ชิงเต่า (Qingdao) ประเทศจีน มีความยุโรปครบทั้งภูเขาและทะเล

“ไปเที่ยวจีนกันมั้ย” เมื่อมีคนชวนประโยคนี้ คุณจะตอบทันทีหรือลังเล เอาจริงๆ เราเองลังเลเหมือนกันนะ เพราะอะไรนะเหรอ ก็อย่างที่รู้กิตติศัพท์ของพี่ๆ จีน มนุษย์ลุงป้าที่มักจะทำให้เรารำคาญใจ แต่พอมีคนบอกว่าไป “ชิงเต่า” เริ่มเปิด google ก่อนที่จะ say yes ทันทีแบบไม่รีรอเพราะว่าเมืองนี้จะฉีกกฎทุกความเป็นจีนที่เคยได้ยินมา อย่าหาว่าแม่เวอร์เลยนะตามไปดูกัน!

ก่อนไปเที่ยว เมืองชิงเต่า (QINGDAO)  ประเทศจีน ชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนัก เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “สวิสเซอร์แลนด์แดนตะวันออก” นั้น เรามารู้จักเมืองนี้ก่อนไป และสิ่งที่ต้องเตรียมตัวไว้กันสักนิด

ข้อมูลทั่วไป
– เดินทางจากสนามบินดอนเมืองใช้เวลา 4 ชั่วโมง 30  นาที
– ต้องขอวีซ่า รายละเอียด https://www.visaforchina.org/BKK_TH/
– social media ทั้งหลาย เช่น line , facebook , google ใช้ไม่ได้ที่จีน ดังนั้นควรซื้อซิมจากประเทศไทยที่สำหรับใช้ในประเทศจีนจะสามารถใช้ได้ปกติ
– สกุลเงินหยวน
– เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
– สภาพอากาศ 12-25 องศาเซลเซียส

ทริปนี้เราเดินทางโดยสายการบินนกสกู๊ต เครื่องบินลำใหญ่นั่งสบาย 

อาหารบนเครื่องแนะนำไก่เทอริยากิอร่อยมาก

ตรวจสอบเที่ยวบินได้ที่ http://www.nokscoot.com

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ เมืองชิงเต่า (QINGDAO)

 Zhan-qiao Bridge
หากไม่ได้ไปสะพานนี้ถือว่าไปไม่ถึงชิงเต่า

สะพานจ้าวเฉียวแห่งนี้สร้างในสมัยจักรพรรดิ์กวงสู่ราชวงศ์ชิง ราวปี ค.ศ. 1819 ตัวสะพานยาว 440 เมตร กว้าง 8 เมตร ยื่นไปในอ่าวชิงเต่า ในสมัยโบราณเคยใช้เป็นที่ขนส่งสินค้าทางทะเล ส่วนปลายนั้นเป็นที่ตั้งของศาลา ฮุ่ยหลัน ที่ออกแบบเป็นรูปเก๋งจีนทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวและสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองชิงเต่า และศาลาแห่งนี้ยังเป็นเครื่องหมายการค้าที่ติดบนขวดเบียร์ชิงเต่าอีกด้วย บรรยากาศในวันที่อุณหภูมิ 10 องศา รอบๆ สะพานมีผู้คนมาเดินเก็บบางสิ่งบางอย่าง เพิ่งมองลงไปในอ่างน้ำนั่นปลาดาว!

มุมนี้มีความฮ่องกง มาเก๊า
ค่าเข้าชมศาลา Huilan สำหรับบุคคลทั่วไปราคา 4 หยวน ตัวสะพานเปิดให้เข้าชมตลอด 24 ชั่วโมง


St. Emil หรือโบสถ์ St. Michael 

โบสถ์สวยสถาปัตยกรรมตะวันตก

โบสถ์ St. Emil หรือโบสถ์ St. Michael เป็นอีกจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปในเมืองชิงเต่า ตั้งอยู่บนถนน Dexian เป็นโบสถ์คาทอลิก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ผสมผสานแบบโรมัน สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1934  มีเอกลักษณ์คือ บริเวณอาคารด้านหน้ามีหอนาฬิกาสูง 56 เมตร 2 หลัง ตั้งอย่างโดดเด่น โดยจะส่งเสียงสัญญาณในทุกวันอาทิตย์หรือช่วงเทศกาลสำคัญ ภายในโบสถ์สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 1,000 คน ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่สวยตามสไตล์เรเนอซองส์ในอิตาลี เมื่อทุกสิ่งอย่างถูกผสมผสานกัน จึงทำให้โบสถ์แห่งนี้งดงามและกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่โรแมนติกในเมืองชิงเต่า

ดังนั้นเราจึงเห็นคู่รักมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันที่นี่เป็นจำนวนมาก อยากจะถามช่างภาพว่าถ่ายยังไงไม่ให้ติดคู่อื่นคะ!
เมลลี่ไม่ได้มาแต่แม่ก็พามาด้วยนะ ^^


Anna Villa

ห้องสมุดคาเฟต์

เป็นสถาปัตยกรรมบาโรกที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ได้รับการปรับแต่งแต่คงความเดิมของบ้านไว้ เพื่อเป็นห้องหนังสือที่ให้ประชาชนสามารถมาคนหาความรู้ต่างๆ เป็น Landmark Building แห่งใหม่ของชิงเต่า
ด้านหน้าจะมีรถตู้สีแจ่มที่ใครไปก็ต้องถ่ายรูป (นี่คือการโพสต์ท่าอย่างไรให้เพื่อนมองบน)

 


Pi Chai Yuan

แหล่งสตรีทฟู้ด

ถนนพีฉายหยวน ย่านของกินเดินมุ่งหน้าไปทางนั้นเลย เมื่อเจอ 1902 ตรอกนี้แหละมีทีเด็ดเข้าไปเลยค่ะ ซอยนี้มีความอันซีนหลายอย่าง
ที่แปลกใจและสร้างความตื่นเต้นสุดๆ คือปลาดาวย่าง! ตัวละ 10 หยวน หรือประมาณ 50 บาท ไม่ได้กินทั้งตัวนะต้องย่างให้สุกแล้วแงะเปลือกกินไส้ในใครชอบลองของแปลกไปตรอกนี้รับรองอิ่ม

 

Xiao Yu Shan
ชมวิวชิงเต่า 360 องศา

เสี่ยวอี๋ซาน จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองชิงเต่าในทุกๆ มุมเเดินขึ้นไปชั้นบนสุดจะเห็นวิวเมืองชิงเต่า 360 องศา เหมาะแก่การมาชมพระอาทิตย์ตก
วัน-เวลาทำการ :  8.30-17.30 น. / อัตราค่าเข้าชม : 15 CNY


Time Coffee
สายฮิปต้องชอบ

ร้านกาแฟที่อยู่ด้านหน้าเสี่ยวอี๋ซาน ได้ชิมชาเขียวจัดว่าอร่อย ราคาประมาณแก้วละ 150 บาท


Daxue Road

ถนนแห่งการถ่ายภาพ

ถนนต้ำเสวีย เป็นถนนเส้นแรกที่ทันสมัยของเมืองชิงเต่า ประเทศเยอรมนีได้สร้างถนนเส้นนี้ขึ้นหลังจากได้รุกล้าชิงเต่า สองข้างทางเป็นสิ่งก่อสร้างที่รวมรูปแบบก่อสร้างจีนและตะวันตก เหมาะสาหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายรูป บนถนนเส้นนี้มีร้านกาแฟน่ารักหลายร้านเลยล่ะ
เวลาไปกับเพื่อนมันก็จะสนุกตอนโพสต์ท่า ฆ่าได้ก็ฆ่า!

Laoshan Taiqing Palace
ดินแดนของหมู่เหล่าเทวดา

ภูเขาเหล่าซาน ภูเขาที่มีชื่อเสียงของซานตง อยู่ห่างจากเมืองชิงเต่า 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จากตัวเมือง ยอดเขาของเหลาซานมีความสูงจากระดับน้าทะเลที่ 1,133 เมตร 
ภูเขาเหล่าซานเป็นภูเขาที่อยู่ติดกับทะเล มีแร่น้ำพุที่ใช้ทำเบียร์ชื่อดังยี่ห้อชิงเต่าที่ส่งขายทั่วโลก ในสมัยโบราณได้มีการบันทึกถึงทิวทัศน์ของภูเขาเหลาซานไว้ถึง 12 วิว เช่น เขา กบเขียว, แม่น้าแปดสาย, น้าตกแอ่งมังกร ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นเขาที่มีวัดอันเป็นแหล่ง พานักของนักพรตในศาสนาลัทธิเต๋าที่เก่าแก่และศักดิ์ที่สิททธิ์ที่สุด ตั้งอยู่หลายวัดด้วยกัน เช่น วัดไท่ชิง ดั่งมีคาโบราณกล่าวไว้ว่า “เขาเหลาซานแห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่ของมวลหมู่เหล่าเทวดา” อย่าลืมเดินขึ้นไปด้านบนสุดจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม วัน-เวลาทำการ :  6.00-18.00 (Apr-Oct), 7.00-17.00 (Nov-Mar) อัตราค่าเข้าชม : 20 CNY


May Fourth Square 

สัญลักษณ์เมืองชิงเต่า

สัญลักษณ์ของเมืองชิงเต่า ตั้งอยู่บริเวณอ่าว FuShan เป็นพื้นที่สาธารณะให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้มาเดินเล่นผ่อนคลายกับบรรยากาศแสนสบายของเมืองและริมชายฝั่งทะเล ซึ่งย่านนี้ได้ตั้งชื่อมาจากการเคลื่อนไหวในการเรียกร้องการเป็นอิสระจากเยอรมนีในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 สัญลักษณ์อันโดดเด่นของที่นี่ก็คืองานศิลปะที่คล้ายกับการหมุนของลมในเดือนพฤษภาคมที่มีสีแดงสด เป็นแลนด์มาร์กที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและน่าจดจำไปตลอดกาล

 


Tsingtao Beer Museum

โรงงานเบียร์ชิงเต่า

ใครสายเบียร์ต้องไปชิงเต่า! และอย่าลืมเข้าไปดูวิวัฒนาการของเบียร์กว่าจะเป็นทุกวันนี้ที่พิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งนี้ด้านในจัดแสดงเริ่มตั้งแต่การก่อตั้งโรงงาน กระบวนการพัฒนาตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบันรู้จักกรรมวิธีในการกลั่นเบียร์ของโรงงานเบียร์แห่งแรกของประเทศจีนรวมทั้งกรรมวิธีการกลั่นเบียร์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกปัจจุบัน”ชมขบวนการบรรจุเบียร์ใส่ขวด และกระป๋อง เพื่อจาหน่ายสู่ตลาดโลก

ไฮไลต์คือการชิมเบียร์สดๆ รสชาติดีมาก และถ่ายรูปติดขวดเบียร์หนึ่งเดียวในโลกอ้อ…อย่าลืมเข้าไปในนี้นะ!ค่าบริการ : เริ่มตั้งแต่ 60 – 130 หยวน ขึ้นอยู่กับแพกเก็จที่เลือก


Taidong San Lu Pedestrian Street

แหล่งช้อปปิ้งยามราตรี

แหล่งช้อปปิ้งที่คึกคักที่สุดมีตั้งแต่แบรนด์เนมยันของกระจุกกระจิกมัวแต่ถ่ายรูปกันเลยไม่ได้ไปส่องอะไรมากมาย เพราะราคาก็ไม่ได้ถูกกว่าบ้านเราเท่าไรนัก

 

 Qingdao Ying Bin Guan Museum
พิพิธภัณฑ์เก่าประเทศเยอรมัน

พิพิธภัณฑ์ที่ทำกำรเก่ำประเทศเยอรมัน สร้างโดยสถาปนิกของประเทศเยอรมนีในปี ค.ศ.1905 สร้างเสริจในปี 1908 สูง 4ชั้น เป็นการก่อสร้างสไตล์ปราสาดแบบยุโรป

ด้านในงดถ่ายภาพ ซึ่งจัดแสดงห้องต่างๆ พร้อมเครื่องใช้ที่ยังคงไว้แบบเดิม
เดินอ้อมมาด้านหลังจะมีร้านกาแฟรื่มรื่นพร้อมมุมถ่ายรูป

 

ZhongShan Park
สวนสาธารณะกลางเมือง

 



 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สวนสาธารณะขนาดใหญ่มีอายุกว่า 90 ปี ด้านในเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น เป็นสวนที่คึกคักไปด้วยผู้คน ไฮไลต์ของสวนคือถนนซากุระที่จะออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือจะเดินถัดไปยังสวนสนุกที่อยู่ใกล้ๆ กัน มีแปลงกุหลาบดอกใหญ่ให้ถ่ายรูปด้วยนะ

 

Ba Da Guan
ถนนสายโรแมนติก

ถนน 8 สายเส้นทางโรแมนติก โดยชื่อถนนแต่ละสายในบริเวณตั้งชื่อตามเส้นทางของกำแพงเมืองจีน ได้แก่  Jiayuguan, Juyongguan, Wushengguan, Ningwuguan, Shanhaiguan, Shaoguan, Zhengyangguan และ Zijingguan 

เดินเล่นไม่รู้จักเหนื่อยบนแห่งนี้ ถนนที่ไม่มีความเป็นประเทศจีนแบบที่เคยเห็นมาก่อนแต่อย่างใด
และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่สวยมากและอยากให้ไปเที่ยวกัน


ชายทะเลชิงเต่า

แม้ชายหาดจะสู้บ้านไม่ได้แต่ก็สะอาดดี ชาวจีนและนักท่องเที่ยวต่างก็มาออกกำลังกาย นั่งเล่น ชิลล์ๆ
และแน่นอนว่าไปเมืองนี้มุมไหนก็เจอแต่คนถ่ายพรีเวดดิ้ง ทั้งตอนแดดเปรี้ยงเที่ยงวัน (แต่ไม่ร้อน) 

 

EAT
อาหารทะเลขึ้นชื่อ

ชิงเต่า มีชื่อเสียงมากในเรื่องการผลิตเบียร์ชิงเต่า (Tsingtao) ใครได้มาเที่ยวเมืองนี้จึงไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองรสชาติเบียร์พื้นเมืองของชิงเต่า อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ “อาหารทะเล” เพราะชิงเต่าห้อมล้อมไปด้วยทะเล ซึ่งทะเลในแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก จึงทำให้อาหารทะเลที่นี่มีความสด ใหม่ รสชาติอร่อย ๆ ไม่เหมือนกับที่ไหน เมื่อได้รับประทานคู่กับเบียร์ท้องถิ่นชิงเต่า ยิ่งเข้ากันอย่างมากเลยทีเดียว

 


STAY

ที่พักในเมืองชิงเต่าราคาไม่แพงมาก เคยหาเจอในราคาหลักร้อยด้วย แม้กระทั่งโรงแรมหรูที่สุดอย่าง Hilton Qingdao Golden Beach โรงแรมที่ประหนึ่งนอนในพระราชวัง ก็ราคาไม่ถึงหมื่น หากเลือกพักที่นี่อย่าลืมเดินไปที่ระเบียงตอนหนึ่งทุ่มจะเห็นไฟแสงสีตระการตาสุด


บทสรุป

สำหรับทริปชิงเต่า เป็นการเปิดประสบการณ์เที่ยวประเทศจีนครั้งแรกของเราที่รู้สึกประทับใจมากๆ เหตุผลที่ไม่คิดจะมาเที่ยวจีนคือเรื่องห้องน้ำเป็นอันดับแรกอย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ แต่ที่ชิงเต่าห้องน้ำสะอาดมาก (ยกเว้นสนามบินที่เดียวคนคงเยอะ) บ้านเมืองเป็นระเบียบ ผังเมืองสวยงาม มีความเป็นยุโรป อากาศดี เดินเล่นชิลล์ๆ ถ่ายรูปสนุก อาหารการกินก็เพลิดเพลิน ใครสายเบียร์ยิ่งห้ามพลาด!!

ไปชิงเต่าสักครั้งเหอะเชื่อแม่!!

 

teawbebgru

เราก็แค่ครอบครัวที่รักการเดินทาง ดีใจที่ได้พาลูกท่องโลกกว้างด้วยกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของเรานะคะ ^^ติดต่องาน E-mail : [email protected]

ใส่ความเห็น