ช่วงเทศกาลเทศกาลลอยกระทง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี ประเพณีอันดีงามเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาพระแม่คงคา ซึ่งปีนี้ River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในงานเดียวที่จะได้ทั้ง ล่องแสงมงคล ยลแสงศิลป์ ท่ามกลางบรรยากาศแห่ง “แสงมงคลส่องสว่าง” ระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน นี้
ซึ่งก่อนจะไปลอยกระทงตอนเย็นนั้นเมลลี่อยากพาไปเที่ยวยังท่าน้ำมงคลที่ย่านเมืองเก่าที่เดินทางสะดวกได้ทั้งทางเรือ และรถยนต์ โดยเริ่มต้นที่การไปชมความงามของแสงมงคล 3 ท่าน้ำ โดยทั้ง 7 ท่าน้ำที่เปิดพื้นที่สืบสานวิถีดีงามของชุมชนไม่ให้สูญหาย ชวนให้ชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาลอยประทีปขอขมาแม่พระคงคากันค่ะส่องแสงมงคล 3 ท่าน้ำ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
สิริมงคลยามค่ำคืน
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ วัดที่คนไทยคุ้นเคยกันดี และเป็นสถานที่สำคัญระดับสากล เพราะยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์ 1,140 ชิ้น เป็นมรดกความทรงจำโลก
กิจกรรมที่ วัดโพธิ์ เน้นกิจกรรมที่เสริมสิริมงคลค่ะ เมลลี่ไปถึงตอนเย็นแสงกำลังสวยพอดี ผู้คนไม่มากเท่าไร กำลังสบายๆ เลยค่ะ ชาวต่างชาติก็ให้ความสนใจกันเยอะทีเดียว กิจกรรมเด่นๆ ที่วัดโพธิ์ ได้แก่ จุดประทีปบูชารอยพระพุทธบาทจำลอง นมัสการพระพุทธไสยาสน์ พิธีครอบน้ำพระพุทธมนต์
เดินออกมาจากวัดโพธิ์ เมลลี่ชวนคุณพ่อไปชมความงดงามของพระเมรุมาศ ที่บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งมีนิทรรศการ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมความสวยงามได้รอบละ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 พ.ย. 60 ตั้งแต่เวลา 07.00 – 22.00 น. ค่ะ ด้วยความที่คนค่อนข้างเยอะมาก เมลลี่เลยได้แต่ชื่นชมความงามจากด้านนอก ขนาดได้เห็นในระยะไกลนั้นยังงดงามมากเลยค่ะ
หลังจากนั้นเพื่อนๆ เดินไปขึ้นเรือข้ามฟากเราไปต่อที่ท่าน้ำมงคลท่าต่อไปกันเลย ไปที่วัดอรุณฯ กันค่ะ
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง อีกวัดฝั่งตะวันตกของเจ้าพระยา เดินทางง่ายแค่ข้ามเรือจากฝั่งวัดโพธิ์ กิจกรรมที่นี่เมลลี่อยาก ชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ลุง ป้า น้า มา มาสวดมนต์ เจริญสมาธิ และเวียนเทียนสักการะพระปรางค์ 4 ทิศ ทำประทักษิณโดยรอบ ก่อนตั้งจิตอธิษฐานลอยประทีปบูชาพระปรางค์วัดอรุณจำลองสูง 5 เมตร
ไปเที่ยวงานลอยกระทงวัดอรุณฯ จะอิ่มใจ อิ่มกาย อิ่มท้อง เพราะมีตลาดชุมชนออกร้าน ขายอาหารคาวหวานสูตรต้นตำรับ คึกคักทีเดียวค่ะ ใครมากราบสักการะวัดนี้ชีวิตจะรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน เพราะ “วัดแจ้ง” มีความหมายว่า อรุณรุ่ง ซึ่งเป็นนิมิตหมายแห่งมงคลฤกษ์
บรรยากาศยามค่ำคืนค่ะ
ท่าน้ำมงคลท่าต่อไป เราไปกันที่ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
สักการะพระบรมธาตุมหาเจดีย์ ลอยประทีปแสงเทียนแห่งศรัทธา
วัดประยุรวงศาสวรวิหาร วัดนี้เมลลี่เพิ่งเคยไปครั้งแรกเลยค่ะ เป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ 3 ตั้งอยู่เชิงสะพานพุทธยอดฟ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของย่านชุมชนวัฒนธรรม 3 ศาสนา ซึ่งงานลอยกระทงจัดงานคึกคัก ไฮไลต์สำคัญคือ พระบรมธาตุมหาเจดีย์ เจดีย์ทรงลังการูประฆังคว่ำองค์ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงรัตนโกสินทร์ มีชื่อเสียง คว้ารางวัล Award of Excellence จากโครงการประกวดรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี พ.ศ. 2556 ที่ต้องไปชมด้วยตาตัวเองสักครั้งนะคะ
วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร มีกิจกรรมสุขใจห้ามพลาด สักการะหลวงพ่อโต หรือพระพุทธไตรรัตนนายก (ซำปอกง) ซึ่งมีความเชื่อว่าช่วยสร้างปัญญา เสริมบารมีให้ค้าขายร่ำรวย การงานก้าวหน้า ด้วยการเขียนชื่อบนเทียนแดง หรือจะทำบุญหีบสมบัติเจ้าสัวโต รับความมั่งคั่งก็ตามกำลังศรัทธา
บรรยากาศงานคึกคักร้านค้าให้เลือกมากมายเลยค่ะเมลลี่ไปเก็บภาพมาฝากตั้งแต่หัววันเลยค่ะ นอกจาก อิ่มบุญ อิ่มใจ แล้วอิ่มท้องกลับบ้านกันเลย
ยลแสงศิลป์ 4 ท่าน้ำ
ไปทำบุญสุขใจกันแล้ว เมลลี่จะพาไปยลแสงศิลป์ริมน้ำกันบ้างนะคะ ปีนี้จัดกันหลายท่าน้ำเลยค่ะ ได้แก่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ท่ามหาราช ยอดพิมาน และที่เที่ยวเปิดใหม่ ล้ง 1919
ท่ามหาราช
ช้อป ชม ชิม ริมเจ้าพระยา เส้นทางสัญจรระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี
ท่าน้ำยอดฮิตริมเจ้าพระยา จุดนัดพบใหญ่ ที่นี่ยังคงการสัญจรระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี ทำให้มีกลิ่นอายของวิถีชีวิตของคนกรุงในอดีต ซึ่งในลุ่มน้ำของเขตพระนครเคยเป็นศูนย์กลางความเจริญ การขนส่งและการค้าขายริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นจุดชมวิวอันสวยงามริมฝั่งเจ้าพระยาอีกแห่งที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจ เนื่องจากยามค่ำคืนที่น่าตื่นตาตื่นใจนั่นเองค่ะ
มี ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย และที่สำคัญมีมุมสวยๆ เก๋ๆ ให้ถ่ายภาพแล้วแชร์อวดเพื่อนๆ ในโซเซียลอย่างเพลิดเพลิน เมลลี่สนุกกับที่นี่จนไม่อยากไปที่อื่นเลยค่ะ
ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค
เดินชิลล์ ชิลล์ ริมน้ำ ยลความทันสมัยในกลิ่นอายของวันวาน ชื่นชมวิถีชีวิตแห่งตลาดที่ไม่เคยหลับไหล
จากท่ามหาราชสามารถเดินต่อไปยังยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค ที่นี่แม้ว่าจะไม่คึกคักเท่าที่อื่นนัก แต่ก็เหมาะสำหรับคู่รัก หรือเพื่อนๆ ที่อยากไปยืนชมวิวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสงบๆ เพราะบริเวณชั้นสองจะสามารถมองเห็นโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา และสามารถเดินเที่ยวตลาดดอกไม้ริมแม่น้ำที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ได้อีกด้วย
ปิดท้ายทริปดีๆ ที่ ล้ง 1919 กันค่ะ
ล้ง 1919 (LHONG 1919)
แลนด์มาร์กแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
อาคาร ประวัติศาสตร์ ไทย – จีน อายุ 167 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นท่าเรือกลไฟและโกดังเก่าอายุกว่า 160 ปี ซึ่งเป็นมรดกของตระกูล หวั่งหลี ทางตระกูลตั้งใจปลุกอาคารที่หลับใหลมายาวนานขึ้นมามีชีวิตชีวาในปัจจุบันอีกครั้ง แต่คงรูปร่างหน้าตาดั่งเดิมไว้จนทำให้อาคารและพื้นที่สาธารณะแห่งนี้มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย-จีน และที่เที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ อีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลต์ที่ล้ง 1919 ก็คือ ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ซึ่งประดิษฐานอยู่คู่กับฮวย จุง ล้ง มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง-ปัจจุบัน องค์เจ้าหม่าโจ้วทำขึ้นจากไม้ มีทั้งหมด 3 ปาง ได้แก่ ปางเด็กสาว ปางผู้ใหญ่ และปางผู้สูงอายุ ทั้ง 3 ปางนี้ชาวจีนได้นำขึ้นเรือมาจากจีน เมื่อถึงประเทศไทยก็ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ชาวจีนที่เดินทางมาค้าขายในไทยก็มักที่จะมาสักการะขอพร ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว จึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนจีนในแผ่นดินไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
สัมผัสมนต์เสน่ห์ริมสายน้ำแห่งวัฒนธรรม ท่ามกลาง “แสงมงคลส่องสว่าง” ยามค่ำคืนที่แสงจันทร์วาวระยับคู่กับแสงเทียนตลอดริมโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยาในงาน “River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน นี้ จัดเต็มพร้อมกัน ณ 7 ท่าประวัติศาสตร์ ริมฝั่งเจ้าพระยา ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค, ท่ามหาราช, เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์, และท่าไฮไลท์ใหม่ “ล้ง 1919”
นับเป็นโอกาสพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่ในงานเดียวจะได้ “ล่องแสงมงคล” กับการสักการะไหว้พระทั้ง 3 วัด ยามค่ำคืน ไปพร้อมกับการ “ยลแสงศิลป์” กับประติมากรรมแสงไฟอันวิจิตรตระการตาทั้ง 4 ท่าน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศแห่ง “แสงมงคลส่องสว่าง” ตลอดริมโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงสะท้อนศิลปวัฒนธรรมและประเพณีลอยกระทงอันแสนงดงามของไทยเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
กิจกรรมภายในงานอาทิ พิธีเสริมสิริมงคลโบราณ, ลอยประทีปเพื่อมงคลแห่งชีวิต, สวดมนต์ เจริญสมาธิ, ศาลามงคลส่องสว่าง, ร้านถิ่นประชารัฐ, เพลินศิลป์ร่วมสร้างโดยวิชช่วลอาร์ทิสต์ชื่อดัง กับการประดับตกแต่งสถานที่ด้วยวัสดุจากชุมชนและการประดับไฟ, และยังเพลิดเพลินอร่อยเด็ดไปกับร้านค้าชุมชนมากมาย รวมไปถึง งานมหกรรมตลาดนัดประชารัฐ ที่นอกจากจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้กับชุมชนแล้ว ยังเป็นการนำของดี ของเด่น ประจำจังหวัดทั่วประเทศ และร้านอาหารรสเด็ด มารวมไว้ในงานเดียวให้ได้ช้อป ชิม ชม ตลอด 3 วัน 3 คืน พร้อมเรือบริการฟรีทุก 20-30 นาที ใน 2 เส้นทาง 7 ท่าน้ำ ตั้งแต่ 4 โมงถึง 5 ทุ่ม
และอีกหนึ่งความชื่นชอบของบรรดานักถ่ายภาพคือกิจกรรมประกวดภาพถ่าย “One shot Knock Out @ Lhong1919” ในวันที่ 5 พ.ย. รวมทั้งกิจกรรมสแตมป์ 3 วัด รับของที่ระลึก “ผางประทีปส่องสว่าง” และอีกความพิเศษสำหรับครั้งนี้ รับหนังสือนำเที่ยวงานพร้อมแผนที่ “อร่อยเด็ดร้านดังแหล่งประวัติศาสตร์ห้ามพลาด” และเช่นเคยกับน้องๆ “เยาวชนเจ้าบ้านสืบสานวัฒนธรรม” ที่จะมาบอกเล่าเกร็ดน่ารู้และเรื่องราวความภูมิใจของชุม โดยจัดอบรมในวันที่ 7 ต.ค. ที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับน้องๆ
แล้วมาพบกันในงาน “River Festival 2017 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ครั้งที่ 3 “แสงมงคลส่องสว่าง” มาร่วมสืบสานมรดกไทยในแบบร่วมสมัยไปสู่สากล ณ 7 พื้นที่จัดงานหลัก ริมโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างวันที่ 3-5 พฤศจิกายน นี้ นะคะ