Penang – Ipoh 18 จุดเช็คอิน ทริปเดียวเที่ยวสองเมืองแบบปังๆ ปีนัง – อิโปห์

ปีนัง – อิโปห์  สองเมืองสุดฮอตในประเทศมาเลเซีย นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไปเที่ยวกันเยอะ เราจริงรวบรวมสถานที่เช็คอินมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านเป็นตัวเลือกในการไปท่องเที่ยวสองเมืองนี้กันค่ะ ซึ่งทริปนี้สั้นๆ แค่ 3 วัน 2 คืน ใช้เงินไม่เยอะด้วยค่ะ 
ก่อนไปเที่ยวเรามาดูข้อมูลพื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยว มาเลเซีย กันก่อนนะ
1.สกุลเงิน คือ ริงกิต (Ringgit) ตัวย่อ MYR อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 1 ริงกิต = 10 บาท (ตรวจสอบอีกครั้งก่อนการเดินทาง)
2.ภาษาราชการ คือ ภาษามาเลย์ (BahasaMalaSia) หรือมลายู
3.เวลาที่มาเลเซียเร็วกว่าไทยประมาณ 1 ชั่วโมง
4.ภูมิอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 20 องศาเซลเซียส
4.อินเตอร์เนตซื้อซิม ราคาประมาณ 200 บาท ได้ 8 – 9 G เร็วดี
5.ไฟฟ้าใช้แบบเดียวกับไทย

จริงๆ แล้ว ปีนัง และ อิโปห์ มีจุดเช็คอินเยอะมาก เราไปมาแล้ว 3 ครั้งก็ได้สถานที่ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น แต่บทความนี้ขอเขียนถึง 18 จุด เช็คอินที่ไปมาในทริปนี้เท่านั้นนะคะ ตามไปดูที่เที่ยว อิโปห์ – ปีนัง ยังคงมีที่เที่ยวปังๆ อีกเยอะเลย

1.Penang Hill
#Penang

Penang Hill หรือที่ชาวมาเลเซียเรียกว่า Bukit Bendera ถือเป็นสถานที่ที่ทุกคนจะต้องมาเยือนเมื่อมาเที่ยวปีนัง ถึงขนาดมีคนบอกไว้ว่าถ้าไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงปีนัง Penang Hill อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตร สามารถชมเมืองจอร์จทาวน์ได้อย่างสุดสายตา การขึ้นมาด้านบนก็ขึ้นด้วยรถรางไฟฟ้า ซึ่งเป็นรถรางสายแรกในเอเชีย สร้างโดยบริษัทรถรางสัญชาติสวิส โดยเคเบิลที่ใช้ลากรถเลื่อนขึ้น-ลงนั้นใช้งานมาตั้งแต่ปี 1923 และด้วยการดูแลระบบเป็นอย่างดี รถรางไฟฟ้าก็ใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้เห็นทิวทัศน์ต้นไม้นานาชนิด เพลินดีเหมือนกัน ด้านบนของPenang Hill มีสถานที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น พิพิธภัณฑ์นกฮูก ร้านอาหาร สนามเด็กเล่น สวนนก สวนดอกไม้ ลานกุญแจคล้อง

อัตราค่าบริการ : ราคาค่ารถรางไฟฟ้าไป-กลับอยู่ที่ 30 ริงกิต หรือประมาณ 300 บาทไทย
เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่เวลา 
06.30 น. – 23.00 น.

 

2.The Habitat
#Penang

The Habitat แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติน้องใหม่ที่เราอยากไฮไลต์ให้แรงๆ ที่นี่เป็นสวนรุกขชาติที่มีทางเดินให้ชมธรรมชาติยาว 5 กิโลเมตร ระหว่างทางเราได้เรียนรู้พืชพรรณและสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ผ่านไกด์ที่แบ่งปันข้อมูลได้อย่างเป็นกันเอง ของเด็ดอยู่ที่ Canopy Walk และ Tree Top Walk สะพานสูงเหนือยอดไม้ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความโปร่งสบายของบรรยากาศธรรมชาติจากมุมสูง และอีกหนึ่งบทบาทของ The Habitat ที่นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นห้องปฏิบัติการเชิงนิเวศน์ที่ทำงานวิจัยในการดูแลธรรมชาติอย่างยั่งยืน ผลงานวิจัยทุกชิ้นจะกลับมาช่วยต่อยอดพัฒนาพื้นที่สีเขียวต่อๆ ไป

ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 50 RM เด็ก 30 RM


3.Lexsis Suite Penang
#Penang

Lexis Suites Penang อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติปีนังเพียง 10 นาที จุดขายของที่นี่คือเป็นที่พักที่เหมาะกับการเที่ยวทั้งครอบครัวมาก นอกจากเตียงนอนกว้างขวางนุ่มสบาย ทุกห้องยังมีสระน้ำของตัวเองอยู่ที่ระเบียงที่สามารถมองออกไปเห็นทะเลสุดลูกหูลูกตา พร้อมมีห้อง steam-saunaส่วนตัวอีกด้วย มีห้องน้ำและ walk-in closet กว้างขวาง มินิบาร์ ตู้เซฟ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมาย ทั้งห้องอาหาร Roselle Coffee House, Sky Lite Bar, Sky Terrace ที่สามารถจัดงานริมสระน้ำได้หลายรูปแบบ, Kid’s Corner, Lex Spa และ OGym เรียกได้ว่าทันทีที่เข้ามาในโรงแรม คุณจะลืมโลกภายนอกไปเลย

ตรวจสอบราคาและจองห้องพักได้ที่ https://www.lexissuitespenang.com

4.Penang Street Art
#Penang

เมื่อพูดถึงปีนัง ก็ต้องมีคนนึกถึง Street Art ที่ George Town แน่นอน เพราะที่นั่นรวมภาพศิลปะเก๋ๆ ไว้ให้ผู้คนได้ตามหากันทั้งวัน ซึ่งอาจจะถึงขั้นจัดทริปให้ Street Art กัน วันเต็มๆ เลยก็ได้George Town เมืองหลวงของปีนังได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองมรดกโลกจาก Unesco เมื่อปี 2008 เป็นเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมงดงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ แฝงไปด้วยความอบอุ่นของวัฒนธรรมและการดำรงอยู่ของคนในท้องถิ่น ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปสัมผัสด้วยตนเอง แต่อีกอย่างที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่แพ้กันก็คือ street art ที่ซ่อนอยู่ตามผนังบ้านเรือนและมุมต่างๆ ของเมือง มาถึงจุดนี้ เราอยากชวนให้ทุกคนลองไปตามล่าหา street art กันสักครั้ง แล้วจะตกหลุมรักการเล่นเกมซ่อนแอบกันในเมืองเล็กๆ แห่งนี้แน่นอน … ไม่เชื่อก็ลองดู!

 

5.Kebaya Dining + Seven Terraces
#Penang

หากพูดถึงอาหาร เปอรานากัน” (Peranakan) หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่าคืออะไร ถ้าให้อธิบายง่ายๆ คืออาหารลูกครึ่งจีน-มาลายู ซึ่งต้นกำเนิดของชาวเปอรานากันดั้งเดิมอยุ่ที่มะละกา เชื่อกันว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นพ่อค้าชาวจีนที่แต่งงานกับหญิงชาวมาลายูในท้องถิ่น ส่วนชาวเปอรานากันในปีนังก็มาจากการแต่งงานข้ามเชื้อชาติระหว่างหนุ่มชาวจีนฮกเกี้ยนกับสาวมลายูที่แพร่หลายมากขึ้น ทำให้เกิดการผสมผสานจนกลายเป็นวัฒนธรรมในการใช้ชีวิตร่วมกันรวมถึงการทำอาหาร ความโดดเด่นที่บ่งบอกถึงความเป็นเปอรานากันอย่างชัดเจนคือ การปรุงด้วยเครื่องเทศ ซึ่งตามประวัติศาสตร์ ปีนังเป็นแหล่งซื้อขายเครื่องเทศมานานเป็นร้อยๆ ปี ร้านอาหารสไตล์เปอรานากันที่ขึ้นชื่อที่สุดในปีนัง คือ Kebaya Dining ตั้งอยู่ในโรงแรม Seven Terraces Boutique Hotel ที่ปรับโครงสร้างมาจากบ้านตึกโบราณสไตล์ Anglo-Chinese และตกแต่งด้วยของแอนทีคมากมาย ทำให้แขกที่เยี่ยมชมสามารถจินตนาการถึงวิถีชีวิตชาวเปอรานากันได้อย่างดี ตามประวัติแล้ว ผืนดินแห่งนี้เคยเป็นสมบัติของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เจ้าเมืองตรังผู้ได้รับพระราชทานนามสกุล ณ ระนอง ต่อมาลูกหลานได้ขายทอดที่ดินผืนนี้จนตกมาเป็นของนักลงทุนชาวจีนมาเลที่พัฒนาจนกลายมาเป็นโรงแรมและร้านอาหารที่ขอบอกว่า ถ้าใครไม่มาลองเห็นเองกับตา สัมผัสกับใจ และหลงใหลไปกับรสชาติที่นี่

ถือว่าพลาดมากจริงๆ … ขอย้ำ!!

ชอบมากสุดก็มุมนี้ The Revolution of Giraffes มองด้านหน้าและด้านข้างจะไม่เหมือนกัน ไอเดียดีมาก

สำหรับอาหารเราทานกันหลายอย่างที่ชอบที่สุดคือ 5 เมนูนี้ หมูกรอบนี่อร่อยจนลืมเพื่อนข้างๆ ไปเลยเคี้ยวไม่หยุด

บัวลอย ทำเราเพ้อไปหลายวันยกให้เป็นบัวลอยที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา มีความน้ำกะทิเข้มข้นมากกก และเสิร์ฟมาเป็นหม้อดินเล็กๆ แบบนี้

website : http://kebaya.com.my/ 

 

6.Avatar Secret Garden
#Penang

 

สวนลับแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่วัด Thai Pak Koong ที่นี่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในปีนัง หลายคนเปรียบให้เป็นสวรรค์บนดินที่จำลองโลก Pandora จากภาพยนตร์เรื่อง Avatar เอาไว้ให้ชาวปีนังและนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสความงามของแสงสีแพรวพราวในป่า ที่นี่จะมีชีวิตชีวาในเวลากลางคืน ไฟหลากสีจำนวนมากถูกแต่งระโยงระยางจากบนต้นไม้เพื่อสร้างมุมมองแปลกตาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะที่เดินไปรอบๆ สีสันแสงไฟสลับกันเปล่งแสงให้จินตนาการเหมือนฝัน อีกด้านของสวนนี้สามารถมองออกไปเห็นเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยดอกทิวลิปประดับไฟ LED หลากสี Avatar Secret Garden กลายเป็นสถานที่เดินเล่นหย่อนใจของชาวปีนังที่มาได้ทั้งครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ที่นี่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสถานที่ต้องห้ามพลาดอีกที่หนึ่งในปีนัง … แล้วคุณล่ะ จะยอมพลาดเหรอ?!ค่าบริการ : ฟรี


7.Lebuh Keng Kwee Street Food
#Penang

สำหรับนักชิมสาย street food นอกจากย่าน Gurney Drive ยอดนิยมของชาวเมือง  เราขอแนะนำให้ทุกคนมาที่ถนน Lebuh Keng Kwee ที่นี่ทุกคนจะเจอร้านละลานตาไปอีกแบบ  คงต้องบอกว่ามาไม่ถึงจริงๆ ไฮไลต์อยู่ที่ร้านลอดช่องเจ้าเก่าของปีนังเปิดขายมาแล้วกว่า 70 ปี เข้าซอยไปเพียงไม่กี่ก้าวจะสังเกตเห็นคนต่อแถวยาวเฟื้อย เมื่อเดินไล่ไปจนถึงต้นแถวจะเจอเพียงรถเข็นคันเล็กๆ ที่มีคุณลุงคอยตักลอดช่องด้วยสปีดเร็วทะลุมิติ พร้อมทีมงานคอยช่วยหยิบจับอีก 2-3 คน ลอดช่องที่นี่มีความหอมนวลที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อลอดช่องนิ่มๆ สีเขียว ซดกับน้ำลอดช่องที่ไม่หวานจัดแต่มีกลิ่นน้ำตาลอ้อยหอมอ่อนๆ บวกกับถั่วแดงเนื้อนุ่มเป็นตัวชูโรง ทำให้ใครที่ได้ชิมก็ต้องติดใจ ยอมต่อแถวยาวและยืนทานกันหน้าร้านเลยทีเดียว ซึ่งดูไปดูมาก็กลายเป็นสเน่ห์ของร้านนี้ไปแล้ว ใครมาจอร์จทาวน์แล้วไม่ได้ลองลอดช่องร้านนี้

จากร้านลอดช่องถัดมาไม่กี่ก้าว จะเจอร้าน Penang Road Famous Teochew Chendul ขายก๋วยเตี๋ยวผัดหรือที่มาเลเซียเรียกว่า Cha Kway Teaw จากที่สังเกตความเก๋าของร้านคงไม่ทิ้งช่วงจากร้านลอดช่องมากนัก น่าจะอยู่มาหลายสิบปีเช่นกัน ข้างในมีที่นั่งเป็นโต๊ะๆ ของเด็ดที่นี่มีหลายอย่างนอกจากก๋วยเตี๋ยวผัดแล้วยังมี Asam Laksa ก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปแซ่บแบบมาเล และ Fried Oysterหรือหอยนางรมทอดและอีกมากมาย รสชาติอาหารที่นี่ไม่ต้องโม้มาก พิสูจน์ได้จากที่เห็นคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเวียนกันเข้าร้านอยู่ตลอด เมื่ออิ่มของคาวแล้วใครอยากตบของหวานอีกรอบ ฝั่งตรงข้ามจะมีร้านไอศกรีมทุเรียนเนื้อเนียนเข้มข้นไว้ให้เลือกปิดท้ายกันด้วย งานนี้ขอย้ำอีกรอบ ใครอยากได้รสชาติปีนังของจริง ควรมาลองเดินเล่นที่ถนน Lebuh Keng Kwee นี้กัน

 

8.Art of Old Town
#Ipoh

อิโปห์ เมืองเล็กๆ ของขาฮิปสเตอร์ที่ต้องไปเช็คอินห่างจากปีนังประมาณ สักครั้งที่นี่แตกต่างจากปีนังตรงที่เงียบสงบกว่า นักท่องเที่ยวไม่เยอะ ภาพวาดบนกำแพงของอิโปห์บางรูปจะอยู่บนตึกสูงต้องแหงนหน้าหาดีๆ ซึ่งจะแสดงถึงวัฒนธรรม สังคม ของเมืองนี้

Old Uncle with White Coffee รูปชื่อดังจุดกำเนิดมาจากร้าน Old Town White Coffee 

การเดินทาง
ปีนัง – อิโปห์ โดย Butterworth Penang สามารถนั่งรถไฟ ETS โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง15 นาที ราคาแบบ Silver Service : 23 ริงกิต  (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง)

 

9.สถานีรถไฟ + ศาลว่าการเมืองอิโปห์
#Ipoh

สถานีรถไฟเมืองอิโปห์ สถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่สวยงามมาก

ตรงข้ามสถานีรถไฟจะมี ศาลว่าการเมืองอิโปห์ Dewan Bandaran Ipoh สร้างเสร็จในปี  1916 ออกแบบโดยสถาปนิกท่านเดียวกับออกแบบสถานีรถไฟในอดีตคือถูกใช้เป็นที่ตั้งของไปรษณีย์กลางและถูกเปลี่ยนมาเป็นสถานีตำรวจ ก่อนจะ Town Hall ปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาเป็นสถานที่จัดงานคอนเสิร์ต งานราชการ งานแต่งงาน หรืองานสำคัญต่างๆ

 

10.Birth Memorial Clock Tower หอนาฬิกา อิโปห์
#Ipoh

หอนาฬิกาประจำเมืองอิโปห์ อยู่ตรงข้ามกับมัสยิดประจำเมือง สร้างขึ้นในปี 1909 เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ J.W.W. Birch ประชากรชาวอังกฤษคนแรกของรัฐเปรัค มีทั้งหมด 4 ด้าน ประดับด้วยภาพวาดและรูปปั้นต่างๆ และที่ด้านบนสุดของหอฬิกายังมีระฆังขนาดใหญ่อยู่ด้วย

หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีรูปใครคนหนึ่งหายไป เพื่อนๆ ต้องไปหาคำตอบเอาเองนะ

 

11.Old Town White Coffee
#Ipoh

Old Town White Coffee ร้านกาแฟชื่อดังที่ตอนนี้กลายเป็นแบรนด์กาแฟดังในเมืองอิโปห์ ซึ่งดังมากจนจ้าง Ernest ให้มาวาดงานศิลปะเป็นรูปคุณลุงดื่มกาแฟ แม้ว่ามันจะไม่ได้มีอะไรบอกชัดว่า คุณลุงกำลังดื่มกาแฟรูปที่ใครไปต้องถ่ายคู่กับลุงนั่นแหละค่ะ
เป็นร้านที่มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกเยอะมาก  

12. Konda Kondi Ipoh
#Ipoh

เป็นคาเฟ่ที่เดินผ่านโดยบังเอิญ (ย่านเดียวกับตลาดกลางคืน)​ และต้องหยุด พร้อมกับตัดสินใจเข้าไปในร้าน อย่างแรกคือตกใจทำไมคนเยอะมากทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ 3 ทุ่มกว่าๆ แล้ว มีทั้งวัยรุ่น ครอบครัวลูกเล็กยังเต็มไปหมด 

คึกคักสุด บรรยากาศต้องไปโดนเราใช้เวลาเกือบชั่วโมงค่ะกว่าจะได้เครื่องดื่มที่สั่ง แต่รสชาติโอเคเลยนะ แอบจำราคาไม่ได้ว่าแก้วกี่ริงกิต

ที่อยู่ : 183, Jalan Sultan Idris Shah, Taman Jubilee, 30000 Ipoh, Negeri Perak
เปิดบริการ : 18.00 – 24.00  น.

 

13.Chokodok  Reggae House Cafe & Backpackers
#Ipoh

ฮิปสุด เรกเก้ก็มี เป็นร้านที่ต้องใช้คำว่า โคตรชอบที่สุดในอิโปห์ บาร์เรกเก้ที่ไม่มีแอลกอฮอล์แต่มีบารากุให้ดูด พีคไปอี๊กกกก 

ทุกคนสามารถสั่งน้ำผลไม้สดใส่ถังเล็กๆ อารมณ์ถังไว้ปะแป้งสาววันสงกรานต์นั่นแหละ ดื่มน้ำผลไม้ใสๆ แต่ก็ดูดบารากุไปฟังเพลงไป ซึ่งเพลงดีมากกก เคลิ้มมากก และบอกเลยว่าไปนั่งแล้วจะไม่อยากลุก ราคาบารากุก็ถูกไปอี๊กกเลือกรสชาติได้ตามชอบหลากหลายมาก เตาละ 120 บาท

อ้อ..ที่นี่ยังมีห้องพักด้วยนะสายแบคแพคต้องไป

ที่อยู่ :175, Jalan Sultan Iskandar, Taman Jubilee, 30000 Ipoh, Negeri Perak, มาเลเซีย

14.ตลาดกลางคืนอิโปห์
#Ipoh

ตลาดกลางคืนอิโปห์จะอยู่ย่านเดียวกันกับบาร์เรกเก้ สินค้าก็ทั่วๆไป เราไม่ได้เดินดูมากเพราะฝนลงเม็ด แต่ว่าของกินเยอะดีนะ 

 

15.Kellie’s Castle
#Ipoh

ปราสาทเคลลี่ สร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักในต่างแดนของวิลเลี่ยม  เคลลี่ สมิธ เจ้าของไร่ชาวสก็อตแลนด์ทำให้บ้านหลังนี้มีกลิ่นอายของสก็อตแลนด์  

ปราสาทหลังนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งเป็นสวนยางมาก่อน การก่อสร้างหยุดชะงักลงเมื่อเคลลี่เสียชีวิตอย่างกระทันหันในปี ค.ศ.1926 จึงกลายเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว เหมือนอยู่ในความฝันท่ามกลางพืชพันธุ์ไม้ป่าของรัฐเปรัคซึ่งให้ความรู้สึกถึงความลึกลับและมีเอกลักษณ์โดดเด่น ซึ่งนอกจากความลึกลับแล้วยังเชื่อกันว่ามีห้องลับและอุโมงค์ใต้ดินซ่อนในปราสาทอีกด้วย

 

16.Perak Cave Temple
#Ipoh

Perak Cave Temple หรือวัดถ้ำ เป็นวัดตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาเด่นตระหง่าน ภายในวัดมีถ้ำที่สวยงามมาก

ที่อยู่ : Jalan Kuala Kangsar, Kawasan Perindustrian Tasek, 31400 Ipoh, Negeri Perak, มาเลเซีย


17. Masjid Ubudiah มัสยิดอูบูดียะห์

ตั้งอยู่ในเมืองกัวลาคังซาร์ เป็นทางผ่านระหว่างกลับจากอิโปห์เพื่อไปยังปีนัง สร้างขึ้นเมื่อช่วงเปลี่ยนของศตวรรษและมีชื่อเสียงในฐานะเป็นมัสยิดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ สง่างามด้วยสถาปัตยกรรมอิสลาม ด้วยยอดโดมสีทองตระหง่าน และหออะซานที่มีลักษณะเฉพาะ การก่อสร้างมัสยิดแห่งนี้เริ่มขึ้นสมัยสุลต่าน มูร์ ชีดุล อัดซัม ซาห์ที่ 1 ซึ่งเป็นสุลต่านองค์ที่ 28 ของรัฐเปรัค

 

18.Leaning Tower of Teluk Intan 
#Ipoh

หอเอนเมืองอิโปห์ สร้างในปี 1885 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหอเอนเมืองปิซ่า นั่นเองค่ะ 

จริงๆ แล้วยังมีสถานที่ให้ไปเช็คอินกันอีกเยอะทั้งในปีนัง และอิโปห์ ที่รอให้เพื่อนๆ ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ใครไปมาแล้วอยากอวดรูป อยากเม้ามอย หรืออยากเล่าไปที่เพจเราได้เลยนะคะ

teawbebgru

เราก็แค่ครอบครัวที่รักการเดินทาง ดีใจที่ได้พาลูกท่องโลกกว้างด้วยกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของเรานะคะ ^^ติดต่องาน E-mail : [email protected]

ใส่ความเห็น