เพ ลา เพลิน ไม่ได้มีแค่ดอกไม้แต่กิจกรรมแน่น

เที่ยวแบบกรูขอพาไปเที่ยว เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ หลายคนคงพอได้ยินชื่ออุทยานดอกไม้ในอีสานใต้กันไปบ้างแล้ว แต่รู้หรือเปล่าคะว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่ดอกไม้สวยๆ ซึ่งจะเปลี่ยนไปทุกฤดูกาลเท่านั้น ยังมีโรงแรม กิจกรรมแอดเวนเจอร์ มีงานเวิร์กช้อปให้ได้เรียนรู้ มีอาหารอร่อยๆ ให้ได้ไปชิม พูดเลยว่าไปที่เดียวครบมาก

เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์
อยู่ในอำเภอคูเมือง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30-40  นาที เดินทางสะดวกด้วยเครื่องบินแค่ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้วค่ะ ครอบครัวหัวหยองเคยไปเที่ยวเพ ลา เพลิน กันตั้งแต่เมลลี่ยังเดินไม่ได้ เด็กน้อยตื่นตาตื่นใจกับที่นี่มากเลยค่ะ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัวจริงๆ

ถึงแล้ว เพ ลา เพลิน ป้ายโดดเด่นสีสันสดใสมากเลยค่ะ
เดินเข้าไปในนี้ซื้อบัตรกันก่อน ราคาบัตรมีดังนี้
อุทยานดอกไม้ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 80  บาท
สวนน้ำ             ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 120 บาท
อุทยานดอกไม้และสวนน้ำ ผู้ใหญ่ 280  บาท เด็ก 180  บาท 
*เด็กสูงไม่เกิน 90 ซม.เข้าชมฟรีค่ะ
แค่เข้าไปด้านในก็สวยงาม เป็นมุมนั่งพักผ่อนถูกใจเด็กๆ มากเลยล่ะค่ะ ของตกแต่งส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์วินเทจ
โพสต์ท่าถ่ายรูปกับโซฟาสีแดงแรงฤทธิ์ตัวนี้แจ่มมาก


ด้านบนของอาคารที่จำหน่ายตั๋วจะมีห้อง ประชุม สัมนาด้วยค่ะ
กิจกรรมของที่นี่ก็จะแบ่งเป็นฐาน เล่นได้ทั้งเด็กเล็ก จนถึงผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว
เรามีมัคคุเทศน์ตัวเล็ก น้องโชกุน กับน้องส้ม สองพี่น้องพาเที่ยวที่ เพ ลา เพลิน ไปกับน้องๆ ทั้งสองคนเลยค่ะ โดยเริ่มต้นด้วยการถ่ายภาพสนุกๆ กับภาพสามมิติมุมนี้ค่ะ
เดินไปต่อกับฟาร์มแกะมุมนี้เลยค่ะ
ปีที่แล้วแกะที่นี่ยังดูน้อยๆ มาปีนี้ดูเพิ่มขึ้นกว่าเดิมแถมแต่ละตัวดูสุขภาพดีขนนุ่มน่าจับ สามารถซื้ออาหารมาป้อนแกะได้นะคะหรือจะชวนแกะมาเซลฟี่ก็ได้เหมือนกัน ช่วยด้วยขุ่นแม่โดนรุม ฮาใกล้ๆ ฟาร์มแกะ จะมีม้าแคระ ขนนุ่มๆ น่ากอดมาก
ลานงานวัด

บริเวณพื้นที่สำหรับการจำลองบรรยากาศในการจัดเทศกาลงานวัด ที่ได้กลิ่นอายของการละเล่น กิจกรรมร่วมสนุกต่างๆ เช่น การตักไข่ ยิงเป้า ปาลูกดอก 



ลุ้นกัน หัวเราะกันจนท้องแข็งนานๆ จะได้เล่นแบบนี้ทีค่ะ ยืนลุ้นน้องๆ จนปวดขาเหนื่อยก็นั่งพักตรงนี้ ชิลล์ประหนึ่งอยู่ริมทะเล

เล่นกันขำๆ ไปแล้ว ไปเล่นกิจกรรมที่เร้าใจกว่าเดิมกันดีกว่ากับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ผู้ใหญ่เล่นได้ เด็กๆ เท่าน้องโชกุน กับน้องส้มก็เล่นได้เหมือนกันค่ะ

กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China)

ปืนหน้าผากับสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นการทดสอบพละกำลังอย่างดีเลยล่ะค่ะ



กิจกรรมไต่เชือก

เด็กๆ ก็เล่นได้ไม่อันตรายค่ะ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลแต่ละฐาน 

แล้วเดินต่อไปยังหอไอเฟล

หอเอนปิซา (Pisa Leaning Tower)

เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นหอระฆังของมหาวิหาร เมืองปิซา ประเทศอิตาลี จัดกิจกรรมโรยตัวทางดิ่งด้วย อุปกรณ์ที่มีความ ปลอดภัยสูง ประกอบด้วย เชือก สำหรับสไลด์ลงจากที่สูง กางเกงไต่เขา หมวก กันน็อค และคาราปิเนอร์ (อุปกรณ์ต่อพ่วงระหว่างจุดต่างๆ )

หอไอเฟล (Eiffel Tower)

ตั้งอยู่ในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส และมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักทั่วโลก จัดกิจกรรมเลื่อนข้ามน้ำ หรือ “จิ้งจอกเวหา” โดยใช้หอไอเฟลเป็นฐานสูง ติดตั้ง สลิงพร้อม ลูกปืนเพื่อข้ามน้ำไปฝั่งตรงข้าม ความชัน 3 องศา เพื่อให้รอกวิ่งได้ มีระบบควบคุมความเร็วและฐานรับสลิง

ทาวเวอร์บริดจ์ (Tower Bridge)

เป็นสะพานเปิด ปิด ที่ใหญ่ที่สุดในโลกข้ามแม่น้ำเทมส์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จัดกิจกรรม ข้ามลำน้ำ ด้วยสะพานเชือก เป็นการฝึกการทรง ตัวในที่แคบ หรือการเดินเพื่อลำเลียงสิ่งของ

สะพานโฟม (Foam Bridge)

กิจกรรมสะพานโฟม วิ่งลอยตัวเหนือน้ำบนแผ่น โฟมขนาดกว้าง 1.24 เมตร x ยาว 2.40 เมตร ผูกต่อกันเป็นช่วงๆ เหนือลำน้ำ เพื่อวิ่งทรงตัวโดย ไม่ตกลงในน้ำจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งเล่นกันเหงื่อซก ใช้พลังกันเยอะมาก ไปหาขอเย็นๆ กระแทกปากดีกว่า ที่เพ ลา เพลิน มีไอศกรีมเจลาโต้ รสชาติแบบที่ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน หลายรสมาก เช่น รสองุ่น , ไวน์สตรอว์เบอร์รี หนึ่งปีจะมีครั้งเดียวเท่านั้น กับผลองุ่นสดๆ จากไร่ นี่ชิมทุกรสชอบทุกแบบเลือกไม่ถูกเลย
ต่อไปจะพาไปเที่ยวเรือนไทยริมน้ำในสมัยรัชกาลที่ 5 กันต่อค่ะ

มีสาวสวยใส่ชุดในสมัยรัชกาลที่ 5  มารอรับถึงหน้าประตูเลยค่ะ
ขึ้นไปบนเรือน มีความงดงามมากตั้งแต่ราวบันใดยันเข้าของเครื่องใช้ทุกอย่างในสมัยนั้น เลอค่า ทุกชิ้นเลยค่ะ

เป็นเรือนที่นอกจากจะสวยงามแล้วยังให้ความรู้ ของใช้แต่ละชิ้นก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจ ใครไปเที่ยว เพ ลา เพลิน อย่าลืมขึ้นไปดูนะคะ
ลงมาจากเรือนใหญ่ มีเรือนไทยหลังเล็กอีก 2 เรือนค่ะ

เรือนนี้เป็นเรือนน้ำพริกทรงเสวย อย่างที่เราทราบกันดีว่ารัชกาลที่ 5  ทรงโปรดน้ำพริกมากมาที่เพลาเพลินได้ชิมน้ำพริกอร่อยๆ หลายเมนูเลยค่ะ
ตั้งสำรับน้ำพริก ตำกันสดๆ บนเรือแบบนี้เลย
มีน้ำพริกกะปิ น้ำพริกเห็ดที่ชอบมากอร่อยมาก

แกล้มผักสดๆ แหม! ถูกใจข้ายิ่งนัก
เสิร์ฟข้าวสวยร้อนๆ หลากสี เช่น อัญชัน ขมิ้น เดินไปอีกฝั่งมีสาวสวยปิ้งมันเผา ไว้ต้อนรับ

ขนมไทยก็ไม่พร่อง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทำกันสดๆ ตรงนี้เลย


นี่คือเมนูโปรดของคุณแม่เองค่ะ ขนมครก เด็ดมากกกกกินขนมติดคอก็จัดน้ำสมุนไพร สักแก้ว ชื่นใจ ครบรสความอร่อยมาก

ยังไม่หมดเท่านี้ตามไปเที่ยวกันต่อ บอกเลยว่าที่เพ ลา เพลิน มีกิจกรรม และสถานที่อยากแนะนำอีกเยอะเลยค่ะ

บ้านลูกจีน

อาคารที่พักรูปแบบห้องโถงใหญ่ มีเตียง 2 ชั้น 16 เตียง เรียงเป็น 2 แถว รองรับคณะได้ 32 ท่าน เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้า ที่มาเข้าค่ายหรือทำกิจกรรมแบบกลุ่ม เช่น Teambuilding ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กับสไตล์การตกแต่งของโรงเตี๋ยมจีน และยังมีข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ ที่หาดูได้ยากมีให้ชมที่นี่เลยค่ะ




กาลครั้งหนึ่งแกลลอรี่

ภายในแกลเลอรี่ประกอบด้วย นิทรรศการที่แสดงถึง “วิถีชีวิต วิถีไทย” เพื่อให้ผู้ชมได้ทราบถึงวิวัฒนาการทางวัฒนธรรม ประเพณี ความคิด การใช้ชีวิตของคนรุ่นเก่าในอดีต โดยจัดนิทรรศการ 3 ส่วน คือ 

ส่วนนิทรรศการ “อัครศิลปิน” พระสมัญญานาม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยจัดแสดงเครื่องดนตรีสากลสมัยโบราณ ส่วนของเครื่องใช้ต่างๆ เกี่ยวกับการเกษตรแต่ละยุคสมัย และส่วนของศิลปวัฒนธรรม และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันประเภทต่างๆ สิ่งของที่รวบรวมมาบางชิ้นมีอายุนับ 100 ปี ซึ่งล้วนแต่มีคุณค่าควรแก่การเก็บรักษา และหวงแหนไว้ให้ลูกหลานรุ่นต่อๆ ไป ได้ศึกษาเรียนรู้ และทำความเข้าใจด้วยความภาคภูมิใจ


เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นอุทยานดอกไม้กันแล้วเป็นกระแสที่ทำให้อีสานใต้คึกคักมาก ซึ่งปกติโซนนี้ไม่ค่อยจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ (เราเกิดอีสานใต้) เพ ลา เพลิน อาณาจักรแห่งดอกไม้เมืองหนาวแห่งปี ซึ่งปีนี้ได้จัดแสดงดอกไม้เมืองหนาวมีความสวยงามตระการตาของสีสันของดอกไม้ อย่างดอกทิวลิป ไม่ต้องบินไปดูถึงฮอลล์แลนด์ที่บุรีรัมย์ก็มีทิวลิป ตอนแรกเห็นภาพครั้งแรกสวยงามแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นดอกทิวลิปจริงๆโดยเฉพาะช่วงนี้ที่ดอกทิวลิปกำลังเบ่งบานตอนแรกก็ไม่อยาก ทำได้ยังไง? เกิดคำถามในใจจนเมื่อไปเห็นของจริง โดยเฉพาะแปลงเพาะเลี้ยง ทึ่งมากเลยค่ะ ที่ เพ ลา เพลิน นำเข้ามาแล้วก็เพาะเลี้ยงเองในโรงเรือน เราก็จะเห็นต้นอ่อนๆ แบบนี้หลายสี หลายพันธุ์เพลินตาเพลินใจมากค่ะ



ซึ่งภายในโรงเรือนก็ต้องเป็นอุณหภูมิเย็นๆ ที่เหมาะกับทิวลิป
เหมือนของปลอมมาก แต่ทั้งหมดนี้ดอกจริงทุกต้นค่ะคุณผู้อ่าน
เห็นในแปลงกันแล้ว เราไปดูสวนสวยๆ ในอุทยานดอกไม้เพ ลา เพลิน กันเลยค่ะ

สีสันของธรรมชาติและพันธุ์ไม้นานาชนิด ได้ถูกรวบรวมไว้ที่นี่ นับเป็นอุทยานไม้ดอกแห่งแรกและแห่งเดียวในดินแดนอีสานใต้ มีการแสดงพรรณไม้ทั้งหมด 6 โรงเรือน โดยการออกแบบและตกแต่งอาคารที่จัดแสดงและภูมิทัศน์โดยรอบในรูปแบบ เอกลักษณ์อีสานใต้ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้และจัดสภาพภูมิทัศน์ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ด้วยรักและภักดี

อาคารนี้เป็นการรวบรวมความเป็นเอกลักษณ์ของอิสานใต้ เพื่อจัดแสดงโชว์ นิทรรศการช่วงเทศกาล ความโดดเด่นของโชว์ ด้านใน มีบอร์ดนิทรรศการแนะนำ เพ ลา เพลิน แก่ผู้เข้าชมจุดเด่นสำคัญของห้องโถงนี้อยู่ที่การแสดง 

โรงเรือนที่ 1 จัดแสดงพรรณไม้ตามฤดูกาล

ความพิเศษของดอกไม้ที่พลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปช่วง 5 ฤดูกาล โดยฤดูหนาวเป็นการแสดงดอกทิวลิปจนถึงเดือน กุมภาพันธ์ ในเดือนแห่งความรักจะเปลี่ยนเป็นดอกกุหลาบ ตามด้วยดอกไม้เขตร้อน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดอกประทุมมา (ดอกกระเจียว) ปิดท้ายด้วยดอกไฮเดรนเยีย จากนั้นจะหมุนวนกลับมาเป็นดอกทิวลิปอีกครั้งในเดือนธันวาคม


ซึ่งดอกทิวลิปที่นำมาจัดแสดงให้ชมมีหลายสายพันธุ์ เช่น เพอเพิล ดรีม , ซันนี่ ปริ๊น , เอลลี่ กลอรี่ , ไวท์ ปริ๊น , บราวน์ ซูก้า , พาเรด

ไวท์ ปริ๊น
ออลลี่อัล พลาย
เพอเพิล ดรีม
ฝั่งนี้มีบิโกเนีย

แวะถ่ายรูประหว่างไปโรงเรือนที่สองมุมนี้ชอบมากค่ะ

โรงเรือนที่ 2  โลกดึกดำบรรพ์

จัดแสดงพันธุ์เฟิร์นภายใต้คอนเซ็ปต์ ป่าดึกดำบรรพ์ เป็นการจำลองบรรยากาศของป่าดึกดำบรรพ์ ซึ่งจำลองโลกยุคไดโนเสาร์ และนำเฟิร์นสายพันธุ์ต่าง ๆ กว่า 60 สายพันธุ์ มาจัดแสดงแทรกไว้ เช่น เฟิร์นลูกไก่ทองหรือละอองไฟฟ้า มีขนปกปุยเหมือนขนลูกเจี๊ยบ เฟิร์นกลีบแรด เฟิร์นเงินแคระ เป็นต้น รวมไปถึงต้นไม้กลายเป็นหินที่มีอยู่มากมายในอำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

โรงเรือนที่ 3 สีสันแห่งธรรมชาติ

โรงเรือนที่ 3 จัดแสดงสับปะรดสีและพืชกินแมลง สีสันแห่งธรรมชาติ เป็นสัปปะรดสีและไม้กินแมลงภายใต้แนวคิด สีสันแห่งธรรมชาติ โดยนำสัปปะรดสีมาตกแต่งจำลองเป็นผืนดำและแผ่นน้ำ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติที่ได้สร้างให้กับโลกใบนี้




โรงเรือนที่ 4 กินรี

โรงเรือนที่ 4 จัดแสดงกล้วยไม้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ กินรี อาคารกินรี จัดเป็นธีมกินรีลงเล่นน้ำ พรานบุญจับเหล่ากินรี ท่ามกลางดงป่ากล้วยไม้หายากนานาพันธุ์ เช่น สกุลสปาโธกลอททิส (Spathoglottis sp.) และสกุลรองเท้านารี (Paphiopedilum sp.) 



โรงเรือนที่ 5  มหาปิระมิด

จัดแสดงพืชทะเลทราย ภายใต้คอนเซ็ปต์ มหาพีระมิด อาคารทะเลทราย จัดแสดงตะบองเพชร (แคคตัส) สีสวยๆ และไม้อิ่มน้ำ พืชประจำถิ่นแทบทะเลทราย พร้อมจำลองปีระมิดและ สุสานฟาโรห์ ที่สร้างบรรยากาศทะเลทรายให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน




โรงเรือนที่ 6 ศิลปะอีสานใต้

จัดแสดงดอกหน้าวัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ ศิลปะอีสานใต้ ปิดท้ายด้วยอาคารอีสานใต้ จัดแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อีสาน ผ้าไหม หม่อน บ้านเรือนจำลอง ถูกนำมาตกแต่งเพื่อให้เห็นธรรมชาติของชาวอีสานใต้ ดอกไม้ประจำถิ่น โดยเฉพาะหน้าวัวใบและหน้าวัวดอก พืชพันธุ์ในเขตเมืองร้อน




อีกหนึ่งกิจกรรมเด็ดนั่นก็คือขับรถเอทีวี ไปๆ ขึ้นมาขุ่นแม่จะพาไปเฟี้ยวค่ะ
มีสนามให้ผาดโผนด้วยนะ

หรือถ้าใครไม่ไหวเพลียแดดก็ไปเก็บสตรอว์เบอร์รีกันดีกว่า
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความน่าทึ่งสำหรับเราก็คือบุรีรัมย์ร้อนมากมายปลูกสตรอว์เบอร์รีได้ด้วยเหรอ
ที่เพ ลา เพลิน ทำได้ค่ะ ลูกใหญ่ๆ หวาน ฉ่ำ อร่อยมาก


ข้างๆ แปลงสตรอว์เบอร์รีก็มีดอกไม้ให้ถ่ายอีกหลายอย่างเลยค่ะ


 


พระเขี้ยวแก้ว (จำลอง) และหน่อศรีมหาโพธิ์จากศรีลังกา

เป็นองค์พระเขี้ยวแก้วที่ถือว่าชาวบุรีรัมย์ภาคภูมิ และถูกนำมาประดิษฐสถานที่อุทยานเพลาเพลิน เนื่องในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี และในวโรกาส สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ครบ 84 พรรษาสามารถเข้าไปกราบไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคลได้ค่ะ



เที่ยวกันมาทั้งวันจนเย็น แนะนำว่าไม่ต้องขับรถไปหาที่พักในตัวเมืองแต่อย่างใดเพราะที่ เพ ลา เพลิน มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวอยู่ภายในพื้นที่เดียวกันเลยค่ะ

The Naturalist

โรงแรมดีไซน์นำเสนอเรื่องราวของธรรมชาติในแต่ละทวีปมาตกแต่งได้อย่างลงตัว ตกแต่งด้วยกราฟฟิกลวดลายและเรื่องราวต่างๆ ในธีมของขั้วโลกเหนือ ใต้ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทาง โดยหยิบเอกลักษณ์ของแต่ละทวีปที่โดดเด่นในเรื่องของพันธุ์พืช และพันธุ์ไม้ดอก รวบรวมเรื่องราวและบันทึกการเดินทางในมุมมองใหม่ ที่ไม่ซ้ำกันสักห้อง

ก้าวแรกที่เปิดประตูเข้าไปในโรงแรม อบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้นานาพรรณ ชอบมากเลยค่ะ
Decoration  ของใช้ในการตกแต่งเน้นความเรียบหรู และเป็นสไตล์ธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์เป็นไม้แบบอินดัสเตรียล เน้นงาน Flower Art ทำให้ห้องสดชื่นโปร่งสบายเหมาะแก่การพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
ภายในโรงแรมเน้นการตกแต่งด้วยโทนสีขาวสบายตา ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ดอกไม้ และใส่ใจความเป็นธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ ตัวอาคารโปร่งสบายด้วยกระจกโดยรอบสไตล์กลาสเฮ้าส์ ถือเป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากเลยค่ะ

โรงแรมเป็นอาคารสูง 3 ชั้น แบ่งเป็นโซนขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ มีห้องพักทั้งหมด 55 ห้อง

Forget me not 

ชื่อห้องพักแต่ละห้องจะเป็นชื่อของดอกไม้ค่ะ อย่างเช่นห้องนี้เป็นห้อง Connecting Room กว้างขวางมาก มีห้องรับแขก ห้องครัว 

ภายในห้องนอนก็กว้างขวาง กราฟฟิกบนผนังสีหวานมาก ยกให้เป็นห้องที่ควรค่าแก่การไปฮันนีมูน


ห้องพักของที่นี่จะมี Deluxe Room 2,500 บาท , Grand Deluxe  3,500 บาท , Suite 6,500 บาท และห้อง Connecting Room 8,000 – 10,000 บาท รวมอาหารเช้าและเข้าชม Flora Park ฟรี


The Journey

โรงแรมสไตล์บูติครีสอร์ท  เล่าเรื่องของการเดินทางที่สวยงามของแต่ละทวีป แบ่งเป็นโซนเอเซีย และยุโรป ทั้งหมด 20 ห้อง  Asia Zone อยู่ชั้นล่าง ตกแต่งแบบเอเซีย สไตล์ ไทย ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย






Europe Zone 
อยู่ชั้นบน เน้นการตกแต่งแบบยุโรป มี 10 ห้อง ในสไตล์ อังกฤษ  สเปน  ฝรั่งเศส  เนเธอแลนด์  เดนมาร์ก  กรีซ  เยอรมัน และ สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งตกแต่งภายในให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ประเทศนั้นๆ



นอกจากที่พักแล้วยังมีห้องประชุมสัมนา จัดงานแต่ง งานเลี้ยงก็ยังได้ สวยงามมากเลยค่ะ
เพ ลา ภิรมย์

ทั้งมือเช้า มื้อเที่ยง หรือว่าดินเนอร์มื้อค่ำก็ไม่ต้องออกไปทานข้างนอกเพราะที่ เพ ลา เพลิน มีห้องอาหาร เพ ลา ภิรมย์ 
ห้องอาหารเพ ลา ภิรมย์ เปิดบริการอาหารในสไตล์ฟิวชั่น และอาหารพื้นบ้านแบบฉบับอีสานใต้
ชอบการตกแต่งของที่นี่นะคะ ทั้งด้านในที่ยังคงคอนเซปต์ของอุทยานดอกไม้ หรือจะไปนั่งชิลล์ๆ รับลมด้านนอกก็ดีงาม
อาหารเช้าของที่นี่มีหลากหลายมาก ทั้งสลัด พะแนง ผัดผัก  ซาลาเปา ขนมจีบ ไข่กระทะ โดยเฉพาะข้าวต้มชอบมากกกกตรงที่มีปลากรอบ หมูหยอง ให้เติมนี่แหละ

ส่วนมื้อกลางวันเชฟมาโชว์การทำอาหารให้เราเห็นสดๆ 
โห อลังการงานสร้างมากค่ะเชฟ ขนพริกมาทั้งไร่ หอมกระเทียมก็มาเป็นตะกร้าเลย
มาดูเมนูแรกกันก่อนค่ะ มองแวบแรกก็ข้าวหลามดีๆ นี่เอง แต่จริงๆ แล้วมีความพิเศษมากกว่านั้นเพราะเมนูนี้คือ ข้าวฮัง ข้าวพิเศษที่ทางบุรีรัมย์ปลูกกันเยอะเป็นการนำข้าวไปหุงแบบเช็ดน้ำ ทานกับอะไรก็อร่อย
ซิกเนเจอร์ของเพ ลา ภิรมย์ ก็คือ ไก่กระบอก เป็นการนำไก่บ้านไปคั่วใส่เครื่องเทศสูตรของทางร้าน แล้วนำไปหลามทั้งกระบอก รสชาติไทย จัดจ้าน หอมเครื่องเทศ อร่อยมากๆ ค่ะ
ปลาสองหน้าหรือปลาตอแหล เป็นการนำปลานิลไปทอด แล้วก็นำไปนึ่ง อร่อยทั้งสองแบบเลยค่ะ
หมี่โคราช ที่แตกต่างจากหมี่โคราชทั่วไปคือไม่ใส่หมูสามชั้นแต่ใส่เบคอนแทน น้ำซอสเข้มข้น รสชาติกลมกล่อม
หมูหนาว ซิกเนเจอร์ที่เสิร์ฟแบบเย็นเหมาะแก่การทานหน้าหนาว อีสานเหนือจะมีเยอะเมนูนี้มีกลิ่นอายของความเป็นเวียดนาม เป็นการนำสันคอหมู ผสมกับวุ้นไปหลาม ผ่าออกมาจะเป็นทรงสวยน่าทาน แนะนำให้ทานกับผักชีเข้ากันมาก
ซิกเนเจอร์ขนมแบบไทย คือขนมครกจากข้าวฮัง อร่อยมาก ทั้งหมดนี้เรากินคนเดียวแทบไม่เหลือให้เพือนเลยค่ะ

Workshop

ยังไม่หมดเท่านี้ยังมีกิจกรรมเวิร์กช้อปอีกหลายอย่างให้น้องๆ หรือผู้ที่อยากหาอาชีพเสริม ก็สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ เช่น การทำผ้ามัดย้อม การทำสวนขวด การทำพัด และอีกหลายอาชีพที่เพ ลา เพลิน





เพ ลา เพลิน สามารถไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีกับพรรณไม้ตามฤดูกาล โดยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามช่วงฤดูกาล เช่น ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ จัดแสดงราชินีไม้เมืองหนาว ดอกทิวลิป ซึ่งมีความพิเศษที่น่าสนใจคือ ในปีนี้ เพ ลา เพลิน จัดแสดงดอกไม้เมืองหนาวหลายสายพันธุ์เข้ามาไว้ด้วยกัน บนพื้นที่อีสานใต้ เช่น ทิวลิป ลิลลี่ ลาเวนเดอร์ บีโกเนีย ไซคาเมน ฮอลลิฮ็อก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าอุณหภูมิแบบเมืองไทย จะได้เห็นและโชว์ดอกไม้สวยๆ เช่นนี้ พร้อมกับไฮไลต์ทิวลิปสีเหลืองทอง

เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ เที่ยวได้ทุกวัน ไปกันได้ทั้งครอบครัว

ข้อมูลเพิ่มเติม
Website : www.playlaploen.com
Facebook : https://www.facebook.com/PlayLaPloen
โทรศัพท์ : 081 471 2760

teawbebgru

เราก็แค่ครอบครัวที่รักการเดินทาง ดีใจที่ได้พาลูกท่องโลกกว้างด้วยกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของเรานะคะ ^^ติดต่องาน E-mail : [email protected]

ใส่ความเห็น