ไปเรียนขี่ม้าที่เขาใหญ่กับ O.K.Corral แล้วไปนอนที่ Escape Khao-yai

ไปเรียนขี่ม้ากัน? ครอบครัวเรารีบตอบตกลงทันทีค่ะเมื่อแอร์เอเชีย จัดทริปชวนบล็อกเกอร์ไปขี่ม้าที่เขาใหญ่เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ทริปสั้นๆ แต่ความมันและความตื่นเต้นกับการขี่ม้าครั้งแรกระดับ 10 เลยล่ะ

ล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯ ช่วงสายๆ ไปถึงก็ทานมื้อเที่ยงก่อนเลยค่ะที่ ร้านเป็นลาว ฟังชื่อร้านต้องเป็นร้านอาหารอิตาเลียนแน่นอน เดี๋ยว! คุณแม่ไม่ใช่แล้วค่ะ ชื่อนี้มาพร้อมกลิ่นความแซบของปลาแดกแห่งอีสานมาเลยค่ะคุณขา คือร้านนี้ก็มีมานานแล้วแต่เดิมเป็นแค่ร้านริมทางเล็กๆ ขึ้นชื่อเรื่องไก่นาย่างสมุนไพร คนกินกันแน่นร้านจนกลายมาเป็นร้านใหญ่โตถึงทุกวันนี้เลยค่ะ

ด้านในร้านก็จะมีของน่ารักๆ วางขายด้วย

มุมเด็กชอบปล่อยให้นั่งเล่นตรงนี้ได้นานเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่ก็ทานข้าวได้อย่างสบายใจ

ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอร่อย ขอสั่งเป็น ตำข้าวโพด ก่อนเลยนะ

หม้อปิ่นโตคิดถึงสมัยเด็กน้อยชอบอะไรบ้านๆ แบบนี้มากเลยค่ะมันใช่ มันโดนใจคุณแม่มากๆ แกงเห็ดค่ะ แอบเค็มไปนิดนึง

เห็นแบบนี้หลายคนถามแล้วลูกกินอะไร?  
นี่เลยค่ะของโปรดเมลลี่ต้องมีไก่ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าร้านเป็นลาวขึ้นชื่อเรื่องไก่ย่างใช้ไก่บ้านนำมาปรุงรสและหมักด้วยพริกไทย รากผักชี และกระเทียม ก่อนไปย่างบนเตาถ่านไฟอ่อนๆ จนได้ไก่ย่างเนื้อนุ่ม  หอมกลิ่นสมุนไพร กรอบนอกนุ่มใน อ๊ากกกตอนนี้กำลังเขียนรีวิวนี้อย่างหิวเลยค่ะ

เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำอัญชันสีสวยรสชาติดี

แซบจนอิ่มแล้วอยากให้เผื่อท้องไว้สักนิดเพราะว่าไม่ต้องขับรถต่อไปไหนไกลเดินข้ามฝั่งจากร้านเป็นลาวเราก็จะเจอคาเฟต์สุดฮอต Birder’s lodge  

มุมต้องถ่ายรูปคือโซนนี้ที่มีไม้เลื้อยปกคลุมไปทั่ววันหยุดมีตลาดด้วยค่ะไปดูกัน

ด้านในก็จะเป็นผลิตผลจากคนในท้องถิ่นแนวออแกนิกส์ก็มีทั้ง ผัก ผลไม้ รวมทั้งองุ่นไร้เม็ดที่ขึ้นชื่อ

คุณแม่มัวแต่ถ่ายรูปหันไปอีกทีพ่อลูกหาย เข้ามาสิงในนี้นี่เองค่ะนี่คือขุมทรัพย์ของเล่นมือสองราคาถูกเริ่มต้นหลักสิบบาทเท่านั้นเอง 

เลือกกันอยู่นานเด็กหัวหยองได้รถโรงเรียนคันเก่ามาคันนึงค่ะ ถามว่าทำไมลูกถึงเลือกชิ้นนี้ เด็กน้อยตอบว่า “เมลลี่อยากนั่งรถโรงเรียน” 

เดินทะลุออกมาจากด้านหลังก็จะมีอีกหนึ่งโกดังที่เน้นของตกแต่ง

หาของอร่อยทานกันจนหนำใจทั้งของคาว ของหวาน กาแฟ จริงๆ คือทานกันรอเวลาค่ะเพราะว่าเราควรไปถึงฟาร์มม้าประมาณบ่าย 3 กำลังดีค่ะแดดไม่ร้อนจนเกินไป

O.K . Corral ที่นี่คือสถานที่เรียนขี่ม้าของเราในทริปนี้ค่ะ จากถนนธนะรัตช์ ให้เลี้ยวไปตอน ก.ม.14 จะมีป้ายบอกทางไม่หลงแน่นอนค่ะ

เข้าไปเราก็จะเจอกับลานโล่งๆ ให้ม้าได้มีพื้นที่วิ่งเล่นออกกำลังกาย

นั่งพักผ่อนมุมนี้ให้หายเหนื่อยจากการเดินทางสักครู่ พร้อมกับเดินดูพร็อบในการขี่ม้าของเราได้ มีทั้งเข็มขัด เสื้อ หมวก รองเท้า สไตล์คาวบอย

เมลลี่ไปสำรวจก่อนใครเลยค่ะ เดินวนไปมาและบอกว่า
“เมลลี่ใส่ไม่ได้” ฮาาาสำหรับราคาของการมาเรียนที่  O.K Corral มีหลายแบบให้เลือกค่ะ ได้แก่
Horseback riding lessons (เรียนขี่ม้า) ชั่วโมงละ 1,200  บาท
trail riding (การขี่ม้าออกไปในภูมิประเทศ) 2  ชั่วโมง 2,200 บาท
Leading rope Rides (จูงม้า)​ 20 นาที 400 บาท 
นอกจากนั้นก็ยังมีรับฝากม้า สำหรับคนที่อยากเลี้ยงม้าแต่ไม่มีเวลาหรือไม่มีพื้นที่จะเลี้ยง

เราไปดูม้าของจริงกันเลยดีกว่าค่ะทางนี้

คุณพิเชษฐ์เจ้าของฟาร์มกำลังเล่าเรื่องของประเภทของม้า การขี่ม้าแบบต่างๆ หากสงสัยหรืออยากรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามได้เลย

เมลลี่ก็สนุกกับการให้อาหารม้า

คนนี้น้องใบเฟิร์น หรือมายด์ จากละครกับดักเสน่หา แหม! รักสัตว์ด้วยเหรอยะหล่อน #อิน

ต่อไปคือการโชว์ขี่ม้าแบบต่างๆ ของนักขี่ม้าตัวเล็กลูกคุณพิเชษฐ์ค่ะ เก่งมากๆหลังจากดูน้องไผ่ขี่โชว์จนอยากจะขี่เองบ้างแล้ว อันดับแรกเราก็ต้องไปเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น หมวก รองเท้า 

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำม้ามาให้ เราต้องทำความคุ้นเคยกับม้าที่จะขี่ด้วยกันลูบต้นคอเบาๆ เป็นการทักทาย

เมื่อม้าดูจะคุ้นแล้วก็ขึ้นขี่ได้เลยหลังจากนั้นก็ปรับระดับเท้าให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ถ่ายรูปกันเป็นที่ระทึก เอ๊ยย! ระลึกกันพร้อมหน้า

แรกๆ ก็จะมีงงๆ หมุนไปมาอยู่บ้าง ถือว่าตอนนี้เราให้ม้าคุยกันไปก่อน ฮา
หลังจากนั้นก็ซ้อมค่ะคุณผู้อ่าน ก็มีทั้งฝึกให้ม้าหยุด ออกคำสั่งให้ม้าเดิน สั่งเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ซึ่งก็สนุกดีค่ะช่วยฝึกสมาธิด้วย
ซ้อมวนไปค่ะประมาณเกือบๆ ชั่วโมงจนเรามีความมั่นใจแล้วว่าเราทำได้ แต่ละคนก็ใช้เวลาไม่เท่ากันบางคนเรียนรู้เร็ว หรือมีพื้นฐานมาบ้างแล้วก็ใช้เวลาแป๊บเดียว
คุณแม่รู้สึกประหนึ่งตัวเองเป็นเจ้าหญิง ^^ 

มาค่ะซิส ซ้อมวนไปวนมาจนได้เวลาออกไปข้างนอกกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงกับ trail นะคะ เราต้องมีคนจูงให้และก็หัดบังคับม้าไปอีกสักรอบ
ความยากก็ตรงที่ม้าของเราจะแวะช้อปปิ้งหญ้าเรื่อยเปื่อยไปตามทาง เราก็ต้องบังคับให้เงยหน้าขึ้นมาและเดินต่อไปให้ได้
ผ่านไปหนึ่งรอบให้นั่งพักเหนื่อยสักครู่ถามสมาชิกว่าพร้อมจะไป trail กันใหม่ ก็นึกว่าจะมีคนถอดใจแถมคุณสามีก็ยังอยากไปด้วย แล้วใครดูเมลลี่? 
พ่อกับแม่ก็เพลิดเพลินกันมากจ้า การออก trail ก็คือการขี่ม้าไปชมภูมิประเทศข้างนอกซึ่งเราต้องเป็นคนบังคับม้าเองไม่มีใครมาจูงให้แล้วนะ 
เราต้องบังคับม้าให้อยู่ในแถวซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่นำหน้าและปิดท้าย เราต้องบังคับม้าให้เดินทิ้งระยะห่างจากตัวหน้าแบบพอดีไม่ชิดกันจนเกินไป หรือทิ้งระยะห่างจนเกินไปด้วย
การออก trail ครั้งแรกสำหรับเราตื่นเต้นนะคะ เรื่องการขี่ม้าอยู่ที่ใจล้วนๆ ม้ามันจะรู้ว่าคนไหนกลัว คนไหนไม่กลัวค่ะ ดังนั้นสติสำคัญ 
สำหรับระยะทางที่เราผ่านนั้นสวยงามท่ามกลางวิวเขาใหญ่ เสียดายไม่สามารถถ่ายรูปตอนกำลังขี่ได้สำหรับเราคือจินตนาการประหนึ่งพาม้าวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ลำพัง กำลังเคลิ้มๆ ฟิน
เจ้าโด้ ม้าที่เราขี่ก็ยื่นปล่อยของเสียออกมาเป็นก้อนๆ ฮาา  ปลุกเราตื่นจากภวังค์ทันที
วิวสวยเนอะเสียดายหากฟ้าเป็นใจเราจะได้แสงสีทองรำไรจากมุมนี้การเรียนขี่ม้าตั้งแต่ขั้นเบสิกจนสามารถไปออก trail ได้ตั้งแต่บ่ายยันเย็น ระยะทางที่เพลิดเพลินกันไป – กลับ เกือบ ๆ 5 กิโลเมตร สนุกมากค่ะ แม้ว่าตอนลงจากม้ารู้สึกเหน็บจะกินขา และก้นระบมๆ บ้างก็ตามเถอะ 
กลับถึงที่พักนอนสลบกันเลยค่ะ หลับดี๊ดีจริงๆ การขี่ม้านี่ก็เป็นกีฬาอีกอย่างหนึ่งที่ได้ประโยชน์มากเลยนะค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมาธิ การทรงตัวบนหลังม้าช่วยเรื่องบุคลิกภาพที่ดี โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีเด็กสมาธิสั้นหรือการพัฒนาการของกล้ามเนื้อช้า คุณแม่เคยอ่านเจอเรื่องของ อาชาบำบัด คือการขี่ม้าช่วยรักษาโรคได้อันนี้น่าสนใจทีเดียวค่ะ

กลับมาเรื่องที่พักกันต่อ ที่นี่คือ Escape Khao-yai ค่ะ โรงแรมท่ามกลางขุนเขาที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง
ห้องพักของเราเป็นแบบ Deluxe ไม่กว้างมากมายแต่ก็นอนได้กัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก
ห้องน้ำที่เด็กหัวหยองเป็นต้องรีบลงไปแช่อ่างทันที
พร้อมระเบียงชมวิวสวยๆ ทุกห้อง

ทริปสั้นๆ เขาใหญ่ตั้งใจไปเพื่อเรียนขี่ม้าโดยเฉพาะ
ใครอยากพาลูกๆ ไปเรียนที่นี่ก็เรียนได้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
ส่วนการจูงม้าก็ขี่ได้ตั้งแต่ 3 ขวบ ค่ะ

รายละเอียดเพิ่มเติม  : O.K Corral  

teawbebgru

เราก็แค่ครอบครัวที่รักการเดินทาง ดีใจที่ได้พาลูกท่องโลกกว้างด้วยกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของเรานะคะ ^^ติดต่องาน E-mail : [email protected]

ใส่ความเห็น