เที่ยวแบบกรู >> พาลูก ชวนเพื่อนกรูกันไปเขาค้อ นอนบ้านหลังใหญ่ชมวิวภูเขาท่ามกลางไร่ที่แสนโรแมนติก ไร่สองเรา@เขาค้อ
” แกรรไปเที่ยวกัน” เราชวนสมาชิก
” ไปอีกแล้วเหรอ แต่อยากไปเขาๆ ดูทะเลหมอกนะ”
ตอนแรกตอบเหมือนไม่ค่อยอยากจะไปแต่สุดท้ายก็ลงความเห็นว่า เราจะไปเขาค้อกัน (ไปเดือนละครั้งก็ยังอยากจะไปอีกนะ)
รอบนี้ขอไปนอนบ้านแนวครอบครัว หรือพาเพื่อนไปด้วยได้ที่ไร่สองรัก เอ๊ย! ไร่สองเรา จะอะไรนักหนากับเพลง สองรัก เพลงโบราณมากที่ยังติดหูและทำให้พวกเราเรียกชื่อไรนี้ผิดอยู่บ่อยๆ เดี๋ยวเจ้าของมาอ่านตีตายเลย พูดอีกทีสิคะเด็กๆ ไร่สองเราค่ะ พูดถูกกันแล้วขึ้นรถได้
ตัดฉากมาที่เขาค้อ ถึงแล้วววว (อย่างกะขึ้นเครื่องมาไวแท้ จริงๆ ก็มาเรื่อยๆ 4-5 ชั่วโมง)
ไร่สองเรา ที่พักเขาค้อท่ามกลางธรรมชาติ บ้านแคมป์สน แต่แรกเริ่มเดิมทีไร่นี้เป็นของคุณตาคุณยายสองคนที่ปลูกบ้านพักหลังเล็กๆ ให้บริการแค่ไม่กี่หลัง ทั้งสองคนก็อยู่แบบพอเพียง มีแค่สองเราท่ามกลางภูเขา สายลม และทะเลหมอก จึงกลายเป็นตำนานรักของสองเราบนเขาค้อท่ามกลางธรรมชาติ อ๊าาาก เรื่องเล่าที่แสนโรแมนติก
ตัดฉากมาที่ปัจจุบัน!
ไร่สองเรา กลายเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่มีที่พักหลายหลังตามครอบครัวหัวหยองและผองเพื่อนไปดูกันเลยค่ะ
ทางเข้าไร่สองเรา ไม่มีทางหลงแน่นอนเพราะมีป้ายสีชมพูสดใสแบบนี้ติดไว้ตลอดทางเลยค่ะ
เลี้ยวเข้ามาก็เจอกับความสดชื่นของต้นไม้เต็มไปหมด ยังไม่ถึงค่ะคุณผู้อ่าน ขับไปต่อกันอีกหน่อยนะ เลือกเอาจะไปซ้ายหรือขวาเพราะสุดท้ายก็วนไปที่เดียวกันนั่นแหละค่ะ
ร้านอาหารและจุดเช็คอินที่เดียวกันเลย ไว้เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องของร้านอาหารที่สมคำร่ำลือจริงๆ ว่าเป็นร้านอาหารที่บรรยากาศดี เพลงเพราะ และที่สำคัญอาหารอร่อยมาก แต่ว่าตอนนี้ไปดูห้องพักก่อนก่อนนะ
จากภาพมุมสูงจะเห็นว่าบ้านพักแต่ละหลังเล่นระดับไปตามเนินเขา หากมองจากมุมนี้ชอบหลังไหนจิ้มเอาเลยจ้า ^^
บ้านพักของที่นี่จะมีหลายแบบหลายราคา เริ่มตั้งแต่ 2,000 บาท สำหรับ 2 คนค่ะ
ห้องระเบียงงาม
2,000 บาท ต่อคืน สำหรับ 2 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็น
หลังนี้จะอยู่ด้านล่าง เดินลงมาจากร้านอาหารเราจะเจอระเบียงพร้อมกับมุมนั่งชมบรรยากาศหน้าห้องพัก เช้าๆ มานั่งตรงนี้ชมวิวอากาศดี๊ดี
วิวด้านหน้าคือบ่อธรรมชาติ ที่ทางไร่สองเราได้ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ และภูเขาอีกฝั่งค่ะ
ดูภายนอกอาจจะดูเรียบง่ายธรรมดา แต่พอเปิดประตูเข้าไปว้าวเลย เพราะด้านในเป็นแบบโมเดิร์น ปูนเปลือยขัดมัน ที่พื้นเย็นสบายมากๆ
ห้องนี้เหมาะสำหรับสองคนที่ไม่คับแคบเลยนะ มีโซฟาให้นั่งพักผ่อนทุกห้องห้องน้ำก็ยังคงเป็นปูนเปลือย ผนังแต่งแต้มสีสันด้วยภาพวาดดอกไม้ พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น
บ้านริมธาร
ราคา 2,500 บาทต่อคืน สำหรับ 2 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็น
บ้านไม้หลังเล็กสีสันสดใส สีฟ้า สีส้ม ราคาเท่ากันทุกหลังค่ะ
หลังเล็กๆ น่ารักเหมาะแก่การนอนจับมือกันสองคนหนุงหนิง แอร๊ยยยเขินคิดไปไกลแล้วเนี่ย
เปิดประตูเข้าไปก็พบกับความสดใส อบอวลไปด้วยความรัก ทั้งผ้าปูเตียง ผ้าม่าน กลมกลืนกันไปหมด พร้อมระเบียงส่วนตัวที่สามารถนั่งมองดาวกันสองคนยามค่ำคืน โรแมนติกสุดๆ
บ้านสายลม
ราคา 2,500 บาทต่อคืน สำหรับ 2 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็น
สังเกตุได้ว่าบ้านทุกหลังของไร่สองเราจะมีระเบียงส่วนตัว มุมพักผ่อนหน้าบ้านทุกหลังเลย หลังนี้ก็เช่นกันนอกจากนั้นบ้านหลังนี้ยังมีความพิเศษคือมีห้องใต้หลังคา ตอนเด็กๆ เราชอบมากเผื่อใครมากับเพื่อน หรือมากับแฟนเกิดงอนกันขึ้นไปนอนบนนั้นได้เลยนะกว้างขวางปูที่นอนได้สบาย ว่าจะถ่ายมาอวดแต่มือสั่นขาสั่นกดชัตเตอร์มาก็สั่นสิคะไม่เหลือ
บ้านไม้งาม
ราคา 2,500 บาทต่อคืน สำหรับ 2 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็นบ้านไม้งามจะเป็นบ้านเรือนไทยหลังเล็ก ไล่ระดับบนเนิน ดังนั้นวิวแต่ละบ้านไม่บังกันแน่นอน
ด้านในตกแต่งแบบไทยๆ เข้าไปในบ้านเรือนไทยเย็นสบายมากๆ แบบไม่ต้องเปิดแอร์ หรือพัดลมเลยล่ะ
ชมวิว
ราคา 3,500 บาทต่อคืน สำหรับ 2 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็น
ว้าวสุดต้องหลังนี้เลย บ้านชมวิวแคปซูลสไตล์โมเดิร์น ไม่ใช่รูปหัวใจแต่ก็ใกล้เคียง
เป็นบ้านไม้ทั้งหลังเข้าไปข้างในจะรู้สึกถึงความโปร่งหลังคายกสูงเล็กน้อย เตียงที่เห็นแยกกันอยู่นี่ สามารถเลื่อนเข้ามาติดกันได้เป็นเตียงขนาด 6 ฟุต เลยนะคะ
มีตู้เย็นขนาดน่ารักมาอยู่ในมุมที่พอเหมาะพอเจาะมากๆ
ห้องน้ำสะอาดสะอ้านกว้างขวางดีค่ะ
พอดูรวมๆ แล้วน่าพักเหลือเกินสองหลังนี้
บ้านคาวบอย
ราคา 3,500 บาท สำหรับ 2 คน ต่อคืน (เสริมได้ถึง 4 คน) พร้อมอาหารเช้าและเย็น
เปลี่ยนบรรยากาศจากโมเดิร์นมานอนบ้านไม้สไตล์คันทรี่กันบ้าง บ้านคาวบอยอยู่ใกล้ร้านอาหารมากที่สุดค่ะ ใต้ร่มไม้ใหญ่ร่มรื่นเย็นสบาย
ด้านในจะมี โซฟา ทีวี ตู้เย็น ผนังสีหวานแหวว มีลูกเล่นด้วยปีกไม้บริเวณผนังของบ้าน
เรือนนาวา
ราคา 6,500 บาทต่อคืน สำหรับ 4 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็น
หลังนี้อยู่ด้านหน้าสุดของไร่สองเรา จะเป็นเรือนรูปเรือค่ะ อลังการกับเรือนไม้ที่รังสรรค์ขึ้นมาจากเรือโบราณหนึ่งเดียวในเขาค้อ พยายามจะแหวกต้นไม้ไปถ่ายมาให้เป็นเรือได้เท่านี้จริงๆ (ของจริงสวยมากเลยนะ)
ดูจากด้านนอกเหมือนจะคับแคบ พอเข้าไปกลับรู้สึกโล่งสบาย ยังมีมุมนั่งพักผ่อนชมวิวหน้าบ้านอีกด้วย
ห้องนอนจะแยกออกเป็นปีกซ้าย ขวา ขนาดเท่ากัน
ห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางเรือนค่ะ
เรือนไทย
ราคา 6,500 บาทต่อคืน สำหรับ 4 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็น
เรือนหลังนี้สวยงามใหญ่โตมาก มีนอกชานให้เล่นตี่จับได้เลยนะกว้างมาก (เด็กสมัยนี้จะรู้จักกันมั้ยตี่จับเนี่ยโบราณเชียว)
หรือจะล้อมวงกลางคืนก็ดีงาม บรรยากาศกับสถานที่มันให้มากๆ
ด้านในก็หรูหราพอตัว เก้าอี้ พนักพิง แบบไทยๆ
ตรงกลางระหว่างห้องนอน 2 ห้องกับห้องน้ำ ยังมีมุมให้นั่งหรือนอนเพิ่มได้อีกนะ
บ้านจันทร์ส่องหล้า
ราคา 6,500 บาทต่อคืน สำหรับ 4 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็น
หลังนี้ปลีกวิเวกพอสมควรไม่ใกล้กับหลังอื่น เป็นไม้สไตล์ไทยประยุกต์ พร้อมระเบียงชมวิวส่วนตัว มี 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องใต้หลังคา
ด้านในเป็นห้องนั่งเล่น มีมุมนั่ง และนอนดูทีวีสบายๆ
ด้านในห้องใหญ่จะมีอีกหนึ่งห้องใต้หลังคา
ชอบระเบียงหลังนี้มาก อยากไปนั่งห้อยขา (ทำไมไม่รู้สิ)
บ้านจันผา
ราคา 6,500 บาทต่อคืน สำหรับ 4 คน พร้อมอาหารเช้าและเย็น
ถึงบ้านของพวกเราชาวคณะแล้ว หลังจากที่เดินบ้าง ขับรถกอล์ฟบ้างไปดูหลังอื่นๆ บ้าง สรุปได้ความว่าเราจะนอนหลังนี้หลังนี้มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่นตกแต่งด้วยสีพาสเทลเบาๆ มีโต๊ะทำงานข้างๆ ทีวีด้วย จุดที่สำคัญบ้านนี้มาเที่ยวก็ยังจะทำงานอี๊ก (เสียงแหลม)มีครัวเล็กๆ ไว้ล้างผัก ล้างเนื้อ ล้างจานก็ว่ากันไป
ห้องนอนซ้าย ขวา มีห้องน้ำตรงกลางยุติธรรมดีมากค่ะ ไม่ต้องเถียงกัน 55
ห้องนี้หนูเมลลี่จอง
ห้องนี้มีโต๊ะเครื่องแป้งด้วย เอ๊ะ! ยังไงดี อยากเปลี่ยนห้อง แต่เพื่อความยุติธรรมเรามาเป่ายิงฉุบกันเถอะ (ต้องขนาดนี้เลยเหรอ)
พี่กรี๊ดกับห้องน้ำมาก เนื่องจากชอบปูนเปลือยและไม่นึกไม่ฝันว่าหลังนี้จะมีห้องน้ำปูนเปลือยดีใจ
ระเบียงปาร์ตี้ส่วนตัวแบบครอบครัว และเพื่อนฝูง แต่ว่าตอนนี้ขอนั่งเขียนรีวิวแป๊บนะเพราะอากาศดี วิวข้างหน้าดี นั่งคิดงานคล่องสมองแล่นมาก
เมื่อเพื่อนเริ่มโวยวาย ลูกเริ่มบ่นเดี๋ยวจะหาว่ามาเที่ยวยังจะบ้างาน เราก็มาปาร์ตี้กันเบาๆ เม้ามอยเล่นเกมกันมุมนี้
พักสายตาไปตอนบ่ายๆ ลืมตาอีกทีอ้าวใกล้เย็นแล้ว ไม่ต้องขับรถออกไปนอกไร่ให้เสียเวลา เพราะคนอื่นๆ ที่พักที่อื่นยังต้องเลี้ยวรถดั้นด้นกันมาที่ไร่สองเรา เพราะว่าอาหารที่อย่างที่บอกเอาไว้ว่าอร่อยมากๆ ไปชิมกันเลยค่ะ
นึกไม่ออกว่าจะสั่งเมนูอะไรดูป้ายนี้เลยค่ะ จัดมาเลย
น้ำพริกไร่สองเรา 150 บาท
ดูแว่บแรกนึกว่าเป็นน้ำพริกอ่อง จริงๆแล้วเป็นน้ำพริกปลาทู เป็นการนำพริกหอม กระเทียม ปลาทู คล้ายๆ ป่นทางอีสาน ทานคู่กับผักพื้นบ้าน เช่น กะหล่ำดอก บวบงู แตงกวา ฟักทองอ่อนหากินยาก เรียกว่าเมนูนี้แซ่บลืมผัวเลยค่ะ
ปลาราดซอสสามรส 250 บาท
เป็นปลาทับทิมนำมาทอดโดยการแล่เอาแต่เนื้อเป็นชิ้นพอดีคำ ซอส เปรี้ยว เค็ม หวาน ลงตัวค่ะ หรืออีกเมนูก็น่าสนใจเหมือนกัน คือปลาราดซอสมะขามลองสั่งมาชิมกันนะคะ
กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา 90 บาท
เป็นเมนูที่ใครไปเที่ยวเขาค้อ ภูทับเบิก ต้องสั่งเมนูนี้ เรียกว่าเป็นเมนูห้ามพลาดเลย แต่ว่าที่ไร่สองเราไม่เหมือนที่อื่นตรงที่ใช้วิธีการผัดด้วยไฟแรงจะมีกลิ่นหอมกระทะ กลิ่นไฟ เห็นรูปมั้ยคะจะมีกลิ่นดำๆ ติดอยู่ วิ่งไปส่องในครัวจะเห็นว่าไฟลุกโชนประหนึ่งผัดไฟบุ้งไฟแดงเลยค่ะ
พอคช้อปย่างจิ้มแจ่ว 220 บาท
สันนอกหมูติดกระดูก นำไปหมักเครื่องเทศมีกลิ่นหอมในตัว มีความหนาแต่นุ่มมากเสิร์ฟมาพร้อมผักสลัดกับผักไฮโดรโปนิกส์ ราดด้วยน้ำสลัดงาญี่ปุ่น น้ำสลัดของที่นี่ก็อร่อยมาก ส่วนน้ำจิ้มแจ่วมีกลิ่นหอมของงาที่ไม่เหมือนที่อื่น เมนูนี้ห้ามพลาดนะคะเป็นกับแกล้มก็เริ่ดมาก)
ไข่เจียวเห็ดหอมสด 90 บาท
เป็นไข่เจียวฟูกรอบแต่ไม่เหมือนตรงที่เป็นไข่เจียวหนา กรอบนอกนุ่มในเมนูนี้เด็กๆ ทานได้อร่อยมากเมลลี่ทานข้าวได้เยอะเลยค่ะ
แกงส้มลูกฟักแม้วกุ้งสด 220 บาท
เป็นครั้งแรกที่เราได้ลองเมนูนี้ ปกติคุ้นเคยแต่แกงส้มผักรวม แกงส้มชะอมไข่ อะไรแนวนั้น มาที่ครัวไร่สองเราแปลกดีเหมือนกันค่ะไม่น่าเชื่อว่าลูกฟักแม้วซึ่งเป็นวัตถุดิบในพื้นที่จะนำมาทำแกงส้มได้อร่อยมาก น้ำแกงมีความเข้มข้นเนื่องจากมีการนำกุ้งมาโขลกไปพร้อมกับเครื่องแกงหม้อนี้หากอยากได้รสอะไรนำสั่งได้ เช่น เอาเผ็ดๆ ก็สั่งได้เลยค่ะ พ่อครัวร้านนี้ทำตามสั่งได้หมด
ได้ยินเสียงท้องร้องของเพื่อนแล้วก็รีบกดชัตเตอร์ไวๆ เราเองก็หิวตั้งแต่พนักงานเริ่มยกอาหารมาเสิร์ฟแล้วล่ะ พอแล้วเลิกถ่าย ลุยค่ะ!บรรยากาศของครัวไร่สองเราดีมากเลยค่ะ หลังจากแสงสุดท้ายลับของฟ้า อากาศเย็นๆ ก็เริ่มมา
มุมด้านนอกจะถูกจับจองมากที่สุดค่ะ
ตั้งแต่ก้าวขาข้างซ้ายเข้าร้านก็ได้ยินเสียงเพลงยุค 90 เข้าหูตั้งแต่ครั้งแรก จนกระทั่งทานข้าวอิ่ม ส่งลูกกับสามีเข้านอนขุ่นแม่ก็ชวนเพื่อนๆ นั่งต่อที่ร้าน เพราะว่าเพลงเพราะมาก ขุดมาเถอะค่ะประหนึ่งนัดกันมารียูเนียนแล้วแข่งกันทายชื่อเพลง นี่ถ้ามีปุ่มกดไฟเหมือนอยู่ในรายการจู๊คบ๊อกเกม ที่มีพิธีกรคือคุณไก่ สมพล กับคุณตุ๊ก ญานี (บ่งบอกอายุมาก) ใครทายถูกก่อนไม่ได้อะไร แต่ได้ความเก่งก็แค่นั้นและบ่งบอกสติปัญญามากค่ะเพื่อน 55 เป็นโมเม้นต์ที่สนุกมาก ย้ำอีกทีเพลงร้านครัวไร่สองเราเพราะมากค่ะ อย่าถามเราเลยว่าทายถูกกับเค้าบ้างมั้ย ช้าาาาตลอดค่ะ
ตกดึกเพลงเพราะ บรรยากาศดี มันเป็นวิถีของคนเริ่มอยากชนแก้วกับแกล้มก็มา สั่งสิคะ นี่ถ่ายนี้มาอวดตอนสติสัมปชัญญะไม่ค่อยจะเต็มนะ เบลอมาเชียวแกเอ๋ย แต่เป็นเมนูที่เชฟทำแป๊บเดียวจริงๆ แต่หน้าตาและรสชาติชนะ ควรบรรจุอยู่ในเมนูกับแกล้มของร้านด่วนเลยค่ะ ไม่ต้องอิจฉาพวกเรานะใครไปเที่ยวเขาค้อหากไม่ได้พักที่นี่ก็ไปทานข้าว นั่งดื่มเบาๆ เบียร์ลาวก็มีนะเออ ฟังเพราะเพราะๆกันได้ค่ะ
_________________
เช้าวันใหม่..
อย่าถามว่ากลับกันกี่เพลา แยกวงกันกี่โมงรู้แต่ว่าเราตื่นเป็นคนแรกเพราะลูกมาปลุก เดินไปหาเพื่อนยังคงสลบกันทั้งห้อง เช้านี้ไม่มีหมอกลอยมาอย่างที่ใจต้องการ แต่เอาเถอะเดี๋ยวกลับมาซ่อมใหม่ ในวันที่อากาศเป็นใจหมอกลอยมาให้เห็นเลยค่ะ
เดินไปทานข้าวเช้าที่บริเวณร้านอาหารเหมือนเดิมค่ะ เช้านี้ฟ้าสวย อากาศดี ลมพัดเย็นสบาย
ชา กาแฟ ขนมปังปิ้ง บริการตัวเองได้เลยค่ะ
สลัดก็มีน้ำสลัดสูตรเดียวกับเมื่อคืนอร่อยมากข้าวต้มลูกฟักแม้วครั้งแรกอีกแล้วกับเมนูนี้ซึ่งอร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มแล้ว
ร้อนๆ ซดคล่องคอเชียว
อาหารเพื่อสุขภาพของคุณแม่อิ่มแล้วเดินถ่ายรูปเล่น กลับไปนอนต่อกะเอาให้คุ้มค่าว่างั้นเลย เอาจริงๆ ไม่ได้พักผ่อนนอนยาวๆ แบบนี้มานานแล้ว check-out ตอนเที่ยงก็นอนกันยัน 11.50 น.เลยเชียวที่พักสวย สงบ สุดคุ้ม แค่ได้ทานอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ ก็คุ้มแล้ว มาสัมผัสความเย็นแบบปลอดสาร ปราศจากมลพิษ สูดหายใจได้อย่างเต็มปอด กับรีสอร์ทที่ไม่ต้องติดแอร์ แต่ต้องนอนห่มผ้า
ที่ไร่สองเรา@เขาค้อ
“เพชรเม็ดงามที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา ไม่ผิดหวังที่ดั้นด้นเข้ามาอย่างแน่นอน”..!!!
– Cottage : 2 Person. (2,000฿)
– VIP Cottage : 2 Person. (3,000฿)
– Family Cottage : 4 Person. (6,000฿)
ราคาส่วนลดพิเศษตามช่วงเวลาต่างๆ เข้าดูราคาและจองห้องพักออนไลน์ได้เลย ที่ booking.raisongrao.com
ราคานี้พร้อมอาหารเช้า และยังมี Gift Voucher ห้องอาหารให้อีกสำหรับมื้อเย็น (บ้าน 2 ท่าน = 500฿ / บ้าน 4 ท่าน = 1,000฿)
website : http://www.raisongrao.com/