพอดี
รุ่นนี้คือเป็นตัวเลือกแรกที่เราจะถอยมือถือเครื่องต่อไปค่ะ

อย่าบอกว่าอยากเที่ยวแต่ไม่มีเวลา ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่เขาค้อสัก 1 คืน อายุยืน 1 ปีเลยนะ

teawbebgru

เราก็แค่ครอบครัวที่รักการเดินทาง ดีใจที่ได้พาลูกท่องโลกกว้างด้วยกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของเรานะคะ ^^ติดต่องาน E-mail : [email protected]

ใส่ความเห็น