บ้านรักไทย -บ้านมุง เนินมะปราง พิษณุโลก ความสุขเรียบง่ายในหมู่บ้านเล็กๆ

การเดินทางของครอบครัวของเราเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อเราอยากไปเนินมะปราง อำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก เราเพิ่งรู้จักเนินมะปรางเมื่อสัก 2 ปี นี่เองค่ะ หากใครเคยผ่านตากับภาพชิงช้าบนต้นไม้ที่นั่นเลยค่ะ สารภาพเลยค่ะว่าเราอยากไปที่นี่ก็เพราะภาพนั้นจริงๆ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 68 กิโลเมตร เราเดินทางมาจากเขาค้อแวะไปเที่ยวที่นี่ก่อนค่ะดังนั้นก็ไม่รู้สึกไกลอะไร แต่ถ้าหากออกมาจากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 340 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเก่าแก่อายุประมาณ 40 กว่าปีแล้ว ที่นี่ได้รับสมญานามว่า “กุ้ยหลินแห่งภาคเหนือ” ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้นตามครอบครัวหัวหยองไปดูกันค่ะ

สำหรับที่พักนั้น นักท่องเที่ยวนิยมไปพัก 2 หมู่บ้านคือ บ้านมุง กับ บ้านรักไทย มีโฮมสเตย์ชาวบ้านให้บริการหลายแห่ง ครอบครัวของเราเลือกพักที่บ้านรักไทยค่ะ เราไปพักที่ “สวนพงษ์แตง” ของป้าหนิง

บ้านสวนพงษ์แตง อยู่ด้านในหมู่บ้านสุดทางเลยค่ะ ทางเข้าจะเป็นดินลูกรัง คือถนนด้านหน้าเป็นถนนคอนกรีตแต่ไปไม่ถึงสวนป้า เลี้ยวเข้าไปก็ร่มรื่นดีค่ะต้นไม้เยอะ

เหตุผลที่เราเลือกมาพักที่นี่คือ อย่างแรกคือราคาไม่แพง และเราอยากนอนบ้านต้นไม้หลังนี้เลยค่ะ ราคา 1,100 บาท รวมอาหารเช้าและเย็น สำหรับ 2 คน เด็กเท่าเมลลี่ก็ฟรีค่ะ

เอ๊ะ! นั่นใครเข้าไปบนบ้านเรา 55 ซึ่งอยากจะบอกว่าเราจองผิดวันค่ะ T_T โกรธตัวเองมาก นี่เบลอถึงขั้นสุดแล้ว สามีคงโมโหและเคืองแต่ไม่กล้าว่าเมียไง ได้แต่บอกป้าว่าหนูเสียใจ 

นี่ถ้าได้นอนบ้านหลังนี้นะเราจะได้นั่งชมวิวมุมนี้สวยๆ

ได้อาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติที่มีแค่ฉากกั้นบางๆแบบนี้ จริงๆ ถ้าไม่กล้าอาบก็ลงไปห้องน้ำข้างล่างก็ได้นะ

ขออนุญาตพี่ที่เข้ามาพักไปถ่ายรูปด้านในให้ตัวเองช้ำใจเล่น คือที่นอนก็นอนได้สองคน ถ้าลูกนอนด้วยก็ปูที่พื้นได้อีกค่ะ วันที่เราไปนั้นก็มีครอบครัวที่มีเด็กเล็กเข้าพัก

ทำใจแล้วว่าจองผิดเองดังนั้นไปดูห้องที่เราจะนอนคืนนี้กันค่ะ ซึ่งก็คือมานอนที่บ้านของป้าเลย

บ้านลุงกับป้ามีสองชั้น ห้องชั้นล่างจะมี 3 ห้อง ป้าให้เปิดดูห้องก่อนตัดสินใจชอบห้องไหนก็เลือกเอาตามใจชอบ ห้องละ 800 บาท รวมอาหารเช้า เย็น เป็นห้องพัดลมนะคะ ไม่ต้องกลัวร้อนเพราะอากาศเย็นสบาย

ป้ามีอีกทางเลือกคือจะนอนชั้นบนก็ได้ ให้อารมณ์เหมือนมาพักบ้านญาติเลยค่ะ สรุปเราก็เลือกห้องนี้กว้างขวางดี ถ้าเมลลี่วิ่งไปนอนเกลือกกลิ้งทันทีแปลว่าโอเค

ดูจากหน้าตาแปลว่าผ่าน 55

ลงมาเดินเล่นชมสวนป้าด้านล่างกันดีกว่ามีชิงช้าให้นั่งเล่นด้วย

จะออกกำลังกายเล่นบาสก็ได้นะ

เดินไปเดินมาเจอทุเรียน ที่น่าขำคือป้าบอกว่าไม่เคยรู้เลยว่าสวนตัวเองมีทุเรียนแล้ว ลูกใหญ่ด้วยค่ะต้นเล็กนิดเดียวเอง

หลังนี้เป็นบ้านพักที่เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ปิ้งย่างได้ วิวด้านหน้าคือ 360 องศาเลย

หลังจากเดินไปเดินมาคุยกับป้าก็แล้ว ชมสวนก็แล้ว คิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะออกไปบ้านมุง ตอนเย็นเราเลยแวะไปที่บ้านสวนชมวิว ที่ตั้งของชิงช้าต้นไม้ก่อนเลยค่ะ

ไปถึงแทบไม่มีคนเลยค่ะ เราไปนั่งรอแสงเย็นสวยๆ กันแต่ก็ไม่มีเลยอากาศวันนั้นคือเหมือนฝนจะตก

ตรงนี้เป็นชิงช้าที่โหนไปได้แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่ของบ้านสวนชมวิวมาดูแลด้วย

นี่ก็ชวนลูกกับสามีนั่งชมวิวไป

บ้านสวนชมวิว มีที่พักหลังละ 1,500 บาท  แบบนี้ค่ะ

สุดท้ายก็กลับไปรอพระอาทิตย์ตกที่บ้านสวนพงษ์แตงเหมือนเดิม รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีแสงเจ้าโผล่ออกมาเลยค่ะ เสียใจมาก 

ลานชมวิวที่บ้านสวนพงษ์แตง นอนกางเต็นท์บนนี้รอถ่ายช้างก็ดีนะ

“น้องไข่มุกมากินข้าวเร้ววลูก” 
เสียงป้าเรียกลั่นสวนให้ความรู้สึกเหมือนแม่เรียกไปกินข้าวเลยค่ะ มื้อนี้เราได้พบกับเพื่อนใหม่คือพี่สองคนนี้ค่ะมาพักที่สวนเหมือนกัน 

กับข้าวคือฝีมือคุณลุง มื้อนี้มี 3 อย่าง คือ ปลาทอดผัดกะเพรา 

ไข่เจียว

แกงไก่ เมื่อถามลุงว่าปกติอาหารจะทำแบบนี้ทุกวันหรือเปล่า ลุงบอกว่าก็แนวๆ นี้เลยค่ะ อาจจะมีปรับเปลี่ยนไปบ้างแล้วแต่ ส่วนกับข้าวก็ขึ้นอยู่กับว่าทานกันกี่คน พวกเราทานกัน 5 คน กับข้าว 3 อย่างยังเหลือค่ะ อาหารรสชาติโอเค แต่แอบจืดไปนิดบอกลุงไปแล้ว

อิ่มแล้วเราก็เดินไปย่อยอาหาร นั่งมองดาวที่มุมนี้ แม้ว่าภาพที่คิดไว้ก่อนมามันจะสวยงามมาก ตัวแปรทั้งหมดคือพระอาทิตย์ อยากจะตะโกนถามว่าทำไมวันนี้ไม่โผล่มา หาาาาา 555   แต่เอาเถอะ แม้ว่าไม่เป็นอย่างที่ฝันไว้ แต่การที่ได้มายืนนิ่งๆ มองท้องฟ้า มองดาว เงียบๆ รู้สึกดีนะแค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่มีความสุข

เช้าวันใหม่…

เราบอกป้าว่าขอไม่รับอาหารเช้า คือตั้งใจจะไปที่บ้านสวนชมวิวอีกครั้ง เพื่อไปรอถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็จะเลยไปบ้านมุงต่อ ป้าก็คืนเงินค่าอาหารเช้าให้คนละ 50  บาท จริงๆ ป้าไม่ต้องคืนก็ได้ค่ะ เราไม่ได้อยากรับคืน แต่ป้าน่ารักมากเลย 

ไปที่บ้านสวนชมวิว ไม่มีภาพพระอาทิตย์ขึ้นแต่อย่างใด เพราะเราตื่นสาย T_T คือพอไปถึงมีแต่ความขาวโพลนไปหมด หลังจากนั้นก็ซิ่งไปบ้านมุงเลยค่ะ

ระหว่างทางไปบ้านมุง บรรยากาศสีเขียวๆ หมอกเล็กๆ มีให้เห็นแล้ว เรารู้สึกตื่นเต้น คือเราก็แอบคาดหวังไงอ่านรีวิวมาก็เยอะ หมู่บ้าน slowlife มีทุ่งนาสีเขียว มีกระท่อมหลังน้อย คือภาพแบบนั้นมันฝังอยู่ในหัวแล้ว

เปิด GPS มุ่งหน้าไปบ้านมุง ปรากฎว่าเลยไปบ้านไหนไม่รู้ ฮา ไปไกลประมาณเกือบ 10 โล ดีนะที่เอาเอะใจว่าทำไมไม่ถึงสักทีลงไปถามชาวบ้านชัวร์กว่าเยอะ 

สายแล้วรอท้องด้วยไก่ย่างข้างทางนี่แหละจัดข้าวเหนียวร้อนๆ มาด้วย เมลลี่กินเรียบ

หลังจากนั้นก็ยังเอ๋อ เปิดรูปนี้ถามชาวบ้านเลยค่ะ เราจะไปตรงนี้ไปยังไงคะ ถามไปเรื่อย อย่างที่บอกว่ารูปนี้นี่แหละที่ชักนำเราให้มาที่นี่ ในรูปที่คนอื่นรีวิวคือมีหมอกเล็กๆ งี้ (เราไปปลายๆ เมษายังจะคาดหวังหมอกอีกนะหล่อน)

พอมาถึงกรี๊ดดดดก่อนเลย จะกรี๊ดดดทำไมคุณแม่ 555 คือจริงๆ มันก็ไม่ได้หายาก แต่งงกันเองนี่แหละค่ะ

รู้สึกเสียดายที่ต้องกลับแล้วไม่อย่างนั้นจะนอนที่นี่สักคืน

หลังจากได้ภาพในมุมที่ตามหาแล้ว มองหน้ากันกับสามีเอาไงต่อดีพ่อ ไม่รู้เอาไงป้ายบอกทางก็ไม่มีก็เลยขับรถไปเรื่อยๆสำรวจรอบหมู่บ้าน ก็ไปเจอกับป้ายบอกทางไป “บ้านไร่ภูตะวัน”

เป็นร้านอาหารและที่พักเห็นว่าเพิ่งเปิดเมื่อปลายปีที่ผ่านมานี่เองค่ะ

อยู่ในทำเลที่ดีมากแวดล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนที่เป็นจุดไฮไลต์ของหมู่บ้าน พร้อมกับดอกทานตะวันที่เบ่งบานสวยงาม 

เมลลี่บอกจะนอนตรงนี้ ฮาาา นางคงชอบกระท่อมค่ะพาไปนอนบ่อยๆ หลังนี้นอนได้ 2 คน ปูเสื่อ หมอน ผ้าห่ม กางมุ้งหน่อยก็นอนได้ละ

แต่หลังนี้สิเราชอบมาก บ้านสีเขียวหลังเล็กท่ามกลางภูเขา

อีกฝั่งหนึ่งคือบ้านสีเหลือง

พาเด็กไปเดินสำรวจค่ะ

วิวจากหน้าบ้าน ไม่สามารถเข้าไปถ่ายข้างในได้นะคะเนื่องจากไม่ได้พักที่นี่

ห้องน้ำอยู่ด้านหน้า เพิ่งสร้างไม่นานยังสะอาดดีค่ะ

เอาภาพมุมสูงมากฝากค่ะ อลังการสวยงามแนะนำว่าไปถ่ายเช้าๆ มีหมอกลอยมาด้วยนะเออ

ในเมื่อเรามีเวลาน้อยทำให้เราก็พลาดอะไรเด็ดๆ ที่นี่หลายอย่าง มาๆ จะสรุปให้ฟังเป็นข้อๆ

ไฮไลต์ 10 ข้อ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเนินมะปราง 
1.ไปนั่งชิงช้าต้นไม้ที่บ้านสวนชมวิว
2.นอนบ้านต้นไม้ที่บ้านสวนพงษ์แตง
3.ชมพระอาทิตย์ตกที่บ้านสวนพงษ์แตง
4.เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ที่บ้านมุง
5.ดูค้างคาวออกบินออกจากถ้ำยามเย็นที่บ้านมุง
6.ชมทุเรียนที่สวนหลงรักไทย
7.ถ่ายภาพภูเขาหินปูนอันสวยงาม (สำหรับช่างภาพสายโดรน)
8.เที่ยวถ้ำผาท่าพล ถ้ำเต่า ถ้ำลอด ถ้ำผาแดง ถ้ำค้างคาว
9.ถ่ายรูปกับทุ่งนา
10.ไปเช็คอินที่บ้านไร่ภูตะวัน 

จริงๆ มีมากกว่านี้ขอสรุป 10 ข้อให้ตัวเองช้ำใจเล่น

บ้านสวนพงษ์แตง :08195 32062 , 09533 98866
บ้านไร่ภูตะวัน :089 416 7999
บ้านสวนชมวิว : 097 198 6647 , 097 193 1820

เนินมะปราง ความสุขเรียบง่ายในหมู่บ้านเล็กๆ

ครอบครัวหัวหยอง/

 

teawbebgru

เราก็แค่ครอบครัวที่รักการเดินทาง ดีใจที่ได้พาลูกท่องโลกกว้างด้วยกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของเรานะคะ ^^ติดต่องาน E-mail : [email protected]

ใส่ความเห็น