ภูลมโล | ภูป่าเปาะ | ลัดเลาะไปเรื่อย

ทริปเดียวเที่ยว 2 ภู เที่ยวแบบกรูจะพาไปเที่ยวเลย ไปชมซากุระเมืองไทยที่พร้อมใจบานทั้งหุบเขา และไปต่อที่ฟูจิเมืองเลย ทริปสั้นๆ ใช้เงินพันต้นๆ 
ต้นปีแบบนี้ก็ได้เวลาที่พญาเสือโคร่งพร้อมใจกันบานทั้งแผ่นดิน ถูกต้องแล้วค่ะแม่ไข่ไม่ได้พูดอะไรเวอร์เลยสักนิด ไม่ว่าจะเป็นขุนวาง ขุนช่างเคี่ยน  ดอยอ่างขาง ก็ง้ามงาม สำหรับปีนี้ครอบครัวของเราตั้งใจไปภูลมโลค่ะ ได้แต่ส่องเพจภูลมโลทุกวันจนกระทั่งรู้ข่าวว่าบานได้ 80% แล้ว เราก็ล้อหมุนออกเดินทาง 5 ทุ่มๆ ของคืนวันเสาร์ เพื่อที่ว่าจะไปถึงเช้าพอดีแล้วขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น 

ภูลมโล 

ภูลมโล ตั้งอยู่ในตำบลกกสะทอน  อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ภูลมโลเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย สิ่งที่ทำให้ภูลมโลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในเวลานี้ คือ เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่มีพื้นที่กว้างขวางนับ 1000 ไร่  กระจายไปทั่วหุบเขา

การเดินทาง

ฝั่งบ้านร่องกล้า

– จากพิษณุโลก ใช้เส้นทางหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่สามแยกบ้านแยง เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2013 ไปอำเภอนครไทย ก่อนถึง อ.นครไทย ให้เลี้ยวขวาไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ระยะทางจนถึงที่ทำการอุทยานฯ 125 กิโลเมตร จากนั้นเดินทางต่อไปยังบ้านร่องกล้าที่อยู่ภายใน อุทยานฯ อีก 9 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 134 กิโลเมตร

– จากเพชรบูรณ์ ใช้เส้นทางหมายเลข 21 มุ่งหน้าอ.หล่มสัก จากนั้นเบี่ยงซ้ายเข้าถนนเลี่ยงเมืองก่อนถึงสี่แยกหล่มสักจะ เข้าสู่ทางหลวง หมายเลข 12 จากนั้นจะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าสู่หมายเลข 2372 ขับตรงไปจนเจอทางแยกซ้ายมือขึ้นภูทับเบิกเป็นทางหลวง 2331 เป็นทางลาดชันและทางโค้งหักศอก ราว 18 กิโลเมตร จนถึงด่านเก็บเงินค่าเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากนั้นเดินทางต่อไป ยังบ้านร่องกล้า ที่อยู่ภายในอุทยานฯ อีก 21 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 96 กิโลเมตร

ฝั่งกกสะทอน

–  จากจังหวัดเลยผ่านอำเภอภูเรือเข้าสู่ตำบลโคกนาม ไม่ต้องเข้าอำเภอด่านซ้ายเพราะจะอ้อมให้ใช้ถนนเส้นหล่มเก่า หล่มสัก ตรงอย่าง เดียวผ่านบ้านถึงโป่งชี  และบ้านน้ำพุง เมื่อถึงบ้านน้ำพุงมีทางแยกขวาเขียนว่าวัดป่าพุทธประทับ เลี้ยวขวาตรงไปมีป้าย บอกทางขึ้นไป ภูลมโล สำหรับใครที่ใช้บริการรถนำเที่ยว ของชมรมกกสะทอน ที่ทำการจะอยู่ก่อนถึงทางขึ้นภูลมโลมีป้ายบอก จากที่ทำการไปจนถึง จุดกางเต้นท์ภูลมโลใช้เวลาขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมง (ขอบคุณเส้นทางจาก ไปด้วยกัน)

ขับไปเรื่อยๆ เปิด GPS อย่างเดียวเราก็มาถึงบ้านร่องกล้าเวลา ตี 5 มาถึงลานจอดรถของหมู่บ้านก็ยังมืดก็เลยเผลอหลับค่ะตื่นมาอีกทีเกือบ 6 โมงเช้า รีบคว้าเสื้อกันหนาว แล้วไปติดต่อรถขึ้นภูลมโลทันที ต้องใช้รถของหมู่ชาวบ้านเท่านั้นไม่อนุญาตให้ใช้รถส่วนตัวขึ้นไปทั้งสิ้น ราคาเหมา 1,000 บาท แต่ในเพจบอกว่า 1,500 บาท ไม่เกิน 10 คน ราคานี้รวมไปกลับแล้ว สามารถหาเพื่อนหารหน้างานได้ ซึ่งรถเราหาเพื่อนได้ 7 คน คือถ้ารอก็ได้ถึง 10 นะ ตกคนละ 140 บาทบริเวณนี้คือจุดจอดรถไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ซึ่งก็ขึ้นรถกระบะตรงนี้เช่นกันแนะนำให้เตรียมอาหารรองท้องไปด้วยก็ดีค่ะ  หลังจากนั้นก็ขึ้นไปทางนี้เลย

ทางก็จะประมาณนี้ฝุ่นตลบดีเหมือนกัน โชคดีที่ช่วงที่ไปอากาศหนาวมากๆ ทำให้อากาศชื้นลดความฝุ่นลงไปได้เยอะ

เซอร์ไพรส์มากระหว่างทางขึ้นมีบ้านพักและจุดกางเต็นท์ด้วย รูปนี้ถ่ายขณะรถวิ่งมาให้ สอบถามแล้วชื่อว่า ฮ่องก๋า ฮิลล์ โฮมสเตย์ ที่พักและจุดกางเต็นท์บนภูลมโลค่ะ เบอร์ติดต่อ 086 2002842 , 089 9595808 ตรงรถจอดคือจุดกางเต็นท์ (ถ่ายตอนขาลงแล้วเต็นท์เก็บหมด)

จริงๆ คือตั้งใจจะขึ้นไปให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น แต่ขณะอยู่บนรถก็โผล่มาแล้วพอไปถึงจุดจอดรถก็เลยได้แค่แสงงามๆ แบบนี้

ใช้เวลาขึ้นจากด้านล่างมาถึงบนนี้ประมาณ 20-30 นาที แล้วแต่คนขับซิ่งมากน้อย ฮ่า

จุดแรกของการมาเที่ยวคือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น

หันมาอีกฝั่งคือจะได้เห็นหุบเขาสีชมพูแบบไม่ต้องบินโดรนเลย

เมื่อมองจากภาพมุมสูงตื่นเต้นเลยค่ะเพราะว่าสวยงามมาก

หลังจากนั้นก็ลงจากเขามายังจุดแรก แยกย้ายกันถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ตามสะดวก

ฝั่งนี้แดดยังไม่ส่องเลยอาจจะดูมืดๆ หน่อย

นั่งบนก้อนหินก้อนนี้ก็งาม

ให้มันเป็นสีชมพู ฮู้ เพลงพี่ตูนก็มา

จำได้ว่าเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน เรากับเพื่อนได้ข่าวว่าเลยเปิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ชื่อว่า ภูลมโล โดยปลูกพญาเสือโคร่ง หรือซากุระ ทั้งหุบเขา ตอนนั้นเรากับเพื่อนยังขับรถขึ้นไปดูเลยค่ะ ฝุ่นตลบอบอวลและเต็มไปด้วยขี้วัว ไม่คิดว่าหลังจากนั้นจะสวยงามขนาดนี้

เดินไปถ่ายรูปก็ระวังขี้วัวด้วยนะ

จากจุดที่สองรถก็พาเราไปยังจุดต่อไป ตรงนี้มีป้ายให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ

มีห้องน้ำด้วย

ตรงนี้สวยมากกกก เสียดายที่ลูกหนาวจนสั่นเราก็ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้เลยต้องรีบลงไปถ่ายแล้วรีบกลับมาที่รถ

เราใช้เวลาอยู่บนภูลมโลเกือบๆ 4 ชั่วโมง  คือลงมาก็ 10 โมงกว่าแล้ว หิวข้าวสุดๆ ขนาดดูเหมือนว่าอยู่นานแต่รู้สึกว่าได้รูปน้อยมากๆ ยังไม่สะใจเลย บริเวณจุดจอดรถมีของกินขายเช่น ไก่ทอด ไก่ย่าง ข้าวเหนียว

ภูป่าเปาะ

จริงๆ ทริปนี้ถ้าจะให้เดินทางสะดวกไม่ไกลมาก แนะนำเที่ยว ภูลมโล แล้วลงไปภูทับเบิก หรือเขาค้อจะใกล้กว่า แต่ว่าครอบครัวของเราไม่ค่อยได้ไปเมืองเลย และภูป่าเปาะนี่แหละที่ตั้งใจว่าทริปนี้จะไปให้ได้แม้ว่าจะขับรถไกลเกือบ 3 ชั่วโมงจากภูลมโลก็ตาม (ทางขึ้นเขาตลอดทำเวลาได้ไม่มาก) แต่ถนนดีมากค่ะเรามาถึงที่พัก Smile Box ประมาณ บ่ายสองกว่าๆ ที่นี่อยู่ในตัวอำเภอหนองหิน ห่างจากทางขึ้นภูป่าเปาะประมาณ 20 กิโลเมตร จริงๆ ว่าจะพักในหมู่บ้านมีโฮมสเตย์คนละ 350 บาท รวมอาหารเช้า เย็น แต่พอเปิดมาเจอที่นี่เลยทำให้เปลี่ยนใจ

ที่พักสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์ คืนละ 550 บาท พักได้ 2 คน ตกคนละ 275 บาท จะถูกไปไหน 

ดูห้องสิคะใหญ่โต สะอาด

ราคานี้ยังได้โซฟา โต๊ะทำงาน ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น แถมเตียงยังนุ่มอีก อะไรจะดีป่านนั้น

เห็นห้องสวยหมดแรงเลยค่ะ หลับสนิทตื่นมาอีกทีก็ 5 โมงเย็น

ใช้เวลาขับรถไปยังจุดขึ้นภูป่าเปาะประมาณ 15 -20 นาที จอดรถไว้ตรงนี้แล้วซื้อตั๋วไปรอขึ้นรถอีแต๊กได้เลย คนละ 60 บาท

ลุงคนขับก็บอกว่าอาจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกนะ รู้สึกพลาดอีกแล้วเมื่อเช้าก็พลาดไปหนนึง เย็นยังจะพลาดอีกเหรอ ไข่เอ๊ย! 

ยังดีที่ไปทันแม้จะเห็นไม่เต็มดวงก็ตาม 

ภูป่าเปาะ สูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร มีจุดชมวิว 4 จุด จุด 1-3 รถอีแต๊กไปถึง แต่จุดที่ 4 ต้องเดินเท้าระยะทางประมาณ 250 เมตร ทางดีเดินง่ายเมลลี่ยังเดินได้เลยค่ะ ข้างบนจะสามารถชมวิว 360 องศา เมื่อมองไปยังภูเขารูปทรงคล้ายฟูจินั้นมีชื่อเรียกว่า “ภูหอ” นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็น อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อำเภอภูผาม่านจังหวัดขอนแก่น อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ วนอุทยานแห่งชาติ นายูง-น้ำโสม อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี และ ถ้ำเอราวัณ อำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู ขึ้นภูเดียวเห็น 4 จังหวัด

จุดนี้เป็นจุดที่ 1 ค่ะ ภูเขาคล้ายฟูจินั้นชื่อว่า “ภูหอ”

ยังพอมีเวลาขึ้นไปยังจุดที่สองกันต่อ

จุดชมวิวที่ 2

จุดชมวิวที่สองมีชิงช้าให้นั่งด้วย

หลังจากนั้นความมืดก็ปกคลุมเราไม่สามารถขึ้นไปยังจุดที่สาม และ สี่ได้ทัน เลยต้องกลับที่พักไปหาร้านหมูกะทะนั่งปิ้งย่างให้เข้ากับบรรยากาศหนาวๆ 

เช้าวันใหม่….

ล้อหมุนจากที่พักตี 5 เช้านี้เราจะไม่พลาด จากจุดที่สามเราต้องเดินขึ้นไปยังจุดที่สี่ ระยะทางประมาณ 250 เมตร เดินง่ายค่ะเมลลี่เดินได้สบายๆ 
ไปถึงภาพที่เห็นก็จะประมาณนี้มีความคล้ายภูลังกา จังหวัดพะเยา

ข้อดีของภูป่าเปาะคือเราสามารถชมพระอาทิตย์ตกและขึ้นในที่เดียวกันโผล่มาให้เห็นแค่นี้

เราไปวันธรรมดานักท่องเที่ยวไม่เยอะเท่าไร

สรุปทั้งเช้าและเย็นก็ไม่เห็นหมอกเลย

ตอนเดินขึ้นยังมืดถ่ายไม่ได้ ขาลงเลยเก็บภาพมาฝากกันค่ะ

ก็จะมีทั้งทางราบ

และขั้นบันไดแบบนี้

ขาลงเด็กน้อยแทบจะสไลด์ลงเลยค่ะ

จุดชมวิวที่ 3

จุดนี้ก็สวยเหมือนกันนะ

จุดจอดรถอีแต๊ก เราว่ารถอีแต๊กที่นี่ไฮโซนั่งสบายมากไม่เจ็บก้น ฮ่า

ขาลงวิวสวยดีค่ะ


ใครอยากตามรอยทริปสั้นๆ แบบเราค่าใช้จ่ายดังนี
ค่าน้ำมัน  2080 บาท (เราใช้รถอีโคคาร์)
ค่าที่พัก  1100 บาท 2 ห้อง
ค่าขึ้นภูลมโล 140 บาทต่อคน (ราคาแล้วแต่มีคนหารกี่คนนะ)
ค่าขึ้นภูป่าเปาะ 2 รอบ คนละ 120 บาท
ทริปนี้คนละ ประมาณ 1,300 บาท (รวมค่าหมูกระทะ ขายเป็นชุด 1 แถม  1 อย่างฟิน) 

 
ติดต่อ ภูลมโล  : 062 557 0913
ภูป่าเปาะ : ไม่มีเบอร์ไปได้เลย
ที่พัก Smile Box : 062 8596941
หรือใครจะพักแถวภูลมโลก็มีที่พักเยอะนะ แนวโฮมสเตย์ก็มี จะให้ฟินขึ้นไปนอนด้านบนเลย ใครมีคำถามเพิ่มเติมไปถามในเพจนะจ๊ะ

เมืองไทยยังมีที่สวยๆ อีกเยอะ พาลูกท่องโลกกว้างกันเถอะ

teawbebgru

เราก็แค่ครอบครัวที่รักการเดินทาง ดีใจที่ได้พาลูกท่องโลกกว้างด้วยกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของเรานะคะ ^^ติดต่องาน E-mail : [email protected]

ใส่ความเห็น