10 จุดน่าเที่ยวปลายปีที่ไม่ควรพลาด

“ถ้ามัวแต่รอเงินมากแล้วค่อยเที่ยว ตอนนั้นคงเหี่ยวพอดี”หากมัวแต่รอเวลาก็ไม่รู้จะได้ไปตอนไหน รอไปรอมาอ้าว! แก่พอดี เที่ยวตอนนี้จะได้สะบัดผ้าโพสต์รูปสวยๆได้ตั้งแต่ยังมีแรงจะเดิน เที่ยวเมืองไทยเที่ยวได้ไม่ยาก ใช้เงินไม่มาก แถมเวลาก็ไม่ต้องมีเยอะด้วยนะ

10 จุดน่าเที่ยวปลายปีที่ ที่แม่ไข่อยากแนะนำบางสถานที่มีเวลาแค่ 2 วัน 1 คืนก็เที่ยวได้แล้ว หรือถ้าใครอยากไปพักผ่อนปลายปียังมีวันลาพักร้อนเหลือเยอะก็จัดให้ทั้ง ภาคเหนือ ภาคใต้ ไปสูดอากาศดีๆ ชาร์ตแบตให้ร่างกายบ้าง พลาดปีนี้รออีกทีได้เที่ยวตั้งปีหน้า!

เที่ยวเมืองไทย อย่าเดี๋ยว…เที่ยวกันเลย

1.สวนดอกไม้ เชียงใหม่
 love Flower Farm ต.เมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

กรี๊ดกันให้ลั่นดอยเพราะตอนนี้เชียงใหม่ได้เนรมิตสวนดอกไม้ที่นึกว่าอยู่เมืองนอก เพราะสวยงามไม่แพ้ประเทศไหนๆ ในโลกนี้ เปิดให้ชมอย่างเป็นทางการเดือนพฤศจิกายน ที่ I love Flower Farm มีทั้งดอกลาเวนเดอร์สีม่วง ดอกคัตเตอร์สีขาว เตรียมชุดให้พร้อมแล้วยื่นวันลาไว้เลยนะ


I love Flower Farm
ค่าเข้าชม : คนละ 70 บาท
เบอร์โทรศัพท์ : 082 8972679
เวลาเปิด : ชมสวนได้ตั้งแต่ 09.00 – 18.00 น.

 

2.เขาค้อ เพชรบูรณ์

ฉบับคนมีเวลาน้อยหรือหยุดได้แค่เสาร์-อาทิตย์ ขับรถไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่เขาค้อก็จะได้เจอหมอกสวยๆ แบบนี้ และยังมีทุ่งดอกไม้ให้ชมปลายปีแบบจัดเต็ม เขาค้อมีจุดให้นอนกางเต็นท์หลายจุดมาก มีโรงแรมสวยๆ ราคาเริ่มต้นหลักร้อยให้เลือกพัก เรียกว่าไปเขาค้อใช้เงินไม่เยอะ เดินทางง่าย ขับรถไปเพลินๆ

หมอกสวยๆ ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

ไปรษณีย์เขาค้อ ค่าที่พักหลักร้อยแต่วิวหลักล้าน

อีกหนึ่งจุดที่อยากให้ไปคือ พระตำหนักเขาค้อ ถ้าโชคดีได้เจอหมอกแบบนี้ที่ป่าสนด้วยนะ

3.ควนนกเต้น 
ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ. พัทลุง

อันซีนพัทลุงที่แท้ทรู ใครจะเชื่อว่าภาคใต้จะมีหมอกสวยๆ บนพื้นที่โล่งงๆ อากาศดีๆ และที่พักที่หันหน้าหาทะเลหมอกแบบนี้ แม่ไข่ชอบที่นี่มากค่ะตอนไปได้นอนเต็นท์ติดแอร์ด้วย

หลังนี้คือดีมากกก มีคนเคยถ่ายภาพหมอกอลังๆ ลอยมาถึงบ้านพักได้ด้วยนะแต่แม่ไข่เห็นแค่นี้ก็ฟินแล้ว เมืองไทยของเรานี่สวยจริงๆ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีที่พักหลายเจ้าแล้ว ราคาที่พัก 1,000-1,500 บาท หารกันแล้วตกคนละประมาณ 500 ต่อคืน รวมอาหารเช้า ส่วนอาหารเย็นจะเตรียมไปเองหรือจะใช้บริการคุณป้าก็มีอาหารพื้นบ้านเหมือนแม่ทำให้ทานในราคาเบาๆ แต่อร่อยมาก

การขึ้นไปควนนกเต้นต้องใช้รถของชุมชนค่ะ คนละ 60 บาท ไป-กลับ ส่วนใหญ่คนจะนิยมขึ้นไปหมอกตอนเช้าและตอนเย็น ด้านบนมีร้านกาแฟ และไข่กระทะให้บริการ
เบอร์โทรศัพท์ : 083 891 8187

4.เกาะห้อง กระบี่

ทีมทะเลยกมือขึ้น ปลายปีแบบนี้เที่ยวทะเลใต้ก็ดีนะแม่ไข่ขอแนะนำ เกาะห้อง หรือ เกาะเหลาบิเละ จ. กระบี่ เกาะนี้เที่ยวได้ทั้งปีเลยนะแต่ช่วงที่เหมาะสมคือช่วงปลายปีแบบนี้ การไปเกาะสามารถซื้อ Day trip ได้จากอ่าวนางหรือซื้อจากโรงแรมราคาหลักร้อยค่ะ

เกาะห้องได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 เกาะที่มีหาดน่าเที่ยวที่สุดในโลกด้วยนะ

ซึ่งจุดเด่นที่อยากให้ไปคือเกาะนี้ “อ่าวบิเละ” เป็นอ่าวที่มีหาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน หาดทรายขาว


5.ภูป่าเปาะ 

บ้านผาหวาย ต.ปวนผุ อ.หนองหิน จ.เลย

ฉายา ฟูจิเมืองไทยต้องไปภูป่าเปาะ จุดเด่นของที่นี่ก็คือการได้ขึ้นไปชม บรรยากาศบนจุดชมวิวที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร สามารถมองเห็นภูหอซึ่ง เป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบโดยเฉพาะช่วงที่มีทะเลหมอกปกคลุม นักท่องเที่ยวเรียกว่า คล้ายภูเขาไฟฟูจิยามาในประเทศญี่ปุ่น

 

6.ภูผาดัก หนองคาย
ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย

ภูผาดัก เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกสุดอันซีนเหลือลำน้ำโขง ระยะทางประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 45-60 นาที ทางค่อนข้างชัดและต้องขึ้นตั้งแต่ตี 4 เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น

การขึ้นไปภูผาดักต้องติดต่อไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทาง สามารถติดต่อ 086 2195500 หรือติดต่อกับที่พักในหมู่บ้านได้เลยค่ะ

7.บ้านนาต้นจั่น สุโขทัย
ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย

แหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนในเชิงอนุรักษ์ เป็นหมู่บ้านตัวอย่างอีกแห่งในประเทศไทยที่ให้บริการโฮมสเตย์ตัวอย่าง ในหมู่บ้านมีให้เลือกเยอะมากค่ะ มีทั้งบ้านต้นไม้ บ้านวิวทุ่งนา บ้านในสวนผลไม้ ราคาแค่คนละ 600 บาท พร้อมอาหาร 2 มื้อ

บ้านในสวนผลไม้

บ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้าน

อาหารคืออร่อยทุกมื้อไม่อิ่มเติมได้ด้วย

กิจกรรมเมื่อไปเที่ยวบ้านนาต้นจั่น คือการปั่นจักรยานชมวิถีชุมชน ไร่นา สวนผลไม้เก็บทานได้สดๆ ทานข้าวเปิ๊บอาหารพื้นเมือง ชมการสาธิตการทำตุ๊กตาบาร์โหน เรียนรู้การทำผ้าหมักโคลน และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่พลาดคือการขึ้นไปจุดชมวิวห้วยต้นไฮ

หมอกอลัง ขึ้นไปกินบะหมี่ จิบกาแฟจากกระบอกไม้ไผ่ด้านบนเลยค่ะ สนใจติดต่อโดยตรงกับโฮมสเตย์ที่เลือกพัก หรือ ชุมชนบ้านนาต้นจั่น
โทร. 088 495 7738 089 885-1639

8.หมู่บ้านสะปัน น่าน
ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

หมู่บ้านเล็กๆ เล็กๆ รายล้อมด้วยภูเขา ทุ่งนา น้ำตก และลำธาร เรียกว่าธรรมชาติครบมาก หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ห่างจากบ่อเกลือภูเขาประมาณ 9 กิโลเมตร หากใครอยากจะไปชาร์ตแบตให้ร่างกายที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งปี แนะนำที่พักในหมู่บ้านราคาไม่แพงแต่วิวที่ได้รับ และความสุขที่ได้กลับไปคุ้มเกินคุ้ม ที่พักแนะนำได้ แก่ อุ่นไอมาง สายหมอกบอกฮัก ณ สะปัน และมีสะปัน

 

9.ผาช้างน้อย พะเยา
ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา

เชื่อว่าหลายๆ คนคงเห็นภาพวิวนี้แล้วตกหลุมรักอยากจะไปสักครั้ง แม่ไข่เองก็อยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ ของสถานที่ที่อยากไป หลายคนอาจจะเรียกที่นี่ว่า ภูลังกา แต่จริงๆ มุมนี้คือจุดชมวิวผาช้างน้อ

ยิ่งช่วงปลายปีหมอกอลังๆ มาเต็มแน่นอนค่ะ

สำหรับที่พักเมื่อนั้นจะมีเพียง ภูลังการีสอร์ท เท่านั้น ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น ภูลังกาบ้านสวนแล้ว แต่ปัจจุบันมีโฮมสเตย์ให้บริการมากกว่า 10 แห่งค่ะ

และยังเป็นที่ตั้งของร้านกาแฟและที่พักชื่อดัง magic mountain อีกด้วย

สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถเดินทาง รถโดยสารประจำทางนั่งรถสาย น่าน-เชียงรายผ่านไปมาสวนกันแค่วันละ 1 รอบ ออกเดินทางจากน่านและเชียงราย เวลา 09.00 น. ถึงภูลังกาบ้านสวน ประมาณ 11.30 และ12.00น.หรือหากมาหลายคนสามารถติดต่อรถรับจ้างที่รีสอร์ทให้มารับแถวตัวอำเภอเชียงคำก็ได้

10.สังขละบุรี กาญจนบุรี

อีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะแก่การไปพักผ่อนชมวิถีชีวิตชาวมอญ แถมได้ทำบุญให้สบายใจอีกด้วย สังขละบุรี อำเภอติดชายแดนพม่าที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีแม่น้ำซองกาเลียต้นกำเนิดจากพม่าไหลผ่านแบ่งอำเภอสังขละบุรีให้เป็นสองฝั่ง

เห็นแบบนี้จะรอทำไม!! เที่ยวเมืองไทย อย่าเดี๋ยว…เที่ยวกันเลย

 

ใส่ความเห็น