เที่ยวแบบกรู>> พาแฟนเพจไปเที่ยวในกิจกรรม “อัยญาใจดีเที่ยวฟรียกก๊วน” ทริปนอนแพแช่น้ำ แวะไปเช็คอินทางรถไฟสายมรณะ ทัวร์บ้านอีต่อง – ปิล็อก แวะไปดูหมอกหน้าฝนที่เนินช้างศึก ทริป 2 วัน 1 คืน พักเพลิน เที่ยวแน่น
ผ่านไปแล้วสำหรับกิจกรรมสนุกๆ ที่เพจ “เที่ยวแบบกรู” จัดขึ้นเป็นครั้งแรก กับการพาแฟนเพจไปเที่ยว ฟรี! นี่ฝันไว้ตั้งแต่ยังไม่ทำเพจเลยนะว่าถ้าเกิดวันหนึ่งทำเพจขึ้นมาก็อยากพาแฟนๆ ไปเที่ยวบ้าง ซึ่งในที่สุดความฝันก็เป็นจริง #มงลง เมื่อผู้ใหญ่ใจดี อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท มาชวนไปเที่ยว #กราบผู้ใหญ่ใจดี เอาจริงๆ เลยค่ะ ไม่เคยได้ยินชื่อแพนี้มาก่อนเลยในชีวิต แต่พอเข้าไปดูในแฟนเพจ ” อัยญาแม่น้ำแควรีสอร์ท” เฮ้ย ! น่าไปมากๆ จัดการเล่นเกมทันที ซึ่งแต่ละคนอาจจะได้เห็นแอดมินประกาศผลรางวัลในชุดคอกระเช้าปากสีม่วง ที่สร้างความสะพรึงไปทั่วพระนครที่ผีคุณอุบลยังต้องหลีกทางให้ 55 (ยังจะกล้าหัวเราะ) และแล้วเราก็ได้ผู้โชคดีทั้งหมด 3 คู่ นี่คือโฉมหน้าของพวกเค้าค่ะ !
ทริปนี้เป็นการเดินทางของแอดมินสุดเฟี้ยว (ที่ลูกปั๋วไม่ได้มาด้วยเลยหอบเพื่อนไปแทน) กับแฟนเพจที่นึกว่าเป็นเพื่อนที่พลัดพรากจากกันมานานหลายปี เม้ามอยกันตั้งแต่ประตูรถปิดลง ที่น่าปลื้มใจมากคือมีแฟนเพจของเราที่มาจากต่างจังหวัดด้วย #ปลาบปลื้ม #น้ำตาจิไหล ทุกคนต่างพูดคุยทำความรู้จักกันจนกระทั่งถึงจุดหมายแรก
ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ อ.ไทรโยค กาญจนบุรี
ล้อหมุนออกจากเมืองกรุงประมาณ 8.30 น. สถานที่แรกที่ลงจอดเช็คอินคือ ทางรถไฟสายมรณะและถ้ำกระแซ
ถ้ำกระแซ สถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่ขึ้นชื่อในกาญจนบุรี ที่จะต้องไปสักครั้ง เป็นที่พักของเชลยศึกในช่วงที่มีการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ไทย-พม่า เดินเล่น ชมวิว ถ่ายรูปกันสักพักก็ได้เวลาล้อหมุน
“การเดินทางของเรา (ทั้งหมดนี้) คือการเรียนรู้
การเรียนรู้ของเรา (ทั้งหมดนี้) คือความเข้าใจ ”
เนื้อเพลงของสุชาติ แฟนเก่า (มโน) ก็ผุดขึ้นมาในความรู้สึก ตลอดสองข้างทางที่เรากำลังมุ่งหน้า อ.ทองผาภูมิ
“อ้าว! ไม่ได้พักไทรโยคหรอกรึ” เสียงหนึ่งเกิดคำถาม ตอนแรกเราก็เข้าใจแบบนี้มาตลอดว่านอนแพเมืองกาญ ถ้าไม่นอนแพริมแม่น้ำแคว ที่ไทรโยคก็ไปนอนแพในเขื่อน แต่ก็ลืมนึกไปว่า แม่น้ำแคว นี่ไม่ได้ไหลผ่านแค่ อ.ไทรโยคนะเออ ไปเถอะสหาย ข้าจะพาไปเปลี่ยนมุมมองใหม่ของการนอนแพ
จากถ้ำกระแซ ระยะทางเกือบๆ 100 กิโลเมตร เม้ากันไปจนหลับไปบ้างลืมตาขึ้นมาถึงแล้ว “อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท” ที่พักสำหรับทริปนี้ของพวกเรา เย่!
จากป้ายด้านบนขับรถต่อไปอีกไม่ไกล เสียงของความตื่นเต้นของสมาชิกลูกทัวร์ของเราเริ่มจะตื่นเต้นร้องกันระงม (นั่นมันกบแล้ว! )ช้าก่อน ! ทุกคนอยากเห็นห้องพักกันแล้วใช่มั้ยแต่เราจะยังไม่พาไปนะคะ เพราะเรารู้ว่าทุกคนกำลังหิวมากๆ ขอเชิญที่ห้องอาหารของรีสอร์ทกันก่อนเลยค่ะห้องอาหารของรีสอร์ทจะอยู่ด้านบนซึ่งจะทานทั้งมื้อเที่ยง มื้อเย็น และมื้อเช้ากันที่นี่เลยมาแล้วเมนูแรก ไข่เจียว อาหารง่ายๆ เบสิคๆ แต่ไม่รู้ทำไมมันอร่อยมากๆ กะเพราไก่แซบเวอร์ปลาทับทิมทอด เนื้อปลาสดมาก กระเทียมยังอร่อยนี่แย่งกันกินกระเทียมด้วย 55
กับข้าวชุดแรกถูกเสิร์ฟลงมาพวกเราก็จ้วงสิคะจะรออะไร
เป็นมื้อที่อร่อยมากๆ
อิ่มแล้วได้เวลาไปดูห้องพักกันค่ะ ซึ่งเราต้องเดินลงไปด้านล่าง
ล็อบบี้เล็กๆ พร้อมกับพนักงานที่เป็นลูกชายเจ้าของทั้ง 4 คนรอต้อนรับ (หล่อๆทุกคนเลย) #ป้าใจสั่น
อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท มีแพ 5 หลัง หลังละ 5 ห้อง นอนได้ห้องละ 2 -3 คน
ว้าววว เสียงกรี๊ดกร๊าดด้วยความตื่นเต้น เมื่อพวกเราทั้งหมดยกกระเป๋ามาถึงแพที่พัก
ห้องพักของอัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท จะมีหลายแบบ ห้องนี้เหมาะกับครอบครัวค่ะ นอนได้ 3 คน (เห็นห้องนี้แล้วคิดถึงสามีและลูกมากๆ) ภายในห้องจะมีชูชีพสำหรับ 3 คน เตรียมไว้ให้ น้ำดื่ม 2 ขวด มีแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีทีวี ตู้เย็น
นอกจากจะมีห้องสำหรับ 3 คนแล้ว ยังมีห้องเตียงเดี่ยว เตียงคู่ ที่เลือกพักได้ว่าจะนอนแบบไหน ซึ่งทุกห้องจะมีขนาดเท่ากันค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำเหมือนกันทุกห้องค่ะ มีครีมอาบน้ำ ยาสระผม พร้อม ขาดแค่แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เตรียมไปเองนะ
เมื่อวางกระเป๋าเข้าห้อง ถ่ายรูป โพสต์ลงโซเซียลให้เพื่อนๆ อิจฉาเล่นแล้ว เราทั้งหมดก็มารวมกันด้านหน้า แต่ไม่ได้คุยอะไรกันหรอกนะ เพราะแต่ละคนก็มีมุมของตัวเองนี่ก็คงกำลังแชทอยู่ พร้อมกับมีเจ้าปากดำนอนอยู่ข้างๆ
เจ้าปากดำคงส่งสัญญาณว่าพี่ฮะ มาพักผ่อนวางโทรศัพท์บ้างก็ได้นะ
หรือจะนั่งเล่นหน้าแพเอาขาจุ่มน้ำ อยากบอกว่าน้ำหน้าแพใสนะคะ มองเห็นขาตัวเองเลย
นางแบบน่าร้าากกอ่ะ ขออีกสักรูปนะคะ ^^
กิจกรรมสนุกๆ ของที่นี่คือ การพายเรือจากต้นน้ำกลับมารีสอร์ท ซึ่งพวกเราก็ตั้งใจมากจะแข่งกันพายเลยล่ะ แต่ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดังนั้นก็ต้องนั่งชิลล์ พักผ่อนตามอัธยาศัยนะทุกคน
แอบไปส่องแพอื่นทุกคนก็นั่งชิลล์เหมือนกันนะ
ฝนตกพรำๆ แต่ก็มีผู้ชายพายเรือผ่านแพของพวกเรา ลุกขึ้นสิคะทุกคน! ไปพายเรือกับผู้ชายกันดีกว่า ^^
ถ้าอย่างนั้นจะรออะไร เปลี่ยนชุดใส่ชูชีพ คว้าไม้พายลงเรือเลยสิคะ!
ไม่ต้องกลัวเพราะเรามีทีมงานคุณภาพคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ โดยเฉพาะคนนี้พายเรือเก่งมากกกกค่ะ
กระโดดน้ำหน้าแพก็เป็นอีกกิจกรรมที่สนุกมากๆ เรานี่โดดไป 2 รอบ ว่ายน้ำไม่เป็นด้วยนะแต่ไม่รู้สึกกลัวเลย
คนถ่ายภาพแบบเราก็คาดหวังจะได้แสงสีทองหลังพระอาทิตย์ตก แต่ฝนตกแบบนี้ยังจะหวังอีกเหรอคะ แต่สิ่งที่ได้เห็นคือหลังในฝนตกเมื่อมองไปยังยอดเขา เราจะเห็นหมอกเต็มไปหมดเลยค่ะ
ซูมเข้าไปดูชัดๆ นี่มันสวรรค์ชัดๆ
เล่นน้ำ พายเรือ กระโดดน้ำ ท่ามกลางฝนตกก็สนุกดีเหมือนกันนะ เล่นกันจนหมดแรงทุกคนก็ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะไปทานมื้อเย็นกันค่ะ
มื้อเย็นก็มาเต็มๆ ทั้งปลาราดพริก ผัดผัก ลาบหมู แกงไก่ พวกเราทุกคนย้ำตรงนี้เลยนะคะว่า อาหารของ อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท อร่อยทุกอย่าง ขนาดผัดผักที่เป็นเมนูธรรมดาๆ (ที่ใช่ใครก็ทำอร่อยนะเออ) ยังอร่อยมากจนแย่งกันกิน 55 พี่คนขับรถบอกกับเราว่า นี่เฉยๆ นะ แม่ครัวคนเก่าอร่อยกว่านี้อีก หราาาามีอร่อยกว่านี้อีกเหรอพี่
บรรยากาศแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ แป๊บเดียวก็มืดค่ำ บรรยากาศที่อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท เงียบสงบน่านอนมาก
แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งหนีไปนอน ตอนนี้มันต้องเม้ามอยชนแก้ว นี่กลัวเบียร์พี่เค้าจะบูดหรืออย่างไรกลุ่มนี้เล่นเหมาหมดตู้เลย เราเพลียกับการเล่นน้ำและกลัวตื่นมาเก็บแสงเช้าไม่ไหวชนไปแก้วสองแก้วขอตัวไปนอน อ้อ…เพลงคืนนั้นเพราะมากอยากจะเอาแฟลชไดร์ไปก็อบเลย ใครอกหักมีตายไปเลยค่ะ
__________
เช้าวันใหม่ ….
เราตื่นประมาณ 6 โมงเช้า แต่ทำไมยังมืด พระอาทิตย์ขี้อายอีกแล้วสงสัยไม่อยากจะโผล่มาให้เห็น ความตั้งใจเก็บบรรยากาศแสงส่องตอนเช้าแลยแห้ว
ใครจะตื่นมาพายเรือรับอากาศสดชื่น ชมหมอกยามเช้าก็เป็นกิจกรรมที่ดีเลยล่ะ
เราให้น้องสุดหล่อพายให้ ตอนเช้าน้ำจะไหลแรงหน่อยอาจจะต้องใช้พละกำลังอย่างมากในการพายบรรยากาศตอนเช้าแต่ละแพยังไม่ตื่นกัน ส่วนคณะลูกทัวร์ของเราเมื่อคืนคงจะให้อาหารปลากันหนัก ไปเจอกันอีกทีมื้อเช้าเลยค่ะ
อาหารเช้าก็จะมี ข้าวต้ม (อร่อยมากๆอีกแล้ว) เบคอน ไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปัง ผลไม้ กาแฟ บริการตัวเองเลยค่ะ
และแล้วก็ถึงเวลาต้องกลับ ต้องขอบคุณ อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท ที่ชวนพวกเรากรูกันมาพักที่นี่อย่างสนุกสนาน
ใครอยากมาพักแบบพวกเรา อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท ห้องละ 1,700 บาท พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า กิจกรรมพาเรือ นั่งชิลล์ นอนเล่น wifi มีให้บริการบริเวณล็อบบี้เท่านั้น เราได้คุยกับพี่ปอนด์เจ้าของ พี่แกบอกว่า “อยากให้ทุกคนที่มาพักได้หาเวลาเงียบๆ พักผ่อน คุยกับตัวเองบ้าง” ข้อนี้เห็นด้วยมากๆ เลยค่ะพี่
อย่างที่บอกว่าแพเมืองกาญมีให้เลือกเยอะมาก แต่การมาพักที่นี่คือเราจะได้พักแพต้นน้ำ พร้อมกับวิวสวยๆ หมอกงามๆ ที่มองได้จากที่แพเลยค่ะ
อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท : ตำบล ท่าขนุน อำเภอ ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
เบอร์โทรศัพท์ :099 621 2599
Facebook : อัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท
ชมคลิปความสนุกเพิ่มเติม
_______________
การเดินทางของพวกเรายังไม่จบ บอกเลยว่ามาเที่ยวแบบกรู กิน เที่ยว แน่น ตลอด เราตั้งใจจะไปหาป้าเกล็นที่เหมือง แวะทานมื้อเที่ยงที่นั่น และไปส่งโปสการ์ดหาตัวเองที่บ้านอีต่องถนนหนทางที่สวยงาม ด้านหน้าคือหมอกปกคลุมเต็มไปหมด ที่นี่ อ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรีจากอัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท ประมาณ 80 กว่ากิโลเมตร เราแวะไปถ่ายรูปทะเลหมอกที่ เนินช้างศึก กันก่อนค่ะ
เนินช้างศึก เป็นฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) บางคนก็เรียก ยอดดอยปิล็อก หรือ ต่องปะแล เป็นฐาน ตชด ที่.ตั้งอยู่ในเส้นพรมแดนไทย-พม่า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร มีบ้านพักเจ้าหน้าที่ ลาน ฮ. และจุดชมวิวในมุมสูง เนินช้างศึก เวลาเที่ยงกว่าๆ อากาศหนาวเย็น ลมพัดแรงมาก หมอกพัดมาเป็นระยะๆ นี่นึกว่า 7 โมงเช้านะ
จะมาคนเดียว
มาเป็นคู่หรือจะกรูกันมายกแก๊งค์ ก็ดีงาม
โพสต์ท่าบิดเอวไปมาจนมวนท้อง (ภาษาโบราณนะแอด) เราไปหาอะไรทานกันดีกว่าค่ะ
___________
บ้านอีต่อง – ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
ลงจากเนินช้างศึกเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าหมู่บ้าน ตอนแรกตั้งใจจะไปหาป้าเกล็นที่เหมืองแต่เราไปรถตู้ ไม่มีทางเข้าไปได้แน่นอนต้องใช้รถ 4×4 เท่านั้น สรุปทริปนี้อดไป (ถ้าใครจะไปเหมารถที่หมู่บ้านเข้าไปได้นะ)
พวกเราหาข้าวทานกันง่ายๆ ที่ร้านน้องหน่อย ในหมู่บ้านจะมีร้านอาหารเจ้าใหญ่ๆ แค่ 2 ร้าน หลังจากอิ่มแล้วก็มาถ่ายรูปเล่นกัน เกือบๆ บ่าย 2 แล้วหมอกยังเต็มไปหมดเลยค่ะ
ร้านโปสการ์ด ของที่ระลึก ร้านใหญ่สุดในหมู่บ้าน ตั้งใจเขียนโปสการ์ดกันมากเลย
บ้านอีต่อง ปิล็อก ควรจะหาโอกาสมานอนพักสักคืนสองคืน ที่นี่ slowlife ของจริงเลยค่ะ ราคาห้องพักเริ่มต้น 500-600 บาท หรือจะพักที่แพอัยญา แม่น้ำแคว รีสอร์ท สักคืนแล้วค่อยมาเที่ยวที่นี่ก็ได้
บ้านอีต่อง ปิล็อกหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขาที่อากาศดีมาก หน้าหนาวนี่ก็หนาวสุดๆ หากใครฝันอยากไปพิชิตเขาช้างเผือกสักครั้งในชีวิตหมู่บ้านนี้คือทางผ่านเดินขึ้นเขาค่ะ
ล้อหมุนก่อนราวๆ บ่าย 2 กว่าๆ ก่อนจะกลับกรุงขอแวะอีกสักที่ (ยังจะแวะอีกเหรอแอด)
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ระยะทางจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 2.8 กิโลเมตร ฟังดูไม่ไกลนะแต่ทางโหดและชันมากต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
จากค่าอุทยานคนละ 40 บาท แล้วเดินไปตามทางประมาณ 300 เมตร
และแล้วเราก็มาถึงความสวยงาม น้ำตกไหลแรงมากและที่สำคัญน้ำเย็นมาก!
จบทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน
ที่เต็มไปด้วยความสุข สนุก รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ
จากคนแปลกหน้าที่อยู่ๆ ได้มาเดินทางด้วยกัน
สำหรับฉันมันไม่ใช่แค่เรื่อง…บังเอิญ
ขอบคุณมิตรภาพตลอดการเดินทาง
ใครอยากไปเที่ยวแบบนี้กับเราติดตามกิจกรรมในแฟนเพจ เที่ยวแบบกรู นะคะ