เที่ยวแบบกรู>> พาไปเที่ยวชุมพรกับรายการชื่นใจไทยแลนด์ ทางช่องอัมรินทร์ทีวี HD34 รายการท่องเที่ยวแนววิถีชุมชน ที่ดูแล้วจะทำให้ชื่นใจและอยากเที่ยวเมืองไทยมากยิ่งขึ้น ทริปนี้เราจะแนะนำที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ใน อ.ปะทิว ชุมพร พร้อมแล้วจัดกระเป๋าออกเดินทางกับเรากันเลยค่ะ
ชุมพร จังหวัดที่เรารู้จักแค่หมู่เกาะทะเลชุมพร เกาะลังกาจิว เกาะมาตรา เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย หาดทุ่งวัวแล่น เริ่มเยอะละนะ เอาจริงๆ คือมีแต่ทะเลทั้งนั้น ในครั้งนี้ เที่ยวแบบกรู ได้รับเกียรติเป็นบล็อกเกอร์รับเชิญในรายการ “ชื่นใจไทยแลนด์” ชวนไปเที่ยวด้วยกันไม่ต้องคิดเยอะเลยค่ะตอบตกลงทัน ดีใจยิ่งกว่านั้นเมื่อรู้ว่าเป็นบล็อกเกอร์คนแรกของรายการด้วย โอววว ขุ่นแม่ปลื้มใจมาก เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลมากเลยค่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงเราจะพาไปเที่ยวชุมพร ทริปนี้มีทั้งดำน้ำ ล่องแพ และอีกหลายสถานที่ แค่ อ.ปะทิว ที่เดียวก็มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากเลยค่ะ
ล้อหมุนออกจากเมืองกรุง ประมาณตี 4 ของวันหนึ่ง ระยะทางประมาณ 440 กม.ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงนิดๆ ทำเวลาเร็วมากไม่ได้ค่ะเนื่องจากถนนเส้นประจวบฯ อยู่ในช่วงกำลังทำทางใหม่ด้วย เราไม่ไ้ด้รีบอะไรดังนั้นไปถึง ปะทิว ชุมพร ประมาณ เกือบๆ เที่ยง นัดเจอกับทีมงานที่ร้านเด็ด
DAY 1
เจ๊พรซีฟู้ด
ครัวเจ๊พร อยู่ติดถนนใหญ่ใน ต.สะพลี ร้านนี้มีป้ายการันตีความอร่อยใหญ่มากอยู่หน้าร้าน
บรรยากาศในร้านดูง่ายๆ บ้านๆ มีเป็นซุ้มๆ ไม้ไผ่ เราชอบร้านแบบนี้มาก ดูเรียบง่าย กันเอง ดีค่ะเมนูความอร่อยจะเน้นซีฟู้ดสดๆ ราคาไม่แพง ต้องขอโทษมากๆ ที่เราไม่มีรูปอาหารให้ดูสักเมนูเดียว คือเพิ่งมาถึงเกรงใจพี่ๆทีมงานครั้นจะยกกล้องมาและบอกว่า “พี่คะอย่าเพิ่งกินขอถ่ายรูปก่อน” ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำนั้นออกมาได้จริงๆ แม้ว่าปกติจะเป็นคนหน้าไม่ค่อยบางเท่าไรก็เถอะ แต่คอนเฟิร์มว่าอร่อย ราคาถูก ไปลองชมกินได้จำชื่อร้านไว้ให้ดี เจ๊พรซีฟู้ด นะจ๊ะ
ถ้ำนางทอง
อิ่มท้องแล้วได้เวลาเที่ยว เฮ่! เมลลี่ดีใจมาก ขุ่นแม่จะพาลูกเข้าถ้ำนะ เราเคยพาลูกเที่ยวถ้ำที่นครศรีธรรมราชมาแล้วค่ะถ้ำนั้นโหดมาก ทางเข้าแคบสุดๆ แต่เมลลี่ก็สนุกมากไม่น่าเชื่อว่าลูกจะเข้าไปได้ แต่รอบนี้อยู่ๆนางก็พูดว่า “เมลลี่ง่วงนอน เมลลี่ไม่ไป” ก็ต้องตามใจลูกค่ะ คุณพ่อก็เลยพานอนในรถเปิดกระจกรับลมเย็นสบาย
พ่อลูกเค้าหยอกกันน่าร้ากก แต่กับแม่ตีเอาๆ T_T
ทางเข้าถ้ำนางทองเป็นแบบนี้ค่ะ หากฝนตกก็มีลุ้นเหมือนกันนะว่ารถจะเป็นอะไรมั้ย ติดหล่มหรือเปล่าโดยเฉพาะรถคันเล็กๆแบบเรา“สวัสดีค่ะพี่น้อง” เรากล่าวทักทายพี่น้องผู้ที่จะพาเราตะลุยถ้ำนางทองในครั้งนี้
พี่น้องจัดแจงสำรวจเชือกอีกครั้งว่าแน่นหนาหรือไม่ เฮ้ย! มีปีน ป่าย จับเชือกด้วย มันต้องสนุกแน่นอนเลยลูกเอ๊ย
ถ้ำนางทอง อยู่ในหมู่บ้านบางเสียบ ต.บางสน เป็นถ้ำที่มีอายุเท่าไรไม่อาจทราบได้เป็นการค้นพบโดยคนในชุมชนเลยเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พี่น้องบอกว่าภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อย สวยงาม ส่วนจะมีเจ้าแม่นาคีอยู่หรือไม่นั้นต้องไปดูเองค่ะ!
การเดินทางเข้าถ้ำนางทอง จะมีเชือกแบบนี้มัดไว้เป็นระยะๆ มีทางดีๆ ให้เดินชมนกชมไม้เป็นบางช่วง เดินไปสักพักไม่นานค่ะ จะพบกับปากทางเข้าถ้ำ เดี๋ยวนะ! ทางเข้าเล็กไปมั้ยอ่ะ หย่อนก้นเข้าไปก็จะพบกับบันไดเหล็ก แข็งแรงไม่ต้องกลัวตกแต่ก็ต้องระมัดระวังหัวกันนิดนึงพี่ๆ ทีมงานรายการชื่นใจไทยแลนด์ลงไปกันครบทีมแล้ว แสงสว่างที่เห็นนั้นไม่ใช่อิทธิ์ฤทธิ์ของเจ้าแม่นาคีแต่อย่างใด แต่มันคือไฟฉายนะจ๊ะ (ยังจะกล้าเล่นอีก!)บรรยากาศภายในก็เป็นแบบนี้ค่ะ เป็นโพรงถ้ำกว้างขวาง หายใจสะดวกดีไม่รู้สึกอึดอัด ด้านในมีลมโกรกด้วยนะแสงมีน้อยนิด ขาตั้งกล้องก็ไม่ได้เอาไป ถ่ายรูปได้เท่านี้นะเพื่อนๆพี่โน พิธีกรของรายการกับพี่น้อง กำลังเล่าถึงหินงอก หินย้อย ที่สวยงามมากค่ะชื่นชมความงามกันสักพัก ทางกลับก็กลับทางเดิมนั่นแหละค่ะ
ใครอยากจะเข้าไปเที่ยวชมความงามของถ้ำนางทอง อย่าแอบไปคนเดียวเด็ดขาด ควรจะมีเจ้าหน้าที่พาไปหรือติดต่อพี่น้องได้โดยตรง เบอร์โทรศัพท์ขึ้นอยู่หน้าจอนะคะ เดี๋ยวค่ะ! นี่เขียนรีวิวจะไปดูหน้าจอได้ยังไง ตามนี้เลยค่ะ เบอร์พี่น้อง 080 779 1650
หาดทุ่งวัวแล่น
หลังจากที่เหงื่อซกไปหลังจากออกจากถ้ำนางทองแล้ว ครอบครัวของเราของแยกไปเที่ยวเล่นริมหาด ก่อนจะนัดเจอทีมงานในตอนมื้อเย็นอีกครั้ง ไม่ต้องถามสามี ไม่ต้องถามความเห็นเมลลี่ เพราะคุณแม่ตั้งใจจะไปหาดทุ่งวัวแล่นมากๆค่ะ
ทำไมถึงอยากไปหาดทุ่งวัวแล่น?
ก็เพราะหาดนี้ถือเป็นชายหาดที่ชื่อดังที่สุดใน อ.ปะทิว ถ้าไปปะทิวแล้วไม่ได้เอาเท้าไปสัมผัสหาดทรายนุ่มๆ ของหาดนี้แล้วล่ะก็ถือว่ายังไปไม่ถึง ปะทิว ชุมพร นะเออจากภาพมุมสูงจะเห็นว่าหาดทุ่งวัวแล่น มีลักษณะทอดยาวสุดสายตา ชายหาดกว้างเหมาะแก่การเล่นน้ำ พักผ่อน มีโรงแรมให้บริการติดชายหาด ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง เช่น ชุมพรคาบาน่า รีสอร์ท , บ้านทะเลทุ่งวันแล่น ที่พักในแถบนี้ถือว่าราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับความเป็นส่วนตัวแบบนี้หาดทั้งหาดมีแต่ครอบครัวหัวหยอง
ดูกันชัดๆ ทรายละเอียดมากเลยค่ะเมลลี่บอกว่าสนุกมากเลยค่ะ ไม่อยากจะกลับเล่นจนตัวเปียก ทรายเลอะไปทั้งตัว ความสุขของเด็กน้อยเมื่อได้ออกจากบ้านมาเจอกับธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์
หาดทุ่งวันแล่น>> ตำบลสะพลี ห่างจากตัวเมืองชุมพรไปตามถนนสายชุมพร-หาดทุ่งวัวแล่น ผ่านศูนย์ราชการจังหวัดที่เขาสามแก้วเลียบทางรถไฟ จากนั้นเข้าสู่ถนนหมายเลข 3180 รวมระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร
บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์
มื้อเย็นต้องมาฝากท้องที่นี่ พร้อมกับที่พักบรรยากาศริมคลอง บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์ กินปู ชิมปลา หาหอย สอยเหยี่ยว เที่ยวเล บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์เล็กๆ ริมคลองบางสน คลองที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตและเรื่องราวของชาวเล เรารู้จักที่นี่มาสักพักแล้ว และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่บุ๊คไว้ในใจว่าหากมีโอกาสไปชุมพรจะขอไปนอนที่นี่สักคืน บ้านพักจะมี 2 หลัง หันหน้าหาคลอง มีแอร์ พร้อม
แต่ไม่เหมาะจะมานอนคนเดียว คงเหงาอยู่นะ แต่ถ้าสายแข็งไม่กลัวความเหงาเราก็แนะนำ
อัตราค่าที่พัก :
หากพักอย่างเดียวคนละ 200 บาท หรือ 700 บาท ต่อคน สำหรับอาหาร 3 มื้อ และที่พัก 1 คืน ซึ่งอาหารก็จะอลังการแบบนี้เลยยิ่งมากันหลายคนจะฟินมากคุณแม่พี่น้องเป็นคนทำอาหารให้พวกเราทาน ใครที่มาพักที่นี่ก็ได้ทานแบบนี้เลยค่ะ ซีฟู้ดสดๆ ปูตัวใหญ่ กุ้ง ปลา น้ำพริก ไม่พูดพร่ำทำเพลงหิวแล้วได้เวลากินค่ะเป็นการนั่งห้อยขาทานข้าวที่ฟินมากๆ
อ่านรีวิวเพิ่มเติม >>บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์ กินปู ชิมปลา หาหอย สอยเหยี่ยว เที่ยวเล
DAY 2
เกาะไข่
ชุมพรก็มีเกาะไข่ด้วยนะรู้ยัง?
เชื่อว่าหลายคนจะรู้ว่า เกาะไข่ ในประเทศไทยนั้นมีด้วยกันหลายที่ เช่น เกาะไข่ พังงา เกาะชื่อดังนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก เราเองก็เพิ่งจะรู้ตอนที่ไปนี่แหละค่ะว่าชุมพรก็มีเกาะไข่ ได้เวลาของทูพีซแล้วสินะ เปลี่ยนชุดไปดำน้ำกัน!การเดินทางไปเกาะไข่นั้น ต้องไปขึ้นเรือที่ หาดบ่อเมา หรือจะไปที่ท่าเรือหินกบ ซอยบางปอ ตามมาทางนี้เลยค่ะ (จะขึ้นเรือที่ไหนก็นัดกับคนเรือเอานะคะ)
แต่ถ้ามาขึ้นเรือที่ท่าเรือหินกบ เราจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวประมง กำลังสาละวนกับการกุ้ง หอย ปู ปลา อยากจะช่วยพี่เค้าเหลือเกินแต่เกรงจะเพิ่มภาระ ^^
เมื่อคืนก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ฟ้าสดใส ขอให้ได้ภาพสวยๆ ขอบคุณท้องฟ้าเมื่อวันนั้นทำให้เราได้ไปดำน้ำแบบไม่มีอุปสรรคใดๆ
เกาะไข่ เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชาวบ้าน ชาวประมง ในชุมชนช่วยกันดูแลทรัพยากรทางธรรมชาติ เกาะไข่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีหอยมือเสือเป็นจำนวนมาก และยังมีความ unseen ที่บอกได้คำว่าว่าห้ามพลาด ได้เวลาขึ้นเรือชาวประมงไปดำน้ำกันค่ะ
เมลลี่กับคุณพ่อขอบายกับทริปนี้ จริงๆ เด็กก็ไปได้นะคะเนื่องจากนั่งเรือไม่นานแต่ในเมื่อลูกไม่อยากไปคุณแม่ก็จะไม่บังคับใดๆค่ะลูก“โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส สดใส สดใส มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล”
เพลงนี้ลอยมาเข้าหู (บ่งบอกอายุมากๆ) แม้ว่าเรือจะไม่มีหลังคาแต่ว่าอากาศไม่ร้อนเลยค่ะ แนะนำว่าให้ไปขึ้นเรือแต่เช้าไม่เกิน 9 โมง นั่งชิลล์ ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อยประมาณ 20 นาที เราก็มาถึงเกาะไข่แล้ว ยะฮู้ สวยจังเลย ก่อนจะไปเดินเล่นชายหาดเราไปดำน้ำ สำรวจปะการัง หอยมือเสือ กันค่ะ (ไปดูคลิปความสวยงามใต้ท้องทะเลท้ายรีวิวนะคะ)หลังจากดำน้ำจนเหนื่อยแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปเดินเล่นบนชายหาดของเกาะ ซึ่งขอกระโดดให้โลกรู้ว่าขุ่นแม่ยังสตองนะคะ 55
จากรูปนี้เราจะเห็นสันทรายที่ยื่นไปกลางทะเล นี่คือความ unseen ของเกาะไข่ ชายหาดที่เห็นอยู่นี้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจะมีกระแสลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดพาให้หาดทรายและคลื่นเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งหาดทรายที่เห็นอยู่จะค่อยๆ คลายและหายไปเนื่องจากลมมรสุมเปลี่ยนทิศทาง แต่เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์หาดทรายแบบนี้ก็จะกลับมาอีกครั้ง วนเวียนกันอยู่แบบนี้เป็นประจำทุกปี ช่วงที่ชายหาดสวยที่สุดต้องไปเที่ยวเดือนตุลาคมค่ะ เราจะได้เห็นชายหาดที่ทอดยาวและน้ำทะเลที่ใสมาก ว่ายน้ำเล่นบริเวณหน้าหาดสนุกสุดๆไปเลยนอกจากจะเที่ยวแบบ one day trip แล้ว เกาะไข่ยังสามารถพักค้างคืนได้แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทาง สามารถมากางเต็นท์นอนแต่อย่าลืมเก็บข้าวของทำความสะอาดบริเวณที่กางเต็นท์ให้เรียบร้อยก่อนกลับด้วยนะคะ
ค่าใช้จ่าย?
ค่าเรือเหมาลำ 1,500 บาท นั่งได้ 7 คน อย่าลืมเตรียมอาหาร น้ำ ไปด้วย หรือจะให้เจ้าหน้าที่จัดให้ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
ติดต่อดำน้ำคุณน้อง : 080 779 1650
ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ป้าเบ๊ สะพลี
หมดแรงไปกับการดำน้ำ ว่ายน้ำ กลับมาถึงฝั่งเที่ยงพอดีค่ะ พี่โนบอกตามพี่มาพี่จะพาไปทานของอร่อย “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา รสเด็ดป้าเบ๊ สะพลี” ชื่อยาวมากเรียกกันง่ายๆสั้นๆ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ค่ะ อยู่ตรงข้าม อบต.สะพลี หาง่ายมากๆ
ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา เป็นร้านยกสูงหลังคามุงจาก
ที่บอกว่าห้อยขานั้นคือนั่งมุมนี้เลยค่ะ
นี่คือโฉมหน้าคุณป้าผู้ปรุงความอร่อยแถมใจดีมากๆ ลดราคาให้ด้วยเมนูแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวปูต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวทะเลต้มยำ
เย็นตาโฟต้มยำทะเลก็เด็ดเหมือนกันนะชามนี้แบบต้มยำแห้งบีบมะนาวลงไปเล็กน้อยจี๊ดจ๊าดมาก
โดยรวม รสชาติอร่อยชนะเลิศ วัตถุดิบสด ราคาถูกเมื่อเทียบกับปริมาณ ก๋วยเตี๋ยวหมู 30 บาท ทะเล 50 บาท
จุดชมวิวเขาดินสอ
เราแยกกับทีมงานขอกลับไปอาบน้ำ พักผ่อนสักแวบ พาเด็กเมลลี่ไปนอนพักด้วย (จริงๆลูกไม่หลับสักนิดแม่นี่แหละสลบ)
ประมาณ 4 โมงกว่าๆ ออกจากที่พักไปที่จุดชมวิวเขาดินสอ หรือชื่อเต็มๆ คือ แหล่งศึกษาธรรมชาติและชมเหยี่ยวอพยพเขาดินสอ เป็นจุดชมวิว 360 องศา สามารถมองเห็นวิว ทิวทัศน์ ของ อ. ปะทิว ในช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ของทุกปี จะเป็นเทศกาลดูเหยี่ยวหากขึ้นไปที่เขาดินสอจะเป็นจุดที่ดีที่สุดเลยล่ะค่ะเขาดินสอ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร สูงจากน้ำทะเลประมาณ 736 เมตร เมื่ออยู่บนนี้เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ เรือกสวนไร่นา จนถึงอ่าวและชายหาดของทะเลชุมพรได้อย่างชัดเจนนอกจากมาชมวิวมุมนี้แล้ว เขาเดินสอยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหรือจะเดินไปดูเหยี่ยวตามเส้นทางนี้ ด้วยระยะทาง 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่บางคนก็บอกว่า 900 เมตร เดินแป๊บๆ ก็ถึงแล้ว เราไปพิสูจน์กันดีกว่าค่ะว่าจะเดินง่าย แป๊บๆ จริงหรือเปล่า
สำหรับใครที่จะขึ้นไปยังจุดชมวิวเขาดินสอ จุดสูงสุดที่ครอบครัวเราขึ้นมาถึง แนะนำให้ไปแต่เช้า หรือไม่ก็เริ่มประมาณ 4 โมงแบบเราค่ะ
ถ้าหากจะไปดูเหยี่ยว ช่วงเวลาที่เหมาะสมของการไปดูเหยี่ยวบนเขาดินสอ คือ ช่วงเช้า ประมาณ 8.00-10.00 น.หรือช่วงเย็น ฝูงเหยี่ยวจะบินต่ำสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ชนิดของเหยี่ยวที่สามารถพบเห็นในเขาดินสอมี 6 ชนิดหลัก ได้แก่ เหยี่ยวนกเขาพันธุ์จีน เหยี่ยวชิครา เหยี่ยวกิ้งก่าสีดำ เหยี่ยวนกเขาพันธุ์ญี่ปุ่น เหยี่ยวผึ้ง เหยี่ยวหน้าเทา
การเดินทางไปเขาดินสอ : ตั้งอยู่ หมู่ที่ 8 บ้านแหลมยางต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร จากตัวเมืองชุมพรใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 3201สายปะทิว-ชุมพร ระยะทางประมาณ 20 กม.อยู่ก่อนถึงกม. ที่ 27 อยู่ด้านซ้ายมือจะมีป้ายบอกจุดชมวิวเขาดินสอ
อ่านรีวิวเพิ่มเติม >> จุดชมวิวเขาดินสอ | พ่อเหนื่อย | แม่หอบ | แต่ลูกชอบมาก
สะพลี วิลล่า บีช รีสอร์ท
ลงมาจากจุดชมวิวเขาดินสอ เกือบมืดพอดีรีบขับรถกลับไปยังที่พัก สะพลี วิลล่า บีช รีสอร์ท อยากมาถ่ายรูปที่หาดสะพลีตอนเย็นว่าบรรยากาศจะดีเหมือนที่หาดทุ่งวัวแล่นหรือเปล่า
หาดสะพลี เป็นอีกชายหาดที่เงียบสงบแต่เราก็เห็นนักท่องเที่ยวหลายคนเลือกมาพักที่หาดนี้ หาดสะพลีมีที่พักให้เลือกเยอะกว่าหาดทุ่งวันแล่น แต่ถ้าถามความชอบเราชอบชายหาดทุ่งวันแล่นมากกว่าค่ะแสงสุดท้ายของวันเรานั่งริมชายหาดสักพักเพื่อมองความสวยงามที่อยู่รอบๆ ทั้งแสงสุดท้ายที่กำลังหายไป ความมืดเร่ิมเข้ามาปกคลุมเป็นแค่ไม่กี่นาทีแต่ทำไมรู้สึกว่าสมองได้พัก สายตาได้มองความสวยงาม จิตใจรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก นี่สินะที่เขาเรียกว่า “ความสุขแม้ว่าจะผ่านเข้ามาแค่เสี้ยววินาทียังไงก็เรียกว่าความสุข”
สะพลี วิลล่า บีช รีสอร์ท ที่พักดีเลยนะสำหรับเรา ติดชายหาด ไปดูห้องพักกันค่ะ ที่นี่จะมีบ้านพักเป็นหลัง เริ่มต้น 1,000 บาท รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คนห้องกว้างขวางดี ห้องน้ำสะอาด มีตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น โซฟาเล็กๆ แต่วันที่ไป wifi ใช้ไม่ได้ ก็ดีเหมือนกันนะปิดคอมแล้วพักผ่อนบ้าง (บอกตัวเอง)
DAY 3
เช้าวันสุดท้ายของทริปนี้ เวลาของความสุขผ่านไปไวอีกแล้ว หลังจากที่เดินขึ้นเขามาเมื่อวานรู้สึกเลยว่าร่างกายไม่ฟิตเหมือนเมื่อก่อน ทำไมรู้สึกปวดขามากประหนึ่งเดินขึ้นภูกระดึง T_T
จัดมื้อเช้าไปนั่งจิบชาชมวิวก่อนจะพาร่างไปเที่ยวต่อ พลังมาแล้ว ^^
โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จ.ชุมพร
สถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปอีกหนึ่งสถานที่ ที่หลายคนอาจมองข้ามไปนั่นก็คือ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ตั้งอยู่ที่ ต.ปากคลอง อ.ปะทิว ค่ะ
บรรยากาศเงียบสงบ ท่ามกลางต้นสน ริมทะเล
มีมุมนั่งชิลล์ด้วยนะคะ
พร้อมกับบริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว สนใจสอบถามโดยตรงได้เลยค่ะ
โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ เกิดขึ้นจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีที่ดินส่วนพระองค์ที่ตำบลปากคลอง มีเนื้อที่ประมาณ 448 ไร่ และเป็นพื้นที่ติดทะเล มีลักษณะเป็นเนินทรายที่เกิดจากการทับถมกัน ซึ่งที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้สภาพแวดล้อมของป่าชายหาดแบบดั้งเดิม ยังเป็นศูนย์เรียนรู้และส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรใกล้เคียงอีกด้วย
ไฮไลต์ของเส้นทางศึกษาธรรมชาติคือ ต้นเสม็ดชุนแดง อายุนับร้อยปี ต้นนี้เลยค่ะสวยงามมากนอกจากนั้นยังมีโรงเรือนดอกหน้าวัว ที่ชาวบ้านสามารถเข้ามาศึกษาทางโครงการก็จะให้คำแนะนำสามารถนำไปปลูกที่บ้านประกอบเป็นอาชีพได้อีกด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวก็สามารถเข้ามาถ่ายรูปกับดอกหน้าวัวได้ ซึ่งที่นี่ก็มีอยู่หลายสายพันธุ์ค่ะ
ชมพูชุมพร พันธุ์พระราชทานที่มีดอกชมพูอ่อนๆ สวยงามค่ะ
ใกล้ๆ กับโรงเรือนดอกหน้าวัว มีโรงเรือนกระบองเพชรหลายสายพันธุ์ให้ชมกันด้วย
อาชีพต่อมาที่ทางโครงการส่งเสริมให้ชาวบ้านทำเป็นรายได้เสริม นั่นก็คือการทำผลิตภัณฑ์สเปรย์ปรับอากาศจากใบเสม็ด มีทั่้งใบมะกรูด เสม็ดชุนขาว นำมากลั่นเป็นสเปรย์แบบที่เห็นค่ะกลิ่นหอมอ่อนๆจากธรรมชาติ
ยังหมดเท่านี้ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟขี้ชะมดด้วยนะ พาไปดูโรงเรือนของผู้ผลิตกาแฟขี้ชะมดกันเลยค่ะ ซึ่งปกติไม่ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาดูกันเพราะว่าเจ้าตัวนี้ค่อนข้างจะตื่นคน นี่คือโฉมหน้าของผู้ผลิตกาแฟที่มีมูลค่าสูงทีเดียว เจ้าตัวนี้ไม่ใช่ชะมดนะคะ แต่เป็นอีเห็น อยู่ในตระกูลเดียวกับชะมดค่ะ
กว่าจะได้มาเป็นกาแฟขี้ชะมดไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ แวะไปชิมกันได้ที่โครงการส่วนพระองค์ ชุมพรนะคะ
ล่องแพ กินข้าว ปากอ่าวบางสน
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการกลับไปที่บ้านไม้ชายคลองโฮมสเตย์อีกครั้ง รอบนี้พิเศษกว่าเมื่อวานเมื่อเราจะไปล่องแพ ห้อยขา ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ปากอ่าวบางสนกันค่ะ
แพหลังนี้นั่งได้มากสุดถึง 20 คนเลยค่ะ เอาจริงนะนี่ถ้าขนญาติชวนเพื่อนมาจัดเต็มได้สบายๆ ใช่เรือลำนี้ลากแพไปเรื่อยๆ ให้เราได้ชมวิว ทิวทัศน์สองข้างทางใช่เวลาประมาณ 50 นาที ก็ลากแพมาถึงปากอ่าวบางสนค่ะแม้ว่าจะไม่ได้ภาพดวงอาทิตย์กลมโตกำลังตกน้ำ ฤดูฝนเห็นแค่นี้ก็ดีใจแล้วมากแล้วค่ะหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าความมืดเริ่มปกคลุมก็ได้เวลาทานข้าวเย็นกันอย่างจริงจัง อร่อยมากที่สุดก็เพราะบรรยากาศดีแบบนี้นี่เองประมาณทุ่มกว่าๆ ก็ได้เวลากลับ ขากลับมีเรื่องตื่นเต้นด้วย ปลาตัวเป็นๆ กระโดดขึ้นมาบนแพค่ะ ไม่ใช่ตัวเดียวนะหลายตัวด้วยเมลลี่ตื่นเต้นมากขุ่นแม่นี่ตื่นเต้นยิ่งกว่า บางวันอาจจะได้เห็นหิ่งห้อยด้วยนะคะเยอะไม่แพ้อัมพวากันเลยทีเดียวเชียว
การมาเที่ยวที่นี่ชื่นใจไทยแลนด์ชมชื่อรายการจริงๆ ค่ะ เป็นทริปสั้นๆ ที่ได้รับความประทับใจกลับบ้านมาเต็มกระเป๋าแถมราคายังไม่แพงอีกด้วยนะ
ทวนราคากันอีกทีค่ะ
โฮมสเตย์บ้านไม้ชายคลอง ตั้งอยู่คลองบางสน เป็นโฮมสเตย์แบบชาวบ้าน ความรู้สึกประหนึ่งไปพักบ้านญาติ มีที่พักให้บริการพร้อมทั้งอาหาร 3 มื้อ คนละ 700 บาทเหมาแพไปได้เลยจ้า 1500 บาท นั่งได้เกือบๆ 20 คน ส่วนค่าอาหารก็คิดเป็นหัว 250 บาท ชอบความสงบ รักชีวิตแบบวิถีชาวบ้าน นอนเปล ชมหิ่งห้อย แล้วตอนเย็นไปล่องแพกันฟินๆ ค่ะ การล่องแพเริ่มตั้งแต่เวลา 16.30 น. ใช้เวลาไปกลับประมาณ 2- 3 ชั่วโมง
ติดต่อคุณน้อง : 080 779 1650
___________________________
คลิปความสนุกสนานของการล่องแพ ทานข้าว ชมวิวพระอาทิตย์ตก ในรายการ “ชื่นใจไทยแลนด์” ออกอากาศเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 59 ทางช่องอัมรินทร์ทีวี HD34 ค่ะ รายการท่องเที่ยววิถีชุมชนที่ดูแล้วจะทำให้อยากเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น
ติดตามการเดินทางท่องเที่ยวแนววิถีชุมพรแบบนี้ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 3 ทุ่ม ทางช่องอัมรินทร์ทีวี HD34 นะคะ
ตอนอื่นๆ ติดตามได้ที่นี่ค่ะ
ชื่นใจไทยแลนด์ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตอนที่ 1 :goo.gl/HsgHAe
ชื่นใจไทยแลนด์ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตอนที่ 2 : goo.gl/14t9JQ
ชื่นใจไทยแลนด์ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตอนที่ 3 :goo.gl/S5yBVr
ชื่นใจไทยแลนด์ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตอนที่ 4 :goo.gl/9m8RCQ
#เที่ยวแบบกรู #พาลูกเที่ยว #ชื่นใจไทยแลนด์ #เที่ยวชุมพร