ถ้าจิตใจช่วงนี้ว้าวุ่น จองตั๋วบินไปมูที่พม่ามั้ย บินไปย่างกุ้งแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ นี่อยากจะอวดค่ะว่า แม่ไข่ไปขอพรองค์เทพทันใจตอนสายๆ ตอนบ่ายวันนั้นก็ถูกหวยเลยจ้า ปังไม่ไหวว
ย่างกุ้ง แฟนตาซีใกล้บ้านเมืองที่สายมูต้องไปเก็บให้ครบ
สายแฟก็มีจุดให้ถ่ายรูปชิคๆ ฟีลยุโรป
สายคาเฟ่บอกเลยย่างกุ้งมีคาเฟ่เยอะมาก
สายบาร์แกรรเอ๊ยยย ค็อกเทลแก้วหลักสิบ
จะสายไหนไปย่างกุ้ง ฉบับลางานวันเดียวก็เที่ยวได้
ทริปนี้เราไปกัน 3 วัน 2 คืน
บินไปกับสายการบินแอร์เอเชีย
เวลาดีบินเช้าๆ ไปถึงเที่ยวได้เลย
ค่าตั๋วก็มีโปรให้สอยบ่อยๆ ราคาไม่กี่พันเอ๊ง
ก่อนเดินทาง แนะนำให้จอง Premium Flex ไปเลยค่ะ
สามารถเลือกที่นั่งแบบ Hot Seat ได้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม
ขึ้นเครื่องก่อนและรับกระเป๋าที่ปลายทางก่อนใคร
และยังได้อาหารอร่อยๆ ทานบนเครื่องด้วย
ข้อควรรู้เมื่อจะไปเที่ยวย่างกุ้ง พม่า
1.- ก่อนเดินทางต้องซื้อประกันการเดินทางและต้องไปยื่นที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ถ้าไม่มีไปไม่ได้ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ย. 66)
2.- พกเงินไทยไปแลกที่นั่นได้เรทดีกว่า เทคนิคคือแลกที่สนามบินแค่พอค่า Grab เล็กๆ น้อยๆ แล้วค่อยไปแลกในเมือง เช่น ไชน่าทาวน์ จะได้เรตดีมาก ที่แม่ไข่ได้มาคือ 1 บาท = 100 จ๊าต
3.- แต่ละสถานที่จะมีไกด์ท้องถิ่นที่พูดภาษาไทยได้ โดยเฉพาะที่เจดีย์ชเวดากอง ถ้าไม่แน่ใจว่าตรงไหนไหว้ยังไงถามได้ ให้สินน้ำใจตอบแทนไปตามตกลง
4.- Grab เรียกง่าย ราคาเริ่มต้นหลักสิบ คนขับพูดภาษาอังกฤษได้
5.- ใครติดโซเซียลต้องอัปรูปเรียลไทม์แนะนำให้เปิดโรมมิ่งเพราะจะเล่น FB , IG ได้ ถ้าใช้ซิม Local จะเล่นไม่ได้ ยกเว้น wifi ที่โรงแรมเล่นได้ค่ะ
6.- AirAsia Passport FantasyLand อย่าลืมประทับตราที่จุดเช็คอินขากลับด้วยนะ
AirAsia Passport FantasyLand สมุดสแตมป์และคู่มือการท่องเที่ยวสู่เมืองแฟนตาซีใกล้บ้าน ในแต่ละจุดหมายปลายทางกับแอร์เอเชีย ไอเทมใหม่ของนักเดินทาง สามารถหาซื้อได้บนเที่ยวบิน ของไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชีย เอ๊กซ์ ในราคา 99 บาท และยังได้คูปองส่วนลด 200 บาทอีกด้วย
เพียงเดินทางในเส้นทางต่างประเทศกับไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ สะสมตราประทับในแต่ละจุดหมายปลายทาง ร่วมสนุกเดินทางให้ครบในแต่แต่ละภารกิจ แลกรับรางวัล airasia points สูงสุด 200,000 คะแนน และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
มีทั้งหมด 8 ภารกิจให้ร่วมสนุกกัน พร้อมแล้ว… ลุยเลย!
ระยะเวลากิจกรรม : 24 เม.ย. 2566 – 30 ก.ย. 2567
รายละเอียดเพิ่มเติมการแลกคะแนนดูได้ที่
https://forms.gle/ZTrd3EtajH12kudo9
ซิม Local แนะนำเจ้านี้ค่ะมีขายที่สนามบิน 50G 35,000 จ๊าต (350บาท) แม่ไข่ซื้อมาแล้วหารกันเล่น 3 วัน 2 คืนยังเหลือเฟือ
ย่างกุ้งเที่ยวง่ายมาก เรียก Grab สะดวกทุกที่จากสนามบินไปใจกลางเมืองใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ค่า Grab ประมาณ 160 บาท
ย่างกุ้งมีโรงแรม 5 ดาว เยอะมากราคาไม่แพงด้วย แต่เราจองแบบกระชั้นชิดค่ะ เลยเลือกโรงแรม 3 ดาว ชื่อ Hotel Rose Hill ราคาน่ารัก 3,200 บาท 2 คืน หาร 3 ตกคนละ 1,066 บาท ตกคืนละ 500 นิดๆ ห้องกว้างมาก ทำเลใกล้ทะเลสาบกันดอจี และความน่ารักของโรงแรมคือเราไปถึงเกือบ 10 โมง แต่มีห้องว่างโรงแรมให้เช็คอินได้เลยค่ะ
Bothatown Pagoda เจดีย์โบตะทาวน์
ได้เวลาไปมูที่แรกกันแล้วเราไปที่เจดีย์โบตะทาวน์ก่อนเลยค่ะ
ค่าเข้าคนละ 10,000 จ๊าต เด็กต่ำกว่า 10 ปี ฟรี เจดีย์โบดาทาวน์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญในพม่า เนื่องจากในอดีตเคยใช้เป็นที่ประดิษฐานชั่วคราวของพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ระหว่างที่รอนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ชเวดากองเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ประดิษฐานของนัตโบโบจี หรือ ”เทพทันใจ” เทพศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของทั้งชาวพม่าและชาวไทยอย่างสูง
วิธีการขอพรต้องบูชาด้วยมะพร้าวและกล้วยนากสีแดง เพราะถือว่าเป็นผลไม้มงคล โดยจะมีแม่ค้าจัดเตรียมเครื่องบูชา เอาไว้ให้เป็นชุดๆ อยู่ที่บริเวณหน้าวัดเวลาขอพร ต้องนำธนบัตร 2 ใบซ้อนกันแล้วม้วนเป็นกรวย ใส่ไว้ในมือเทพทันใจ แล้วเอาหน้าผากแตะที่นิ้วชี้ท่านตั้งใจมั่งมั่น ต้องขอเพียงข้อเดียวเท่านั้นอย่าลืมเข้าไปชมวิหารพระพุทธรูปทองคำภายในวัด
ด้านในมีทั้งของเก่า ความสงบ ความสวยงาม ในแต่ละมุมจะมีคนมานั่งสมาธิ สวดมนต์ ขอพรด้วยค่ะ
อย่าลืมเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อขอพรเทพกระซิบด้วยนะคะ ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแล้วใช้ตั๋วที่เดียวกันได้เลย
วิธีขอพรจากเจ้าแม่กระซิบ จะบูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก และผลไม้ และกระซิบเพื่อขอพรท่านเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้นซึ่งส่วนใหญ่จะขอโชคลาภกันค่ะ
Shan Kitchen
มูที่แรกเสร็จแล้วจะพาไปทานของอร่อยที่ร้าน Shan ร้านนี้เสิร์ชในเว็บพม่า และอีกหลายเว็บไซต์บอกว่าต้องไปชิมให้ได้นะเปิดประตูเข้าไปคือว้าว น่ารักจัง ตกแต่งแบบโมเดิร์นผสมผสานความพม่าชั้น 2 เป็นมุมให้นั่งพื้นแบบโต๊ะญี่ปุ่น
อาหารคือมีครบเลย ทั้งก๋วยเตี๋ยวพม่า ข้าวผัด ของทอดใดๆ บ้านไหนที่พาลูกไปด้วยไปร้านนี้มีของที่เด็กทานได้แน่นอนค่ะ หนังไก่ทอดอร่อยแบบตะโกนจนต้องสั่งเบิ้ล อาหารเริ่มต้น 3,500 จ๊าต มื้อนี้หมดไป 21,000 จ๊าต คุ้มมาก
Chauk Htat Gyi pagoda วัดเจ๊าทัตยี
อิ่มท้องแล้วไปมูกันต่อที่วัดพระนอนตาหวาน
พระตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี เป็นพระนอนองค์ใหญ่ที่สุดของพม่า มีความยาว 65 เมตร นอนตะแคงขวา และถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามที่สุดในพม่า พระพักตร์ได้รูป ทาสีขาว ขนตางอนยาว ดวงตาเป็นแก้ว เปลือกตาสีฟ้า แต้มสีแดงที่พระโอษฐ์ จีวรพริ้วไหวราวกับของจริง จึงได้ชื่อว่าพระตาหวาน
ที่ปลายสุดพระบาทมีภาพวาดลายธรรมจักรฝ่าพระบาท รายล้อมด้วยรูปมงคล 108 ประการ แสดงถึงโลกทั้ง 3 คือ เครื่องหมาย 59 ประการ แสดงถึงอากาศโลก เครื่องหมาย 21 ประการแสดงถึงสัตวโลก และเครื่องหมาย 28 ประการแสดงถึงสังขารโลก
หลังมีพระพุทธรูปสีขาว ล้อมด้วยพญานาคสีเขียว สวยงามมาก ให้ได้กราบไหว้ ขอพรกันด้วยค่ะ
Maha Wizaya Pagoda เจดีย์มหาวิชยะ
อยู่ติดกับเจดีย์ชเวดากองทางทิศใต้ เจดีย์มหาวิชยเจดีย์ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2523
มีความเชื่อของชาวเมืองว่า มีพระเกศาธาตุอีกสองเส้น ลักษณะเด่นของมหาวิชยเจดีย์ ห้องโถงอลังการ เจดีย์สีขาว-ทอง เพดานเป็นท้องฟ้า ผนังรอบๆ เป็นภาพต้นโพธิ์ มีภาพพุทธประวัติของพระ พุทธเจ้า ตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูป 8 องค์
ด้านในสวยงามและเงียบสงบมากเลยค่ะ
Shwedagon Pagoda เจดีย์ชเวดากอง
ค่าเข้าคนละ 10,000 บาท เด็กต่ำกว่า 5 ขวบฟรี
ไฮไลต์สายมูทริปนี้ที่ เจดีย์ชเวดากอง ไปพม่าหลายครั้งแต่เพิ่งเคยไปชเวดากองครั้งแรกเลยค่ะ ว้าวมากๆ ตะลึงมากๆ แฟนตาซีสุดๆ แนะนำให้ไปตอนเย็นแสงสวยและไม่ร้อนด้วยค่ะ
องค์เจดีย์หลักสีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขาประกอบด้วยหลายชั้นสร้างบนฐานแปดเหลี่ยม บริเวณระเบียงแปดเหลี่ยมของฐานองค์เจดีย์นั้นมีเพียงพระภิกษุเท่านั้นที่สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ ส่วนตรงกลางองค์เจดีย์เป็นรูประฆังคว่ำที่องค์ระฆังมีลวดลายคาดตรงกลาง ใต้สายคาดเป็นลายเฟื่องอุบะ เหนือสายคาดเป็นลายกรวยเชิงสามเหลี่ยม องค์ระฆังหุ้มด้วยโลหะปิดด้วยทองคำเปลวที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ไปนุ่งโสร่ง ใส่ผ้าถุง เดินเที่ยวดินแดนแฟนตาซีที่ชเวดากอง สำหรับผ้ามีขายด้านหน้าเลยค่ะราคา 80- 120 บาท เลือกสีได้ตามใจชอบเลยค่ะ
ใครกลัวไหว้ไม่ถูกทำไม่เป็นไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนไม่ต้องกังวลค่ะ จะมีเจ้าหน้า หรือไกด์ท้องถิ่นที่ส่วนใหญ่พูดภาษาไทยได้เดินเข้ามาหาเลย พร้อมกับพาไปไหว้ให้ครบทุกจุดตามที่ต้องการ ราคาประมาณ 200-300 บาทตามตกลงค่ะ
ตรงนี้เป็นการไหว้ประจำวันเกิด ซึ่งแต่ละวันมีรูปปั้นไม่เหมือนกัน
- วันอาทิตย์ รูปปั้นครุฑ
- วันจันทร์ รูปปั้นเสือ
- วันอังคาร รูปปั้นสิงห์
- วันพุธพุธกลางวัน รูปปั้นช้างมีงา
- วันพุธกลางคืน รูปปั้นช้างไม่มีงา
- วันพฤหัสบดี รูปปั้นหนูใหญ่หางสั้น
- วันศุกร์ รูปปั้นหนูหางยาว
- วันเสาร์ รูปปั้นพญานาค
เคล็ดในการไหว้
1.เทวดาองค์สีเหลืองทอง รดน้ำขอพร 3 ครั้ง
2.พระพุทธเจ้า รดน้ำขอพรตามอายุ + 1 ครั้ง เช่น อายุ 30 ต้องรด 31 ครั้ง
3.เสา 3 ครั้ง
4.ครุฑ 6 ครั้ง
นอกจากนั้นยังมีจุดให้ขอพรกันอีกหลายจุดเลยค่ะ เช่น เทพทันใจ พระสำเร็จหรือพระประทานพร แม่ยักษ์ พ่อแก่ หรือจะไปขอลูกก็มีให้เลือกเพศเพื่อขอพรได้อีกด้วยค่ะ
ไปตอนเย็นแล้วอยู่ถึงแสงสวยๆ ตอนกลางคืน งดงามมากค่ะ
Day 2 : ตื่นมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมและไปเดินเล่นริมทะเลสาบกันดอจี เป็นทะเลสาบที่ชิลล์มากค่ะ มีสะพานไม้ทางเดิน หรือวิ่ง ได้เพลินๆ เลย แต่น่าเสียดายเราไปถึงฝนตกหนักเลยค่ะ
ทะเลสาบกันดอจีเป็นทะเลสาบเทียมที่ชาวอังกฤษเป็นผู้ขุดขึ้นเมื่อเข้ามาปกครองในช่วงอาณานิคม เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำสะอาดให้กับเมือง ซึ่งไฮไลท์สำคัญของทะเลสาบกันดอจีคือภัตตาคารการะเวก ซึ่งเป็นเรือพระที่นั่งสีทองขนาดใหญ่จอดอยู่ริมทะเลสาบ ซึ่งจำลองมาจากเรือของกษัตริย์พม่าในอดีต โดยเคยใช้เป็นสถานที่ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของรัฐบาลพม่า
St. Mary’s Cathedra
ไปตามหาย่านชิคๆ ตึกชิโนโปรตุกีสสไตล์ยุโรปในเมืองย่างกุ้งกันค่ะ เริ่มจากโบสถ์ St. Mary’s Cathedra เป็นโบสถ์คาทอลิกมหาวิหารที่ใหญ่สุดในพม่า สร้างมาแล้ว 120 ปี ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ปี 2539 จาก Unesco ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฮอลแลนด์ วันที่ไปเค้าปิดเลยไม่ได้ถ่ายด้านในค่ะ
Myanmar Survey Research
ตึกคลาสสิกที่ยังคงเป็นที่ทำงานอยู่ ด้านหน้ามีรถทัวร์จอดเยอะเลยค่ะ
Sule Pagoda เจดีย์ซู่เล
ตามตำนานบอกว่าเจดีย์นี้สร้างก่อนเจดีย์ชเวดากองอีกค่ะตรงนี้เป็นวงเวียนคล้ายๆ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิบ้านเราค่ะ แต่ไม่วุ่นวายเท่า ใครเงินหมดตรงนี้มีที่แลกเงินด้วยนะ เรทดีด้วย
ข้ามถนนยังไงให้ได้รูป
Mahar Bandula Park
ด้านหน้ามี street food เต็มไปหมด ส่วนด้านในจะมี The Independence Monument ยอดเสาสีขาวสูงราว ๆ 50 เมตร เป็นสวนที่ชิลล์มากๆ
Yangon City Hall
เป็นอาคารสีขาวหลังใหญ่ดูโอ่อ่ามีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสไตล์โคโรเนียลและเมียนมา มุมนี้สวยงามฟีลยุโรปเลยค่ะ
ตลาดสก็อต หรือ Bogyoke Aung San Market
สร้างขึ้นในค.ศ. 1926 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศพม่าตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของประเทศอังกฤษ โดยเชื่อกันว่าชื่อของตลาดแห่งนี้ตั้งขึ้นตามชื่อของ Gavin Scott ผู้บัญชาการเทศบาลเมืองย่างกุ้งในขณะนั้น จนกระทั่งเมื่อพม่าพ้นจากการเป็นอาณานิคมในปีค.ศ. 1948 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อตลาดเป็นโบ-ยก อองซาน
สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นผ้าถุง โสร่ง ที่มีให้เลือกเยอะมาก
ปัจจุบันตลาดได้แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนเก่าที่ยังอยู่ที่เดิม ส่วนโซนใหม่ย้ายมาฝั่งตรงข้ามในห้าง Junction city ถือเป็นห้างใหญ่ใจกลางเมืองเลยค่ะ
Rangoon tea house golden valley
เป็นคาเฟ่ชื่อดังในย่างกุ้งที่มีหลายสาขา เราเลือกไปที่ Street Shwe Taung Kyar St เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ที่รวมคนเก๋ๆ มาไว้ที่นี่
ร้านมี 2 ชั้น มีหลายโซนเลยล่ะ แต่ละโซนก็คนละบรรยากาศ คือมันดีอ่ะ แม่เลิฟร้านนี้มาก ในส่วนของอาหารก็ฟิวชั่นเลยค่ะ หลากหลายแนวอยากทานแบบไหนมีหมด ทั้งติ่มซำ ก๋วยเตี๋ยวพม่า โรตี ใดๆ คือเมนูเยอะมาก มื้อนี้หมดไปเกือบ 1,000 บาท หาร 3 คนก็คือราคาดี เพราะอิ่มจุกๆ มาก
Café Coffee Lab
พิกัดหน้าห้างติดกับ Wyndham hotel ร้านจะอยู่บนรถแบบนี้เลย น่ารักมากค่ะ
ติดกับมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ตรงบันไดติดกับรถเลยค่ะ
ว่าจะไปหา Steet Food ทานที่ไชน่าทาวน์แต่ฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เลยเปลี่ยนไปหาบาร์ดีๆ นั่งดีกว่า
Vista Bar
ใครสาย Rooftop bar ต้องไปที่นี่เลยนะ ถ้าฝนไม่ตกคือนั่งจิบชมวิวเจดีย์ชเวดากองได้เลย
ถ้าฝนไม่ตกตรงนี้คือเปิดโล่ง เป็น Rooftop ที่คนพม่าแนะนำว่าอันดับ 1
เครื่องดื่มในแก้วกระบอกเลนส์จ้าา เก๋ไปอี๊ก ราคาค็อกเทลแก้วละประมาณ 60-80 บาท บารากุก็มีนะ 200 เอง อาหารมีเยอะมากกกก ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี พม่า กับแกล้มก็เริ่ดDay 3
เช้านี้เดินทางกลับไฟลท์ 08.30 น. ปิดจ๊อบทริปสายมูแบบฟินๆ กิน เที่ยว จัดเต็ม เที่ยวพม่าแฟนตาซีดีกว่าที่คิด งบนิดเดียวก็ไปได้ แล้วจะไปเก็บให้ครบทั้งเล่มนี้เลย
ทริปนี้แม่ไข่หมดคนละ 3,000 บาท (ไม่รวมตั๋ว)
ราคานี้รวมค่าที่พัก 2 คืน อาหาร การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แล้ว
เหตุผลที่ถูกมากๆ อีกข้อคือแลกเงินได้เรตดีค่ะ
ไปมูให้ปังกดจองตั๋วเลย https://air.asia/Vho8e