เที่ยวแบบกรู>>คิดจะพัก เราจะคิดถึงสถานที่สักแห่งอยู่ท่ามธรรมชาติ เปิดประตูเห็นภูเขา ทะเลหมอก หรือจะเป็นชายหาดส่วนตัวสักแห่งที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่านมีเวลานั่งชิลล์ นอนเปล อ่านหนังสือ ฟังเสียงธรรมชาติ คิดจะพัก (ทั้งกายและใจ) ของเราครั้งนี้เราขอกลับไปที่นี่อีกครั้ง หาดทรายแก้วรีสอร์ท บ้านกรูด
“ด้านหลังคือภูเขา ส่วนด้านหน้าของเราคือทะเล”
กรี๊ดดด “คุณแม่สวยมากๆ “
เสียงเด็กน้อยหัวหยองร้องเต้นเต้นดีใจเมื่อเห็นชายหาดและทะเลเบื้องหน้า เมื่อลูกร่ำร้องอยากไปทะเล (อีกแล้ว) และที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่เราจะคิดถึงเสมอเวลาที่อยากพักผ่อน
ดูคลิปวิดีโอก่อนจะอ่านรีวิว เพื่อเพิ่มอรรถรสมากยิ่งขึ้นค่ะ
หาดทรายแก้วรีสอร์ท บ้านกรูด
เราใช้เวลาเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เกือบๆ ตี 4 ขับมาเรื่อยๆ เราตั้งใจจะไปเกาะทะลุก่อนแล้วค่อยกลับมาเช็คอินที่พัก (ไว้จะมาเล่าเรื่องเกาะทะลุให้ฟังนะคะ) ซึ่งถ้าใครจะไปพักที่หาดทรายแก้วรีสอร์ท ก็สามารถไปเที่ยวเกาะทะลุได้สบายๆ เลยล่ะ นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น วัดทางสาย อ่าวบ่อทองหลาง แต่เอาเข้าจริงๆ ด้วยความที่รีสอร์ทมีชายหาดส่วนตัวทำให้ที่นี่เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริงๆ จนไม่อยากจะออกไปที่ไหนเลยค่ะ
หาดทรายแก้วรีสอร์ท อยู่ระหว่างรอยต่อของอำเภอทับสะแก และอำเภอบางสะพาน ทางเข้าอยู่ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 358 ของถนนเพชรเกษม (ป้อมตำรวจอ่างทอง) สามารถใช้การเดินทาง ได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถไฟ รถทัวร์ และรถตู้หากเดินทางโดยรถส่วนตัวสามารถเปิด GPS นำทางได้แม่นยำค่ะ ทางเข้าหาดทรายแก้วรีสอร์ท มีป้ายใหญ่มากไม่หลงแน่นอนค่ะจอดรถปุ๊บก็ถึง Reception ทันที เช็คอินทักทายน้องๆ อย่างคนคุ้นเคย มาที่นี่รู้สึกเหมือนกลับมาบ้านเลยค่ะ พนักงานทุกคนอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับพาขึ้นรถกอล์ฟไปส่งยังห้องพัก
ถึงแล้วกระท่อมสายรุ้งของเรา ความสุขหลากสี ไม่ซ้ำดีไซน์ ทายสิเราเลือกพักบ้านสีอะไร ? ูู
กระท่อมสายรุ้งจะมีบ้าน สีส้ม สีม่วง สีเขียว สีเหลือง และสีฟ้า ยังไม่เข้าห้องพักแต่จะพาไปดูสระว่ายน้ำของที่นี่กันก่อนนะคะ
“โอ้โห! swimming pool สวย” เสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวร้องอุทานด้วยความตื่นเต้น
หาดทรายแก้วรีสอร์ท มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่เล่นได้ทั้งครอบครัว โดยเฉพาะสระเด็กที่เมลลี่ชอบมาก ที่สำคัญยังสามารถมองเห็นชายหาด และทะเลที่อยู่ตรงหน้าได้ด้วยค่ะ
ที่ชายหาด มีเตียงผ้าใบ เปลญวน ให้เราได้พักผ่อน เด็กน้อยรีบวิ่งไปจับจองพร้อมกับหน้าฟินพลางพูดว่า “เมลลี่จะนอนละนะ”สักพักก็วิ่งเล่นชายหาดชวนคุณย่าไปเล่นทรายด้วยค่ะ
หลังจากเล่นทรายจนเหนื่อยแล้วได้เวลา swiming คุณแม่เล่นน้ำ ตูม!เล่นน้ำจนเหนื่อย คุณแม่ขอตัวพาเพื่อนๆ ไปดูห้องพักก่อนนะคะ
กระท่อมสีรุ้ง อย่างที่เล่าไปตอนแรกนั้น มีใครทายถูกบ้างว่าเราเลือกพักห้องสีอะไร แม้ว่าจะชอบสีม่วงเป็นชีวิตจิตใจแต่รอบนี้ขอกลับมานอนห้องเดิมนั่นก็คือ บ้านสีฟ้าค่ะ บ้านสีฟ้ามีสองหลังเป็นหลังที่ใกล้ทะเลที่สุดค่ะ
ฟ้าพวงคราม
ใครชอบและรักทะเลเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำบ้านฟ้าพวงครามเลยค่ะ ห้องนี้แค่เปิดประตูเข้าไปก็สร้างความประทับใจตั้งแต่แรก ให้ความรู้สึกเหมือนนอนอยู่ในเรือ แนบชิดติด ทะเลด้วย sea view ตลอดเวลาขอตกแต่งในห้องก็จะมี เสมอเรือ ห่วงยาง หมอนอิง ผ้าม่าน แม้กระทั่งพรมเช็ดเท้าก็เข้ากับธีมทะเลห้องน้ำกว้างขวาง สีขาวเหมือนเช่นในห้องนอน แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ชอบราวแขวนผ้าแบบนี้มากเลยค่ะ
ถัดจากบ้านสีฟ้าเราไปดูบ้านสีอื่นๆ กันต่อค่ะ
เขียวแคนา
สีเขียวสบายตาด้วยดีไซน์ของธรรมชาติ แวดล้อมด้วยพรรณไม้เขียวขจี ขนาดของบ้านเท่ากันทุกหลัง ฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกัน แตกต่างแค่สีของห้อง และของตกแต่งที่เลือกให้เข้ากับธีมค่ะอย่างห้องนี้ผนังห้องจะเป็นสีครีม บนหัวเตียงมีต้นไม้ และนกบิน ให้ความรู้สึกหลับสบายท่ามกลางธรรมชาติ ที่นอนทางหาดทรายแก้วรีสอร์ท เลือกใช้ที่นอนแบบยางพาราเพื่อสุขภาพของการนอนหลับพักผ่อนค่ะ
เหลืองราชพฤกษ์
สีเหลืองก็แจ่มเหมือนกันนะคะ เวลาถ่ายรูปแล้วสดใสจังเลยค่ะ
มีเก้าอี้นั่งจิบกาแฟสีเหลืองอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับดอกไม้ที่เลือกให้เข้ากับตัวบ้านได้ดีอีกแล้ว เข้าไปในบ้านเหลืองราชพฤกษ์จะพบกับความวินเทจ ของตกแต่งภายในมีการเลือกเฟ้นมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกรอบรูป นาฬิกา หรือวิทยุที่เราชอบมากเป็นพิเศษพักห้องนี้จะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า แอคทีฟ และยังมีความน่าค้นหาในตัว เริ่มชอบสีเหลืองขึ้นมาเลยล่ะค่ะ
บ้านพักทุกหลังจะมีดาดฟ้าเอาไว้ปาร์ตี้ ปิ้งย่าง เล็กๆ ก็ได้ กลางคืนมานั่งดูดาวบนนี้ก็ฟินสุดๆ
ส้มยูงทอง
หรูหรา โอ่อ่า ร้อนแรงอยู่ในที ใครชอบสีนี้ต้องรีบจองเลยค่ะ เปิดม่านนอนชมธรรมชาติได้อย่างสบายใจ
ม่วงเสลา
ห้องสีม่วงเหมาะกับคนที่เซ็กซี่ ขี้เล่น หรือหากใครไปกับแฟนก็แนะนำห้องสีนี้เลยค่ะ โรแมนติก อบอวลไปด้วยความรัก ห้องน้ำของทุกบ้านจะมีขนาดเท่ากัน ปรับเปลี่ยนแค่สีค่ะ ดาดฟ้าก็เช่นกัน เรามาดูมุมสูงกันอีกทีจะเห็นบ้านสายรุ้ง 10 หลัง ทุกหลังหันหน้าเข้าหาทะเล แต่ละหลังอยู่ห่างกันกำลังดีมีความเป็นส่วนตัวค่ะ
ราคาบ้านพัก :
บ้านสายรุ้ง วันธรรมดา ( อ.- พฤ) 2,400 บาท วัน ศุกร์ – เสาร์ 2,800 บาท พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า ยกเว้นบ้านสีฟ้า วันธรรมดา ( อ.- พฤ) 2,500 บาท วัน ศุกร์ – เสาร์ 3,000 บาท
นอกจากบ้านสายรุ้งแล้ว หาดทรายแก้วรีสอร์ท ยังมีบ้านพักสำหรับหมู่คณะ 4-15 คน ซึ่งบ้านแต่ละหลังคำนึงถึงความสะดวกสบาย และความปลอดภัยจึงได้มีการสร้างทางเดินแบบสโลปสำหรับรถเข็น หรือสำหรับผู้สูงอายุที่เดินไม่ค่อยสะดวกค่ะอีกหนึ่งหลังที่อยู่โซนด้านหน้าของรีสอร์ท จะมีบ้านที่เพิ่งรีโนเวทใหม่น่าพักมากๆ ค่ะ เป็นบ้านหลังสีขาว ตกแต่งด้วยปูนเปลือยลวดลายคลื่นทะเล
ดูจากหน้าบ้านเหมือนไม่ใหญ่ แต่พอเปิดประตูเข้าไปเรียกว่าเป็นบ้านที่ขนาดกำลังน่ารัก สีครีมสบายตา ไม่ได้คับแคบเกินไป มีเตียงคู่สำหรับ 2 ท่าน
ตกแต่งด้วยธีมทะเล มีโมบายเปลือกหอย สมอ เห็นแล้วก็อยากกระโดดขึ้นเตียง เปิดเพลงบรรเลง แค่คิดก็มีความสุขแล้วห้องน้ำยังคงไม่ต่างกับบ้านสายรุ้ง ขนาดกว้างกำลังดีแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเช่นเดียวกันค่ะ
พาเพื่อนๆ ไปดูห้องพักกันเรียบร้อยแล้วเย็นย่ำพอดี เราเอาภาพบรรยากาศยามค่ำคืนมาฝากกันด้วยค่ะ บริเวณร้านอาหารของหาดทรายแก้วรีสอร์ท เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ เลยค่ะ ตอนคราวก่อนที่เราไปยังไม่เสร็จสมบูรณ์ กลับมาคราวนี้เห็นชัดถึงความสวยงาม
บริเวณสระว่ายน้ำ มีบาร์ เหมาะแก่การปิดรีสอร์ทปาร์ตี้มากๆ หากใครเคยอ่านรีวิวงานแต่งงานริมทะเลของเรา ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงานริมทะเลแบบส่วนตัวได้ในราคาไม่แพงค่ะมื้อเย็นของพวกเราเป็นซีฟู้ดสามารถสั่งกับทางรีสอร์ทได้โดยตรงค่ะ จัดมาเลยทั้งกุ้ง ปลาหมึก ปลา
ข้าวผัดสั่งเพิ่มได้ค่ะ
ต้มยำซีฟู้ดแซบจี๊ดจ๊าดปิ้งย่างสดๆ พร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ด ริมทะเลชิลล์ๆ อ๊ากกกคือฟินคือดีมากกค่ะ
บรรยากาศจะดีแค่ไหนก็ไม่รู้สึกเท่าเราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ^^
อย่างที่บอกค่ะว่าเราสามารถปิ้งย่างบนดาดฟ้า หรือจะยกมาริมทะเลแบบนี้ก็ได้ ทางรีสอร์ทใจดีมากบริการเต็มที่ค่ะ
เช้าวันใหม่…
ตั้งแต่จะตื่นมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น แต่พระอาทิตย์ก็ขี้อายหลับอยู่ข้างหลังก้อนเมฆซะอย่างนั้น แต่เอาเถอะแค่ได้ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในเช้าที่เหมือนมีแค่เราเท่านั้น
หนีลูกมานอนเปลชิลล์ๆ สักพักคนดีก็มานอนข้างๆ
นั่งมองทะเลยามเช้า มีเรือชาวประมงผ่านมาบ้าง
ได้เวลาอาหารเช้า เรามาทานที่ห้องอาหารกันค่ะ บริเวณเดียวกับที่เราเอาภาพตอนกลางคืนมาให้ชมกัน การตกแต่งในส่วนของร้านอาหาร เน้นความโปร่ง โทนสีขาว ผนังปูนเปลือย ลวดลายคลื่นทะเลเข้ากับบรรยากาศ นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้วยังมีให้บริการสินค้าที่ระลึก เช่น เสื้อยืด หมวก อีกด้วยค่ะ แวะไปดูมุมนี้ได้เลย
หรือจะไปนั่งทานอาหารที่ศาลาด้านหน้าติดหาดก็ได้ เช้าๆ ลมเย็นสบายแบบไม่ต้องเปิดพัดลมเลยค่ะ อาหารเช้าก็ง่ายๆ มีข้าวต้ม ขนมปัง กาแฟ
เป็นช่วงเวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ที่หาดทรายแก้วรีสอร์ท บ้านกรูด เรียกว่าเป็นสวรรค์บ้านกรูดได้อย่างเต็มคำเลยค่ะ กับที่พักติดหาดเป็นส่วนตัว เราเหมือนได้ชาร์ตแบตเต็มที่ ที่นี่เหมือนบ้านหลังที่สองไปแล้ว คงต้องกลับไปอีกเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ปีละครั้งเพราะไปแต่ละครั้งได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ กลับมาเขียนงาน เขียนรีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ลองไปพักกันดูนะคะแล้วจะหลงรัก หาดทรายแก้วรีสอร์ท
การเดินทาง :
- โดยรถยนต์ส่วนตัวใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ช.ม.
- รถไฟใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-8 ช.ม. (ขึ้นรถที่สถานีรถไฟหัวลำโพง หรือสถานีรถไฟธนบุรี) ลงสถานีบางสะพานแล้วติดต่อที่พักให้มารับ (อาจมีค่าใช้จ่ายสอบถามโดยตรง)
- รถทัวร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ช.ม. (ขึ้นรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่) ลง อ.บางสะพานแล้วติดต่อที่พักให้มารับ (อาจมีค่าใช้จ่ายสอบถามโดยตรง)
- รถตู้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ช.ม.
เบอร์โทรศัพท์ : 095-150-0492, 080-907-6561, 02-715-3031
facebook : หาดทรายแก้วรีสอร์ท บ้านกรูด ประจวบฯ
website : http://www.haadsaikaewresort.com/