หลังเลิกงานหลายคนมีวิธีผ่อนคลายแตกต่างกันไป บ้างก็ชอบไปออกกำลังกาย บ้างก็ชอบไปนั่งชิลล์ฟังเพลง หรือหลายคนก็ชอบไปหาของอร่อยๆ ทาน เที่ยวแบบกรูจะพาไปร้านที่ช่วยให้รู้สึกรีแลกซ์หลังจากเหนื่อยมาทั้งวันมีครบทั้งอาหารอร่อย เพลงเพราะ ในบรรยากาศสบายๆ สไตล์ฮอลแลนด์ที่ไม่ต้องตีตั๋วบินไปทานแค่ไปที่ย่านราชพฤกษ์ เช็คอินกันที่ Villa De Bear (วิลล่า เดอ แบร์) ค่ะ
เป็นอีกหนึ่งร้านที่แม่ไข่ไปแฮงเอ้าต์กับเพื่อนๆ บ่อยๆ ถึงกับต้องถึงคราวรีวิวสักทีแล้วล่ะ Villa De Bear (วิลล่า เดอ แบร์) ร้านที่โด่งดังตั้งแต่เพิ่งเปิดร้านเมื่อปีก่อน กับสัญลักษณ์หมีสีดำตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้าร้านใครผ่านไปอดใจไม่ไหวขอเซลฟี่หรือถ่ายรูปคู่กับพี่หมีกันหน่อย
Villa De Bear มี Mascot พี่หมีสีดำตัวใหญ่ยักษ์ ชื่อ “Villy” เป็นหมีที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ และชอบการทานอาหารมาก ไปชิมอาหารอร่อย ๆ มาทั่วทุกที่ และเก็บรายละเอียด เก็บสิ่งดี ๆ ที่พบเจอทั้งหมด มารวมกันไว้ที่นี่ เกิดขึ้นเป็นร้าน “Villa de Bear”
ไปถึงร้านฟ้าก็ไม่เป็นใจฝนก็ตกลงมา แม่ไข่ขอปรับโทนสีสักหน่อยเพื่ออรรถรสนะคะ
เมื่อก่อนทางเข้าร้านจะสามารถเข้าได้ทางข้างหน้าโซนขนม แต่ว่าตอนนี้เข้าได้ทางเดียวคือทางนี้เลยค่ะ ร้านมีทางลาดสำหรับรถเข็นด้วย และใครสายปั่นก็มีที่จอดรถจักรยานให้ด้วยนะคะ
เข้ามาก็จะเจอกับโซนขนมเข้าไปรู้สึกเหมือนเป็นบ้านของคนรักของหวานจริงๆ ตกแต่งได้อบอุ่น น่ารัก
เมลลี่บอกว่าอยากขึ้นไปนั่งข้างบนกับพี่ๆ ตุ๊กตา
ละลานตาด้วยเค้กน่ากินไปหมด เมลลี่เจอช็อกโกแลตไม่ได้รีบสั่งเลยอร่อยดีนะคะ ชิ้น 90-100 จำราคาเป๊ะ ไม่ได้
ด้านนอกมีมุมสวนเล็กๆ ให้นั่งเล่น
เข้าไปดูโซนอื่นๆ กันค่ะ
อย่างที่เล่าว่าร้านเป็นเรื่องราวของหมี Villy ดังนั้นบรรยาศร้านก็จะเหมือนโรงงานตุ๊กตา เราไปดูโซนแรกกันค่ะ
โซนลำเลียง (Indoor) เปรียบเสมือนสายพานการผลิตเสียงตุ๊กตาหมีเพื่อที่จะไปอยู่ในบริเวณโชว์สินค้า
โซนจัดแสดง (Indoor) เอกลักษณ์ของห้องนี้ที่ไม่ควรพลาดในการถ่ายรูปคือโซฟาหมี Villy
นอกจาก Villy หมีตัวใหญ่แล้ว ยังมีเพื่อนๆ ของ Villy ที่อยู่ตามมุมต่างๆ ของร้าน น่ารักทุกมุม ถ่ายรูปสนุกมากเลยค่ะ
Open Air (Outdoor)
จะเป็นโซนของบาร์น้ำเหมาะกับบรรยากาศ สังสรรค์ นั่งชิลล์ ดื่มเครื่องดื่มนานาชนิดที่ทางร้านคัดสรรมาจากทั่วทุกมุมโลก เคล้าไปกับเสียงเพลงดนตรีสด เรียกได้ว่าเป็นโซนสำหรับวัยรุ่น วัยทำงาน นัดเจอเพื่อนเพื่อสังสรรค์
ในส่วนของอาหารนั้นก็มีเยอะมาก ไปทีไรก็สั่งไม่ค่อยซ้ำกันเลยค่ะ แต่จะมีเมนูที่สั่งบ่อยสุดคือ
สลัดกุ้งภูเขาไฟ ราคา 260 บาท ชอบน้ำสลัดอร่อยมากและกุ้งตัวใหญ่ทอดมากรอบกำลังดี เข้ากันดีมากๆ
รากบัวทอด ราคา 140 บาท เมนูนี้เป็นออเดิร์ฟทานเพลินๆ แป๊บเดียวหมด
บัพฟาโล่วิงส์ ราคา 190 บาท เป็นเมนูโปรดของเมลลี่ค่ะ ทานเกือบหมดคนเดียวอร่อยจริงๆ
สปาเก็ตตี้แบล็กอิ้งค์พิ้งค์ซอสเนื้อปู ราคา 260 บาท ของโปรดของคุณพ่อ เป็นสปาเก็ตตี้ที่ผัดไม่แห้งเกินไปเส้นเหนียว นุ่ม อร่อยมากขึ้นเพราะมีเนื้อปู
Taro Mousse (Tubie) ราคา 130 บาท เมนูขนมเด่นของร้านต้องมีพี่หมีน่ารักจนไม่กล้าทานเลยค่ะ
Pana Cotta ราคา 170 บาท ทานคู่กับผลไม้สด
นั่งทานของอร่อยกันไปเวลาก็ผ่านไปไวมากก เสียดายที่โซน outdoor ไม่ได้เปิดเนื่องจากฝน ไม่อย่างน้ันจะฟินไปกว่านี้อีกค่ะ
ไปดูบรรยากาศยามค่ำที่ Villa de Bear จะสวยมาก ระยิบระยับด้วยแสงไฟ ตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงิน
BBQ Punch ราคา 130 บาท รสชาติจะเปรี้ยวๆ ดื่มแล้วสดชื่นมาก
เป็นร้านที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว จะชวนเพื่อนไปเฮฮาก็เพลิดเพลินมาก ใครกำลังมองหาร้านน่ารัก โดยเฉพาะคนรักหมีต้องไม่พลาด
Villa De Bear
: 5 ถนน ราชพฤกษ์ บางระมาด ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
: 098 496 6245
เปิดบริการ : 17.00 – 24.00 น. เสาร์ อาทิตย์ 11.00 – 24.00 น.
Facebook : https://www.facebook.com/villadebear/