เที่ยวแบบกรู >>พาลูกเที่ยวสุพรรณบุรีทริปสั้นๆ นึกอยากจะไปก็ไปก็แค่อยากพาลูกไปดูทะเลหมอกยามเช้า และไปดูพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนกระเสียว
ไปเที่ยวสุพรรณกันมั้ย? มีที่เที่ยวเยอะเลยนะแถมใกล้กรุงเทพแค่เนี่ย!
ครอบครัวของเราเคยวางแผนจะไปเที่ยวหุบเขาวง ที่สุพรรณกันมาตั้งแต่ต้นปีเคยจองแพไว้แล้วด้วยแต่มีเหตุให้ต้องยกเลิกหลายรอบ แต่คราวนี้เราไม่จองแล้วตั้งใจจะแวะไปเที่ยวเฉยๆ (เพราะจองไม่ทันเต็ม) อีกสถานที่ที่อยากไปมากๆ คือยอดเขาเทวดา อุทยานแห่งชาติพุเตย เมื่อคุณสามีตกลง ลูกสาวโอเค เราก็ล้อหมุนตอนตี 4 ของเช้าวันเสาร์ค่ะ
จากบ้านของเราย่านปทุมธานีมุ่งหน้าไปอุทยานแห่งชาติพุเตย ระยะทาง 215 กม. คิดว่ายังไงก็ต้องไปทันพระอาทิตย์ขึ้นแน่นอน ปรากฏว่าเราเป็นคนขับเองค่ะปล่อยให้สามีและลูกหลับไป อิชั้นหลงค่ะคุณ หลงไปอยู่หนใดไม่รู้เสียเวลาประมาณ 25-30 กม. สรุปไปถึงก็เจอกับภาพนี้แล้ว
พระอาทิตย์ขึ้นมาทักทายเรียบร้อย ก็ยังดีที่ได้เห็นทันแม้ว่าไม่ได้ดวงกลมโตแบบที่ต้องการก็เถอะ อากาศช่วงเช้าๆ 18 องศา เย็นสบาย แวะซื้อข้าวเหนียว หมูปิ้ง ก่อนขึ้นมาบนนี้กินไปมองวิวไปอร่อยมาก
แค่ระหว่างทางก็สวยงามมาก
ขับต่อไปก็เจอหมู่บ้าน โห! นี่หมู่บ้านในสายหมอกชัดๆ ไม่เห็นกับตาไม่อยากจะเชื่อว่าที่นี่สุพรรณ นึกว่าแม่ฮ่องสอน
ขับต่อไปค่ะเพราะเป้าหมายของเราคือที่นี่เลย
“อุทยานแห่งชาติพุเตย อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี”
ไปถึงประมาณ 7 โมงนิดๆค่ะ
กะจะพาลูกล้างหน้า แปรงฟัน ในห้องน้ำของอุทยานแต่ปรากฏว่าวันนั้นน้ำไม่ไหล ตึง! ใช้น้ำดื่มไปก่อนนะคะลูก
บริเวณจุดกางเต็นท์มีน้องๆ นักศึกษากลุ่มหนึ่งมาพักค้างแรม
เราได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในอุทยานสอบถามเรื่องอยากไป ยอดเขาเทวดา ได้ความว่ารถคันเล็กๆของเราไม่สามารถไปได้แน่นอน ต้องเหมารถของเจ้าหน้าที่ไป ราคา 2,000 บาท ไป-กลับ ซึ่งราคานี้ ณ ขณะนั้นไม่พร้อมจะจ่าย คงต้องกลับไปอีกรอบรอเกณฑ์เพื่อนไปช่วยกันหารดีกว่า อีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ ป่าสน แต่ทางไปก็โหดพอตัว สรุปไปไหนไม่ได้กลับค่ะที่รัก ในรูปนี้คือทางไปป่าสนนะคะสถานีต่อไปจะไปน้ำตกตะเพิ่นคี่ ขับตามป้ายไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ป้ายหาย!! และพอเสิร์ช GPS ก็ดันขึ้นมามีทั้ง น้ำตกตะเพิ่นคี่น้อย น้ำตกตะเพิ่นคี่ (เฉยๆ) งงละชีวิต วนไปวนมาสรุปเปลี่ยนเป้าหมาย งั้นไปที่ อ่างเก็บหุบเขาวง ละกัน อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติพุเตย ประมาณ 40-50 กม. อยู่ในอำเภอด่านช้างเช่นเดียวกัน
ไปถึงปากทางจะมีคนเก็บ 20 บาท ต่อคัน หลังจากจุดนั้นไปต่ออีก 8 กม. ฟังดูก็ไม่ได้จะไกลมากแต่ขอบออกว่ามันทรมาณสำหรับรถคันเล็กๆ แบบเรามาก ดูทางสิคะเป็นแบบนี้ตลอดทาง
พอหลุดเวิ้งนี้ทางดีขึ้นมาหน่อย
“อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี”
สถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่เมื่อต้นปี ที่นักท่องเที่ยวแห่ไปพักกันแน่นทุกวันหยุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนบ้านพุน้ำร้อน จนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” โดยได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เราไปถึงประมาณ 10 โมงกว่าๆ มีเจ้าหน้าที่กำลังติดป้าย อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง พอดีเลยค่ะอากาศตอนเช้าคงจะเย็นสบาย มีดอกบัวตองกำลังเบ่งบานพอดีค่ะ สลับกับดอกไม้อื่นๆ
ได้แค่แวะมาเที่ยวก็ฟินอยู่นะ แต่รอบหน้าต้องไม่พลาดหาโอกาสมาพักสักคืน
ค่าที่พัก แพหลังเล็ก 400 บาท พักได้ไม่เกิน 3 คน
แพหลังใหญ่ 2,000 บาท พักได้ถึง 30 คน หารกันแล้วถูกมากๆ
ราคานี้ไม่รวมอาหาร แต่สามารถสั่งได้
เบอร์ติดต่อ 092-4933833
เกือบๆ 11 โมง ได้เวลาไปต่อ ระหว่างจะทางมีชาวบ้านต้มข้าวโพดขายในไร่ด้วย หวานอร่อยถูกมากๆ ฝักใหญ่ 3 ฝัก 20 เท่านั้นเอง
มุ่งหน้าเขื่อนกระเสียว ระหว่างทางคุณสามีบอกว่าวันนี้ยังไม่ได้โดนกาแฟสักแก้วเลย ขับไปเรื่อยๆ มาโผล่ในตัวอำเภอเจอร้านกาแฟนี้โดยบังเอิญค่ะ
“หลงกาแฟ”
อ.ด่านช้าง สุพรรณบุรีร้านกาแฟเล็กๆ ตกแต่งได้น่านั่งเครื่องดื่มก็ราคาไม่แพง
สั่งลาเต้เย็นให้คุณสามี ส่วนแก้วนี้ของเราเองค่ะ รสชาติโอเคเลย
ออกจากร้านหลงกาแฟ ไปต่อที่เขื่อนกระเสียวตั้งใจจะไปหาที่พักเอาดาบหน้า เป็นทริปแรกที่เราไม่ได้จองที่พักตั้งใจว่าจะพาลูกไปนอนเต็นท์หอบถุงนอน ผ้าห่ม ยัดใส่ท้ายรถมาเรียบร้อยกะมานอนเต็นท์ๆ ฟินๆ ริมเขื่อน
“กระเสียวรีสอร์ท”
จากทางเข้าจุดชมวิวเขื่อนกระเสียว ไปต่ออีกประมาณ 2-3 กม. ก็ถึง เขื่อนกระเสียวรีสอร์ท มีป้ายครัวกระเสียวรีสอร์ทชัดเจนแปลว่ามาถูกแล้ว
บรรยากาศคือเรียบง่าย เดินไปตามหาเจ้าของด้วยค่ะคือไม่มีใครอยู่ต้อนรับลูกค้าเลยค่ะ ชิลล์มาก เจอป้าเจ้าของถาม ป้าบอกว่าค่ากางเต็นท์ 100 บาท ในกรณีนำเต็นท์มาเอง แต่ถ้าเกิดไม่ได้นำเต็นท์มาเองค่าบริการ 400 บาท ทีนี้ไปถึงก็เกือบเที่ยงแล้วครั้นจะกางเต็นท์นอนตอนนี้ก็คงจะร้อนมาก มุมนี้เลยค่ะริมเขื่อน
เราก็เลยสอบถามบ้านพัก ป้าบอกว่าหลังละ 700 บาท พร้อมอาหารเช้า มีสองแบบคือด้านบนแบบในรูปเราไม่ได้เปิดไปดูข้างในเนื่องจากสนใจบ้านริมเขื่อนมากกว่า
หลังนี้ก็ราคาเท่ากัน 700 บาท
มีระเบียงด้านหน้าวิวจากระเบียงค่ะ
เป็นบ้านไม้สักด้านในสวยงามดีค่ะ เปิดประตูเข้าไปเจอเตียงเล็กๆ พร้อมกับที่นอนเสริมถูกปูเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พอคุณลูกเห็นเตียงนางกระโดดขึ้นไปนอนซะอย่างนั้นแถมยังบอกว่าเมลลี่จะนอนตรงนี้ ห้องนี้มีแอร์ ทีวีเครื่องเล่น(ไม่ได้เปิดไม่รู้ว่าดูได้หรือเปล่า)
หันไปมองหน้าคุณพ่อ ก็คงต้องเอาแบบนี้สรุปเลิกล้มการนอนเต็นท์
ห้องน้ำแอบน่ากลัวนิดนึง ชักโครกเก่า ฝักบัวพัง ต้องตักน้ำอาบในโอ่งเอาค่ะ
สำหรับมื้อเที่ยงเราสั่งอาหารกับที่พักเลยค่ะ ไม่อยากออกไปไหนแล้ว มีกะเพรา ข้าวไข่เจียว ผัดผักหมู และป้าแถมต้มผักกาดดอง กับของหวานมาให้
หลังจากทานมื้อเที่ยงกันอิ่มแล้ว หลับกันหมดทั้งบ้านเนื่องจากตื่นเช้าเปิดแอร์เย็นๆ หลับปุ๋ยเลย ตื่นมาอีกที 4 โมงกว่าๆ ตั้งใจจะพาลูกไปดูม้า ขับรถออกมาจากกระเสียวรีสอร์ทให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือตรงไปเรื่อยๆค่ะ ก็จะถึง โฮมสเตย์ และครัวบ้านอาชา
ทางเข้ามีดอกหญ้าแสงสีทองยามเย็น ลมพัดเบาๆ
ที่นี่เป็นฟาร์มม้าค่ะ เลี้ยงม้าเยอะมากคุณลูกบอกว่าอยากเลี้ยงม้าครัวอาชาบรรยากาศชิลล์ดีนะคะ วันหน้าต้องไปชิม
พระอาทิตย์ใกล้จะตกเลยรีบขับรถออกจากบ้านอาชา มุ่งหน้าเขื่อนกระเสียว
ไปถึงแอบตกใจคนเยอะมาก จอดรถกันยาวเหยียดคือวันนั้นมีงานปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติ มีงานแสดงว่าว ด้วยค่ะ
เดินขึ้นไปชมวิวจากพลับพลาที่ประทับ
หรือจากมุมนี้มองไปที่เขื่อนก็สวยมาก
เดินลงไปชมวิวด้านล่างดีกว่าค่ะ
เริ่มเย็นแล้ว พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนั้นยุงจะเริ่มมาแน่ เรามีตัวช่วยสำคัญเพื่อปกป้องยุงร้ายให้กับเจ้าตัวเล็กมาฝากค่ะ เบบี้คิวโตะ (Baby Qto) เป็นสายรัดข้อมือกันยุงจากธรรมชาติ ไม่สัมผัสผิวหนังโดยตรง รวมทั้งไม่มีการดูดซึมเข้าผิวหนัง ลดโอกาสเกิดการแพ้ สายรัดข้อมือทำจากซิลิโคนเกรดเดียวที่ทำภาชนะใส่อาหารของเด็กเล็ก (BPA free) ปลอดภัยปราศจากสารพิษและโลหะ
มีทั้งหมด 4 ลายค่ะ เราเลยขนไปทั้งหมดเพื่อให้เมลลี่เลือกเอง
ทุกการเดินทางของเราไม่ว่าจะเป็นไปน้ำตก เดินป่า กางเต็นท์ ยุงเยอะทั้งนั้น ปกติจะใช้สเปรย์ฉีดซึ่งลูกจะรำคาญและไม่ชอบให้ฉีดเท่าไร แต่พอเป็นสายรัดข้อมือแบบนี้ลูกชอบมาก เด็กหัวหยองเลือกปลาโลมาค่ะ
พอแกะออกมาจะมีรีฟิลอีกก้อนอยู่ด้านในแพค 1 ก้อนจะใช้ได้ 15 วันค่ะ ใส่แล้วก็สามารถล้างมือได้ หากไม่ใส่ก็เก็บไว้ในถุงซิปล็อค ซึ่งกลิ่นของเบบี้คิวโตะจะเป็นกลิ่นตะไคร้หอมค่ะอยู่ๆ ก็หันมาหยิบกระต่ายบอกว่าให้แม่ใส่ด้วย สุดท้ายกลายเป็นใส่คู่กันเลยค่ะ
ใครสนใจอยากซื้อไปลองใช้ ตอนนี้มีโปรโมชั่นด้วยอันละ 249 บาท หรืออยากอ่านข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่นี่เลยค่ะ
Tel: 081-888-4630, 083-123-5210
Line: @babyqto
facebook: www.facebook.com/babyqto
website : http://www.babyqto.com/
สนุกสนานกับผลิตภัณฑ์หันไปอีกทีพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าเลยค่ะชวนลูกมานั่งชิลล์กัน
บางคนก็มาวิ่งออกกำลังกาย บางคนก็มาปั่นจักรยานอยู่ๆนางแบบก็บอกว่า “แม่ถ่ายรูปให้เมลลี่หน่อย” บางทีก็หมั่นไส้ทีตอนให้ถ่ายดีๆ ก็ไ่ม่ยอม 55
นางแบบฟินกับบรรยากาศมากจริงๆค่ะ
นานๆ จะบอกรักแม่สักที ^^บรรยากาศเป็นใจใช่มั้ยคะลูกนั่งเล่นกันอยู่สักพัก ใกล้จะมืดสนิทก็เลยชวนกันกลับที่พักไปหาข้าวเย็นทานกันค่ะ
ใครจะไปเที่ยวเขื่อนกระเสียวจริงๆ จากกรุงเทพ สามารถไปกลับได้นะคะ
เวลาเข้าชมเขื่อน
1 กพ. – 30 กย. เวลา 05.00 – 19.00 น.
1 ตค. – 31 มค. เวลา 05.00 – 18.oo น.
กลับไปถึงที่พัก เขื่อนกระเสียวรีสอร์ท คนเริ่มมากางเต็นท์กันเยอะขึ้นเราก็ไปถามคุณป้าว่าสั่งอาหารอะไรได้บ้าง คุณป้าบอกอยากกินอะไรจัดให้ทุกอย่าง สรุปเราได้มา 2 เมนู คือ ปลาทอดกับต้มจืดเต้าหู้หมูสับนั่งกินกันที่ศาลาหน้าบ้านค่ะ ไม่ต้องกลัวยุงเพราะเรามีเบบี้คิวโตะ ไฟว์!!
สรุปการทดลองใช้วันนั้นปกติลูกจะบ่นตลอด “แม่ๆยุงกัด” รอบนี้ไม่บ่นสักคำ เพื่อความชัวร์เราก็เลยใส่ด้วยและใส่เสื้อแขนกุดล่อยุง ปรากฏว่ารู้สึกไม่โดนยุงกัดค่ะ มีบินวนๆ ที่หูให้ได้ยินเสียงเท่านั้น หลังจากกลับจากทริปนี้คุณลูกก็ใส่ในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะตอนเย็นที่ไปวิ่งเล่นค่ะ
_____________________
เช้าวันใหม่….
หลับกันตั้งแต่หัวค่ำทำให้เช้านี้เราตื่น 6 โมง มานั่งชมวิวเขื่อนตอนเช้า
ที่เห็นคือแพปลาของชาวประมงค่ะ บางแพก็มีที่พักเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วยพระอาทิตย์ส่องมาตรงกลางเขื่อนพอดีเลยได้รูปนี้มาค่ะ
ส่วนบริเวณจุดกางเต็นท์พี่ๆ เก็บเต็นท์กันเร็วมากแป๊บเดียวเกือบหมดแล้ว
บรรยากาศยามเช้าที่เขื่อนกระเสียวรีสอร์ทค่ะ
เข้าไปทานข้าวเช้ากันที่นี่ หรือจะตักไปทานที่บ้านก็ได้ค่ะ
ซึ่งตอนนั้นไม่หิวกัน คุณป้าก็เลยให้ข้าวเหนียวหมูมาเมลลี่จัดการหมดกล่องเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมียังมีราคากล่องละ 10 บาท
จัดการหมูหมดกล่องก็ได้เวลากลับกันแล้ว ราคาค่าเสียหายตามนี้เลยค่ะ 1,160 บาท รวมกับมื้อเที่ยงเมื่อวาน
“Coffee 47 “
เลี้ยวออกมาจากกระเสียวรีสอร์ท ร้าน coffee 47 จะอยู่หัวมุม เป็นร้านใหญ่และมีหลายคนแนะนำมาว่าให้มาลอง มุมถ่ายรูปหน้าร้านกับสไปเดอร์แมนด้านในเป็นปูนเปลือย พร้อมเก้าอี้ไม้มีมุมนั่งด้านนอก
มีบ่อปลาและชิงช้า ที่เด็กๆ ต้องชอบมากๆ
เราสั่งชาไทยเหมือนเดิม 50 บาท เข้มข้นใช้ได้สมราคา นอกจากเป็นร้านกาแฟแล้วยังเปิดเป็นร้านอาหารด้วยค่ะ
เมื่อวานเที่ยวด่านช้างแล้ว วันนี้จะแวะเที่ยวอำเภออู่ทองค่ะซึ่งเป็นทางผ่านกลับบ้านพอดี
“ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง)”
จากเขื่อนกระเสียวไปยังศูนย์พันธุ์เพาะเลี้ยงระยะทาง 55 กม. หาข้อมูลมาบอกว่าหากไปช่วงเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงของดอกเบญจมาศกำลังบานพอดี ที่นี่เข้าเที่ยวชมฟรีค่ะ
พอไปถึงก็เดินหาแปลงเบญจมาศ ไปเจอพนักงานเลยถามได้ความว่า ปกติทุกปีจะมีเบญจมาศช่วงนี้พอดีแต่ปีนี้งดจ้า T_T มีแต่ป้ายยังอยู่
ถ้าอย่างนั้นก็ชวนลูกเดินดูพรรณไม้ไป อันไหนที่แม่รู้จักบอกเล่าให้หัวหยองฟัง ลูกชอบต้นไม้ ชอบธรรมชาติตั้งใจฟังแม่มากค่ะ
ถัดจากแปลงสับปะรดสี ก็ไปดูกระบองเพชรแห่งทะเลทรายกัน
“ว้าวว มีคาเมลด้วย” เสียงเด็กตื่นเต้นดีใจ
โซนนี้มีกระบองเพชรหลายพันธ์ุในโรงเรือนขนาดใหญ่ให้เที่ยวชมค่ะ
มีป้ายชื่อบอกแต่ละพันธุ์ด้วย
นอกจากนั้นยังมีสระบัว พืชอีกหลายชนิด ที่หากใครอยากจะไปศึกษาเพื่อนำมาประกอบอาชีพก็ได้เลยค่ะ นอกจากนั้นยังมีแปลงทานตะวันที่น่าจะออกดอกต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี
ปฏิทินท่องเที่ยวหลักของศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง ปี 2559-2560
16 มีนาคม-30 เมษายน 2558 … เทศกาลดอกไม้งามฤดูร้อน
1กรกฏาคม -31 สิงหาคม 2559 … ทุ่งดอกกระเจียวสื่อรักวันแม่
1 กันยายน -31 ตุลาคม 2559 … สับปะรดสีแฟนซี
1-30 พฤศจิกายน 2559 … งานเบญจมาศบาน
1-15 ธันวาคม 2559 … ทุ่งทานตะวัน วันพ่อ
16-30 ธันวาคม 2559 … ดอกทิวลิปบาน
1-31 มกราคม 2560 … เทศกาลดอกไม้เมืองหนาว
1-29 กุมภาพันธ์ 2560 … กุมภาสัญญารัก ดอกกุหลาบ
1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2560 … กระบองเพชร ดอกไม้แห่งทะเลทราย
1- 30 มิถุนายน 2560 … ดอกบ้วในสวนสวรรค์
“พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” วัดเขาทำเทียม
อยู่ไม่ไกลกันมากการเดินทางสะดวกสบาย ถนนดีเลยล่ะค่ะ
พระพุทธรูปแกะสลักภูผาใหญ่ที่สุดในโลก ณ ผามังกรบิน ขนาดหน้าตัก 65 เมตร สูง 84 เมตร หรือ หลวงพ่ออู่ทอง ปางมารวิชัย ศิลปะอู่ทอง 1สร้างมา 3 ปีแล้ว (อัพเดต 20 พย.59) คิดว่าปีหน้าคงเสร็จสมบูรณ์ ฝุ่นค่อนข้างเยอะมาก ควรใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นด้วย
ขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นบึงน้ำ
มีการเจาะหินเป็นโพรงให้เดินทะลุไปอีกฝั่งได้
ทางขึ้น-ลง คนละทาง
แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเริ่มไปเที่ยวกันเยอะแล้ว
อ.อู่ทอง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น รอยพระพุทธบาทวัดเขาดีสลัก , NPJ Fantasy หรือจะแวะไปเที่ยวในเมืองต่อก็ยังมีเวลาแต่เรามีงานด่วนต้องรีบกลับไปให้ทันบ่ายโมง แต่ถือว่าได้เที่ยวหลายที่มากสำหรับเวลาแค่วันครึ่ง
ค่าใช้จ่ายทริปนี้
ค่าน้ำมัน 1 ถัง 800 บาท (ยังเหลือ)
ค่าที่พัก 700 บาท
ค่าอาหารหมดไป 500 (ก้อนกลมๆ)
หาร 2 คน (เด็กเมลลี่ไม่คิด) คนละ 1,000 พอดี
แต่ถ้ามีเพื่อนไปอีกสัก 2 คนทริปนี้ไม่ถึงพันแน่นอนค่ะ