ครอบครัวหัวหยองพาเที่ยวเชียงใหม่ ม่อนแจ่ม ตามหาดอกเวอร์บีน่า แม่กำปอง เขื่อนแม่งัด และอีกหลายที่ ฤดูฝนเชียงใหม่ใครว่าไม่น่าไป ทริปนี้กินเที่ยวแน่นมาก
DAY 1
Chic 39 – บ้านสวนเฟื่องฟ้า – โป่งแยงซิปไลน์แอนด์จังเกิ้ล โคสเตอร์
เชียงใหม่.…ไปเท่าไรก็ไม่เคยพอจริงๆ ต้องเล่าก่อนว่าปกติแล้วเราเป็นคนชอบเที่ยว แต่ไม่ชอบไปที่เดิมๆ เหตุผลเพราะอยากเอาเงินไปที่ที่ยังไม่เคยไปบ้าง ยกเว้นเชียงใหม่ที่เราบ่อยมากๆ ไปปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 2 รอบ และครั้งนี้เป็นการเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูฝนครั้งแรกของ ครอบครัวหัวหยอง
เราใช้บริการสายการบิน Thai Lion Air นี่เป็นการเดินทางด้วยสายการบินนี้ครั้งแรกของครอบครัวค่ะ มีโปรบ่อยๆ นะ ไปกลับพันกว่าบาทเกือบๆ สองพันลองดูค่ะ หรือไม่งั้นก็จองผ่านบริษัทรับจองตั๋วเครื่องบิน อย่าง Traveloka ได้ค่ะ โปรตั๋วถูกก็ออกมาเกือบทุกสัปดาห์ ลองเปรียบเที่ยวราคาตั๋วไทยไลออนแอร์ กับ Traveloka กันค่ะ ยิ่งถ้าจองผ่านแอป ราคาก็ยิ่งถูกลงด้วยค่ะ ไม่มีบัตรเครดิตก็จองได้นะ เค้ามีหลายช่องทางการชำระเงินให้เลือก ลองดูกันค่ะ
เด็กน้อยเฝ้ามองเครื่องบิน โชคดีมากๆค่ะที่เมลลี่ขึ้นเครื่องตั้งแต่ 6 เดือน ปีนี้ขึ้นเครื่องติดกันเกือบทุกเดือนเลยแต่มนุษย์แม่ก็ยังกังวล เพราะนางไม่ยอมคาดเข็มขัดนี่แหละค่ะ รอบนี้ได้นั่งแถวหน้าสุดและต้องขอบคุณแอร์คนสวยมากๆ ที่มาดุให้น้องคาดเข็มขัดเมลลี่กลัวก็เลย ยอม (จริงๆ ไม่ดีเลยพ่อแม่นี่แหละต้องจัดการให้ได้) แม้นางจะร้องโวยตอน Take off แต่ก็เงียบในที่สุด ^^
Chic 39
ถึงสนามบินเชียงใหม่ 10.15 น. ตรงเวลาดีค่ะ มีรถตู้จากบ้านสวนเฟื่องฟ้า ที่พักสำหรับทริปนี้ของเราไปรับถึงสนามบินเลยค่ะดีงาม ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินไปที่พักประมาณ 20 นาที เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเช็คอินเราก็ขอไปทานมื้อเที่ยงก่อน ที่ร้านสุดฮอตในแม่ริม Chic39 ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านสวนเฟื่องฟ้าสามารถเดินไปได้เลยค่ะ
Chic39 เป็นการสร้างจากแนวคิดผสมผสานระหว่างความโมเดิร์นกับท้องถิ่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของต้องเป็นสถาปนิกแน่นอนกับไอเดียที่เก๋และสามารถแสดงตัวตนมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนโดดเด่นที่สุดในแม่ริม
Chic39 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Bed Bar & Bakery ที่นี่มีทั้งที่พักสุดชิค ร้านอาหารแสนอร่อยและขนมแค่หน้าตาก็ชนะเลิศ
เมนูซิกเนเจอร์ต้องเป็นพิซซ่าแผ่นบางกรอบ ตกแต่งสวยงามแถมอร่อยด้วยนะคะ
สาวกคนรักชีสทั้งหลายไปที่ Chic39 อร่อยทุกอย่างโดยเฉพาะขนมหน้าตาสวยมาก อย่างเมนูนี้ ทับทิมชีสเค้ก และมะม่วงชีสเค้ก ชิ้นละ 129 บาท ไม่เคยชิมทับทิมชีสเค้กมาก่อนคือดีงามมากค่ะชาเขียวคาราเมล มัสเมโร่ คิชแคท มิลล์เชค 139 บาท เมนูนี้เป็นที่ฮือฮามากตอนมาเสิร์ฟคือมันดูอลังการมาก โต๊ะข้างๆ ยังมาแอบถาม “พี่ๆ อันนี้อะไร” นอกจากความน่ากินที่ทะลักแก้วแล้ว ความอร่อยก็เช่นกัน
นอกจากอาหารแล้วที่นี่ยังมีห้องพักให้บริการอีกด้วยค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติม >> CHIC39 | BED BAR & BAKERY | ที่เดียวครบ
บ้านสวนเฟื่องฟ้า
อิ่มท้องแล้วอยากเห็นห้องพักแล้วสิ ขอกลับไปที่บ้านสวนเฟื่องฟ้าก่อนค่ะ
บ้านสวนเฟื่องฟ้า แม่ริม เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก มีแม่น้ำปิงไหลผ่านทางด้านหลังของรีสอร์ท รายล้อมด้วยสีเขียวของต้นไม้น้อยใหญ่ มีอาคารที่พัก 2 อาคาร เรือนไทยหลังใหญ่ 1 เรือน เรือนไทยหลังเล็ก และบ้านพักสำหรับ 6 คน พร้อมห้องประชุม ฟิตเนส เห็นแบบนี้แล้วใครชอบพักสไตล์กรีนชีวิตสงบๆ ตอบโจทย์มากค่ะเราพักห้องนี้เลยห้อง Premier Deluxe คืนละ 2,500 บาท ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นผสมล้านนา ผนังสีเขียวอ่อนกลมกลืนกับธรรมชาติ มีตู้เสื้อผ้า ทีวี ตู้เย็นห้องน้ำกว้างขวางดี
สามารถอ่านรีวิวบ้านสวนเฟื่องฟ้าอย่างละเอียดได้ที่ >> หนีความวุ่นวายไปพักกาย| บ้านสวนเฟื่องฟ้า | เชียงใหม่
โป่งแยงซิปไลน์แอนด์จังเกิ้ลโคสเตอร์
พักผ่อนล้างหน้าล้างตาให้หายเหนื่อยแล้ว พร้อมที่จะไปเที่ยวต่อแล้วค่ะ ไปเล่นซิปไลน์ไปซิ่งรถบนรางไม้กันมั้ย? เป็นสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในแพลนเลยนะ นั่งๆ หาที่ไปตอนอยู่ที่ร้าน Chic39 ในเมื่อคุณสามีอนุมัติ แถมพี่สุนันท์แห่งบ้านสวนเฟื่องฟ้าจะไปด้วย (ใครพักที่นี่เช่ารถตู้พร้อมคนขับพาเที่ยวได้นะคะวันละ 1,800 บาท ขับดีมาก) แถวพี่สุนันท์ใจดีมากบอกจะดูเมลลี่ให้ คุณแม่ก็สบายละงานนี้ ^^ #ยิ้มกว้างหน้าบาน
มาถึงแล้วก็เข้าไปซื้อตั๋วด้านในกันเลยค่ะ ราคาก็จะมีแพคเกจใหญ่เล่นได้ทุกสิ่งอย่าง 2,200 บาท เราเลือกเป็น 650 บาท เล่นซิปไลน์ได้ 12 เส้น 150 บาท จังเกิ้ล โคสเตอร์ 1 รอบ
จ่ายเงินแล้วก็ไปเปลี่ยนชุดใส่อุปกรณ์ให้พร้อม ขุ่นแม่พร้อมมากค่ะ!ฟังคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่ก่อนการเล่น เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนนะคะ
ฐานแรกพร้อม! ไปเล้ยยย ท่าสวยมาก
แต่ในส่วนของขุ่นแม่นั้น ทำไมหมุนติ้วๆ อย่างนั้นละคะ
จะมีเจ้าหน้าที่ 2 คนประกอบเราค่ะ คือคนแรกจะเล่นไปรอรับ บริเวณเส้นกลางๆ เราจะได้เห็นน้ำตกที่อยู่ข้างล่างด้วยนะคะ ใครจะไม่แข็งพอเอาแค่มองไปข้างล่างก็พอเนอะ
เส้นสุดท้ายจะเป็นสามล้อค่ะ ทำท่าประหนึ่งปั่น 55 ขอบคุณพี่ๆ ทั้งสองคนด้วยที่เล่นพร้อมกับเรา ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย
จบจากซิปไลน์มาเล่นรถซิ่งบนรางไม้กันต่อ ใช้เหรียญไปหยอดที่เครื่องค่ะ ขึ้นไปนั่งบนรถเจ้าหน้าที่จะอธิบายวิธีการเล่น พร้อมแล้วเสร็จแล้วก็ได้เวลาซิ่ง
เล่นเหนื่อยแล้วมาเพิ่มความสดชื่นกันหน่อยที่นี่มีร้านกาแฟให้บริการด้วยค่ะ
มุมพักเหนื่อยสุดชิลล์เราอยู่ที่โป่งแยงซิปไลน์แอนด์จังเกิ้ลโคสเตอร์จนปิดเลยค่ะ
การเดินทาง : ต.โป่งแยง อ.แม่ริม ใช้เส้นทางเดียวกับไปม่อนแจ่มค่ะ
หลังจากนั้นตั้งใจจะไปเดินถนนคนเดียว หาข้าวข้าวเย็นร้านในเมือง ปรากฏว่าฝนตกหนักมากถึงมากที่สุดก็ทานอะไรง่ายๆ ละกัน กลับไปถึงที่พักสลบเลยค่ะ
____________
DAY 2
วัดพระพุทธบาทสี่รอย – ภูสันฟ้า – วัดบ้านเด่น – เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล
วันนี้ไม่ได้ตื่นเช้ามากมายหลับสบายดีค่ะ ตื่นไปทานข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จแล้วเดินถ่ายรูปโรงแรมสักพักล้อหมุนสายๆ ประมาณ 10 โมง วันนี้จะพาสายบุญไปเข้าวัดเข้าวาบ้าง เผื่อใครอยากพาครอบครัว พ่อ แม่ มาเที่ยวทำบุญ นอกจากตัวเมืองเชียงใหม่ที่มีวัดเก่าแก่เยอะมากแล้ว เราจะพาไปเที่ยววัดในแม่ริมกันบ้าง วัดนี้เลยค่ะ “วัดพระพุทธบาทสี่รอย” การเดินทางไปวัดเป็นทางขึ้นเขา ลาดชันบางช่วง
เป็นวัดที่มีที่จอดรถเยอะมาก ไฮไลต์ทางนี้เดินขึ้นบันไดไปเลยค่ะ คนเฒ่าคนแก่เดินสบายๆ ไม่สูงมากค่ะ
มีตำนานเล่าว่าตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จออกโปรดสัตว์และเผยแผ่พระธรรมคำสอนมายังดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบันพร้อมด้วยพระสาวกประมาณ ๕๐๐ รูปมาจนถึงภูเขาลูกหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศไทยปัจจุบัน เรียกว่า “ภูเขาเวภารบรรพต” พระพุทธองค์ก็ได้รู้ด้วยญาณว่าบนเทือกเขาแห่งนี้เคยมีพระพุทธเจ้าอีก ๓ พระองค์เสด็จมาเยือนแล้ว ได้แก่ พระพุทะเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ และพระพุทธเจ้ากัสสปะ และทุกพระองค์ประทับพระบาทลงบนก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งบนภูเขาลูกนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ความสวยงามอีกแห่งคือโบสถ์ด้านใน จะเดินไป หรือขับรถไปก็ได้ค่ะ
ถ่ายรูปได้ไม่กี่รูป เมฆฝนตั้งเค้ามาก้อนใหญ่ได้เวลาล้อหมุนไปยังอำเภอแม่แตงกันต่อค่ะ อำเภอนี้มีวัดที่สวยงามอีกหนึ่งแห่งที่เราขอยกให้เป็นวัดที่สวยที่สุดในเชียงใหม่เลยค่ะ แต่ก่อนไปวัดแวะไปทานข้าวเที่ยงกันก่อนที่ ภูสันฟ้า
ภูสันฟ้า
ภูสันฟ้า อยู่ใน อ.แม่แตง ทางเดียวกับไปเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลค่ะ ภูสันฟ้าเป็นที่พักและร้านอาหารวิวสวย
สะพาน ท้องนา ภูเขา เป็นภาพที่สวยงามสำหรับวันนั้น หากมีโอกาสจะมาพักที่นี่สักคืนเห็นภาพม้าวิ่งบริเวณป้ายทางเข้า เราก็นึกว่าเป็นภาพกราฟฟิคที่ไหนได้ ของจริงที่สวยงามประหนึ่งภาพวาดมุมวิวงาม
มาดูอาหารกันบ้าง เราสั่งกันง่ายๆ ค่ะ มียำ แหนมเนือง ต้มยำไก่บ้าน เห็ดทอด (จำชื่อเมนูเป๊ะๆไม่ได้นะคะ)
รสชาติอาหารกลางๆ เอาจริงๆ อิ่มกับบรรยากาศทุกทีเวลาไปเจอที่สวยๆ ข้าวปลาไม่ค่อยได้กินเท่าไร แค่ชิมๆ เท่านั้นเอง ตบท้ายด้วยเค้กสักชิ้น 90 บาท ค่ะ โอเคเลย
วัดบ้านเด่นสะหลีศรีเมืองแกน
สายบุญไปกันต่อกันที่ วัดบ้านเด่นสะหลีศรีเมืองแกน ชื่อยาวมาก เรียกสั้นๆ ว่า วัดบ้านเด่น ค่ะ คำว่า “สะหลี” ในภาษาเหนือ หมายถึง ต้นโพธิ์ ความสวยงามของวัดนี้ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ รู้แต่ว่าสวยมาก สวยจนแทบลืมหายใจเลยค่ะท่ามกลางแดดเปรี้ยงๆ ฟ้ากำลังสวยงามแต่สองพ่อลูกนั่งหมดแรงซะอย่างนั้น
ท่านครูบาเจ้าเทือง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ เป็นที่เรียกขานว่า เป็นเกจิสหายหรือครูบาสองพี่น้อง คู่กับกับครูบาบุญชุ่ม เกจิดังแห่งสามเหลี่ยมทองคำ หากมองจากภาพมุมสูงจะเห็นว่า วัดตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากและใหญ่โตมากเลยค่ะ
งดงามเหมือนพระราชวัง เรากำลังจิตนาการถึงสมัยอยุธยาเลยล่ะ สิ่งที่น่าอัศจรรย์และเกิดความสงสัยสำหรับเรามากก็คือ วัดแห่งนี้ตั้งแต่ก้าวแรกและก้าวสุดท้ายก่อนขึ้นรถกลับนั้น ไม่มีพระภิกษุ สามเณร จำพรรษาอยู่ในวัดนี้เลย คือไม่เห็นพระสักรูปว่าอย่างนั้นเถอะ ซึ่งสอบถามแล้วได้ความว่ามีเพียงท่านครูบาเจ้าเทือง อยู่เพียงรูปเดียวเท่านั้น แต่ยากที่ใครจะได้พบเห็นท่าน
การเดินทาง
ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่ – ฝาง ผ่านสามแยกแม่มาลัย อำเภอแม่แตง จากนั้นให้สังเกตป้ายทางเข้าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลทางด้านขวามือ เลี้ยวขวาเข้าไปไม่ไกลมาก จะเจอซุ้มยินดีต้อนรับสู่เทศบาลเมืองแกน เมื่อลอดซุ้มแล้วให้เลี้ยวซ้ายซอยเล็ก ๆ ก่อนถึงสนามกีฬา แล้วก็ตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอวัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ
เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล
อันนี้ก็ไม่ได้อยู่ในแพลนตั้งแต่แรกเลยค่ะ คือเห็นว่าเวลาเหลือ ไปไหนต่อดียังไม่อยากกลับเจอป้ายเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เอาซะหน่อยสิยังไม่เคยมาด้วย ไปถึงประมาณ 4 โมงเย็น นักท่องเที่ยวแทบไม่มีเลยค่ะ เรือจอดกันอยู่เรียงราย ลำละ 400 บาท นั่งได้ 8 คน
ที่เขื่อนแม่งัดมีแพให้บริการเกือบๆ 10 เจ้า ตอนขึ้นเรือเราไม่ได้ถามว่าเค้าจะพาไปแพไหน ซึ่งใครจะไปหาข้อมูลก่อนก็ดีนะคะ เพราะอย่างที่บอกมีแพหลายเจ้า ลำที่เรานั่งเค้าพาไปที่ แพน้องแอน
แพน้องแอน อยู่ด้านใน แต่ไม่ได้ในสุด ยังไม่ทันจะถึงแพฝนก็เทเลยจ้ากิจกรรมสำหรับคนนอนแพคือเล่นน้ำ หากมาเป็นแก๊งค์น่าสนุกนะปิ้งย่างไป เล่นน้ำไป
ใครอยากพักที่นี่ก็มีให้บริการทั้งห้องสำหรับ 2 คน ห้องใหญ่สำหรับหมู่คณะ ราคาก็
ฟ้าหลังฝนสดชื่นมากค่ะ มีหมอกเล็กๆ ถามน้องเค้าบอกว่าถ้าหน้าหนาวหมอกลอยมาถึงหน้าบ้านพักเลย คือดี
เรือมารับเกือบๆ 6 โมง ตั้งใจจะรอดูพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนนะเหรอ ดูเมฆแล้วไม่น่าจะได้เห็นเลยกลับกันดีกว่าพวกเรา ออกจากเขื่อนแม่งัด มุ่งหน้าตัวเมืองค่ะ ซึ่งก็ไปหาร้ารเด็ดร้านน่านั่งไปตามหาแกงเห็ดเผาะ หรือเห็ดถอบ สักถ้วยอยากกินมาก เราเลือกไปที่ร้าน บ้านไร่ยามเย็น ตามคำแนะนำของพี่สุนันท์แห่งบ้านสวนเฟื่องฟ้าค่ะ ร้านนี้บรรยากาศดีมากใครอยากทานอาหารแบบคนเมืองไปร้านนี้ไม่ผิดหวัง อร่อยทุกอย่างแถมไม่แพงด้วย อย่าถามหารูปเลยไปถึงมืดแล้วร้านค่อนข้างมืดถ่ายยากค่ะ จบวันที่สองแบบไม่ได้เหนื่อยมากมายแต่ถึงที่พักสลบเลยจ้า
______________
DAY 3
ม่อนแจ่ม – บ้านม่อนม่วน – แม่กำปอง – ร้านกาแฟไจแอนท์ (แต่ดันไปวันที่ร้านปิด) – ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่าง – สนามบิน
ม่อนแจ่ม
เช้าวันสุดท้ายของทริปนี้ ตั้งแต่มากที่จะไปถ่ายดอกเวอร์บีน่าที่ม่อนแจ่ม ตื่นตี 5 กว่าๆ เพื่ออาบน้ำ แต่งตัวให้พร้อม เช็คเอ้าต์กันแต่เช้าตรู่ จากที่พักไปม่อนแจ่มใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ม่อนแจ่มสำหรับเราแล้วครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่ 4 แต่ไม่เคยเก็บภาพดีๆ ได้เลยเพราะคนเยอะมาก เราโชคดีมากที่วันนั้นเป็นวันจันทร์ จึงได้ภาพแบบนี้ค่ะ
หมอกเล็กๆ ในวันที่ไร้ผู้คน
มีความสุขทุกครั้งที่ได้มานั่งห้อยขาชมวิวสวยๆ แบบนี้
อ่านรีวิวม่อนแจ่มเพิ่มเติมได้ที่ >>>ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ฤดูฝนมันใช่เลย!
บ้านม่อนม่วน
บ้านม่อนม่วน อยู่ห่างจากม่อนแจ่มไม่ไกลมาก สำหรับเราแล้วเราเคยมาพักที่นี่ 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้มาเพื่อทานข้าวเช้ากันที่นี่ค่ะ
บ้านม่อนม่วน ในฤดูฝนเขียวชะอุ่มกะหล่ำปลีเต็มภูเขา สบายตา สบายใจ ส่วนเมนูอาหารเช้าของที่นี่จะมี 2 แบบ คือ ข้าวต้ม กับ American Breakfat ราคาประมาณ 150-200 บาท (จำราคาเป๊ะๆ ไม่ได้) อย่าถามหารูปประกอบนะเพราะว่าหิวมาก หิวสุดๆ พออิ่มแล้วนึกได้ว่า อ้าว! ลืมถ่ายรูป
อ่านรีวิวเพิ่มเติมอันนี้เราเขียนเอง >>ความสุข 36o องศา ที่บ้านม่อนม่วน
โครงการหลวงตีนตก
เป็นอีกหนึ่งที่พักที่เราอยากไปนอนฟังเสียงลำธารสักคืน โครงการหลวงตีนตกอยู่ระหว่างทางก่อนถึงหมู่บ้านแม่กำปอง เป็นจุดที่เราสามารถแวะชมวิว จิบชา กาแฟ ก่อนเดินทางต่อ
ราคาบ้านพัก ?
บ้านธารใส ต.ค. – ก.ย. 4,800 บาท มี.ค. – ก.ย . 3,800 บาท พักได้ 4 คน
บ้านริมธาร ต.ค. – ก.ย. 3,850 บาท มี.ค. – ก.ย . 2,850 บาท พักได้ 3 คน
บ้านธารริน ต.ค. – ก.ย. 2,000 บาท มี.ค. – ก.ย . 1,500 บาท พักได้ 2 คน
เตียงเสริม 500 บาท
หมู่บ้านแม่กำปอง
ชิลล์ๆ ที่โครงการหลวงตีนตกสักพัก ก็ได้เวลาไปต่อกันที่ “หมู่บ้านแม่กำปอง” ก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านเราจะเจอกับร้านกาแฟสุดชิคที่ต้องเดินลงไปข้างล่าง ทางเดินเป็นอะไรที่ดีงามมาก ประหนึ่งเดินเข้าไปในป่าแบบนั้นเลย ” Ted du Coffee” คือชื่อร้านนี้ค่ะ
เป็นร้านที่มีน้ำตกเล็กๆ มันชิลล์มาก ส่วนกาแฟหรือชา เราไม่ได้ชิมนะเพราะเพิ่งแน่นจากโครงการหลวงตีนตกออกจากร้านมุ่งหน้าเข้าหมู่บ้านเลยค่ะ มองจากป้ายหน้าหมู่บ้านแล้วประหนึ่งเรากำลังขับเข้าสู่ดินแดนสีเขียว หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางป่าใหญ่
ไปถึงแวะจัดมื้อเที่ยงที่ร้าน “เฮือนกาแฟ” ก่อนเลยค่ะ เลยเวลามาบ่ายกว่าแล้ว สั่งตามนี้เลยก๋วยเตี๋ยว คุณสามีสั่งผัดมะระใส่ไข่ (อารมณ์ไหน) คือเอาเป็นว่าผัดมะระใส่ไข่ ที่เราถามว่าสั่งมาทำไม กลับเป็นเมนูเดียวที่กินได้แบบอร่อย ^^
ไปล้างปากด้วยกาแฟกันต่อ (จัดกาแฟทั้งวัน) ร้านที่ห้ามพลาดทุกคนต้องไปถ่ายรูปมุมนี้ที่ “ร้านชมนกชมไม้” ถอดรองเท้าก่อนเข้าร้านนะคะ ขากลับก็หยิบรองเท้าตัวเองนะคะ อย่าใส่สลับคู่ล่ะ #แชว (ไม่ใช่วัดนะแก)
มุมชมวิวหมู่บ้าน อีก 5 ปีกลับมาดูรูปนี้ ถ้าป่ายังหนาแน่นแบบนี้เป็นอะไรที่ดีมากๆ ต้องถ่ายรูปมุมนี้สินะ จะหันหน้า หันข้าง นั่งเอียง ตามสะดวกและอย่าลืมโพสต์รูปอวดเพื่อนเช็คอินว่าข้ามาถึงแล้ว 555
เรามีเวลาที่แม่กำปองแค่ครึ่งวันเองค่ะ แต่เที่ยวเยอะมาก ไปได้หลายที่จริงๆ ประหนึ่งชะโงกทัวร์เลย แต่หลายที่ก็ไปยืนซึมซับอยู่นานเลยนะ เล่าในนี้คงจะยาวมากๆ ไปอ่านต่อตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
อ่านรีวิวหมู่บ้านแม่กำปองเพิ่มเติม >>>13 ภาพเล่าเรื่อง หมู่บ้านแม่กำปอง ไปทำอะไรดี?
หรือใครอยากไปพักที่สำราญชนโฮมสเตย์ >>>สำราญชนโฮมสเตย์ | แม่กำปอง | บ้านใหญ่ในป่าสีเขียว
ร้าน Ever Green
ออกจากหมู่บ้านแม่กำปอง ตั้งใจมากๆ จะไปเยือนร้านกาแฟไจแอนท์ ร้านกาแฟต้นไม้สักครั้งเถอะนะ แต่ลืมไปว่า ร้านปิดวันจันทร์ค่ะ ย้ำอีกทีนะคะ ร้านปิดวันจันทร์ 55 คือขำตัวเองมีป้ายติดไว้ตามทางด้วยนะ แต่ไหนๆ ก็ไปแล้วขอไปเห็นหลังคาก็ยังดี บ้าเนอะ ทางขึ้นไปร้านกาแฟไจแอน์ ค่อนข้างลาดชัน ขับยากเลยล่ะ แต่รถตู้แห่งบ้านสวนเฟื่องฟ้าชนะเลิศค่ะพาเราไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย เอาแล้วไง ร้านปิดเราเลยไปเจอร้านใหม่เข้า ชื่อร้าน ” Ever Green “
ที่นี่เป็นทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร และที่พักในตัว ตอนที่เราไปในส่วนของที่พักยังไม่เรียบร้อยแต่ตอนนี้พร้อมเปิดให้บริการแล้วค่ะ เป็นที่พักที่เรียกว่าเหมือนนอนในป่าเลยล่ะ ใครสายนอนเต็นท์ มีที่กางเต๊นท์ด้วยนะ และที่สำคัญเจ้าของร้านน่ารักมาก
ลงจากเขา อ.แม่ออน ประมาณเกือบ ๆ 5 โมง ขึ้นเครื่องสองทุ่มกว่า ๆ ยังมีเวลาหาข้าวกินก่อน (กินทั้งวัน)
ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่าง
ร้านนี้อยู่ อ.หางดง ค่ะ จาก เป็นร้านที่เรียกว่าใหญโตมา มีกรุ๊ปทัวร์มาลงด้วยนะ บรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้รายล้อม มีน้ำตกเล็กๆ นั่งทานข้าวไปได้ยินเสียงน้ำทุกมุม
มุมริมน้ำก็ดีนะคะ
ก่อนกลับขอจัดออเดิร์ฟเมืองเหนืออีกสักหน่อยก่อนลาจาก
ยังคงสั่งเมนูเห็ดเผาะมาอีกแล้ว อร่อยมาก เข้มข้นมากผัดฟักแม้วของโปรด
อาหารของร้านไม่แพงเท่าไรค่ะ หมดไป 1,000 ถ้วน มีอีก 2 เมนูนะไม่ได้ถ่ายไว้ค่ะเพิ่งจะมีรูปลูกดีๆ ที่นางยิ้มแค่รูปเดียว ทริปนี้เมลลี่ไม่ค่อยสบายท้องกินอะไรก็อ้วกออกมาเลยไม่อยากถ่ายรูปเท่าไร แต่พอได้นั่งเรือทีไรอาการตื่นเต้นก็กลับมา ยิ้มร่า ^^
ออกจากร้านข้าวเม่าข้าวฟ่าง ประมาณ 6 โมงกว่า ใช้เวลา 15-20 นาที ถึงสนามบิน เป็นทริป 3 วัน 2 คืน ที่เที่ยวแน่น เที่ยวเยอะ และยังเก็บภาพแต่ละที่ได้ครบมาก ยกเว้นร้านไจแอนท์ที่เดียวที่พลาดไป ใครอยากตามรอยทริปนี้มีสถานที่ให้เลือกเยอะเลยค่ะ
เราใช้บริการเช่ารถจากบ้านสวนเฟื่องฟ้า ใครไปเป็นแก๊งค์ หรือพาครอบครัวไปเที่ยว เหมาะมากเพราะราคาแค่ 1,800 บาท เท่านั้นสำหรับตัวเมือง อำเภอรอบนอก ถ้าขึ้นเขาไกลๆ 2,000 บาทต่อวันค่ะ ติดต่อคุณสุนันท์ 081 671 5108 จ้าวว
ใครอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ib ในเพจได้เลยนะคะ
#เที่ยวแบบกรู
#เที่ยวเชียงใหม่
#แม่กำปอง
#บ้านสวนเฟื่องฟ้า
#ม่อนแจ่ม