เที่ยวแบบกรู >>> ยกโขยงทั้งบ้านบวกเพื่อนไปเยือนทะเลตรัง 3 วัน 2 คืน
เราวางแผนตั้งแต่ต้นปีว่าปีนี้จะต้องไป เกาะรอก ให้ได้เสพรีวิวมาเยอะ กระตุ้นต่อมอยากสุดๆ หาข้อมูลมาว่าถ้าไปขึ้นเรือทางฝั่งตรังจะได้ค่าเรือไม่แพง เหมาเรือเที่ยวได้สะดวก ถ้าไปทางกระบี่ใกล้กว่าก็จริง แต่ค่าใช้จ่ายแพงกว่า
สรุปฟันธงมีเวลาวางแผนไม่ถึงสองอาทิตย์ เหตุจากไม่รู้ว่าใครจะไปกับเราด้วยบ้าง จะไปแค่ “ครอบครัวหัวหยอง” ของเราก็ดูท่าจะแพงเกินไปมันต้องมีคนมาช่วยหาร สุดท้ายลงตัวที่ 13-15 เมษายน 59 ทริปสงกรานต์ฮาเฮไปลอยทะเลตรัง 3 วัน 2 คืน
DAY 1…
เย็นวันที่ 12 เมษา ตั้งใจจะเด้งออกจากออฟฟิศไวหน่อย ออฟฟิศอย่างเงียบคนลาอย่างเยอะ แต่งานเข้าตอนเลิกงานพอดี ล้อหมุนออกจากออฟฟิศ 18.40 น. ขึ้นทางด่วนไปลงดาวคะนอง ขับรถกระป๋องคันเล็ก นั่งได้ 4 คน เด็ก 1 ก็พอไปได้ เป็นครั้งแรกที่เราขับรถลงใต้ระยะทางไกลที่สุด 860 กิโลเมตร ยาวไปยาวไป เราขับรถได้กันทุกคนเลยกะว่าจะสลับกันขับทุก 200 กิโลเมตร แต่ไปๆ มาๆ เราหลับยาวเลย 55
05.30 น. ถึงตัวเมืองตรัง รถไม่ติดเลยตอนแรกคิดไว้ว่าเทศกาลคงจะติด แต่ที่ไหนได้วิ่งฉิวสบายๆ แวะล้างหน้าแปรงฟันกันที่ปั๊ม ก่อนจะไปหาอะไรกินถึงเมืองตรังทั้งทีต้องจัด ติ่มซำ หมูย่าง ให้หนำใจ
ตรังหมูย่าง
หาข้อมูลในพันทิปและก็ถามคนพื้นที่ว่าจะไปกินติ่มซำร้านไหนอร่อย ตอบไม่ตรงกันสักคน บางคนบอกเลตรัง เราก็ขับรถหากันวนไปวนมาเจอ เลตรัง 2 ซึ่งหรูหราไป หาใหม่ก็มาเจอกับร้าน ตรังหมูย่าง แค่เดินเข้าร้านความอร่อยก็เกิดขึ้นแล้ว (คือหิวมากนั่นเอง)
ชอบเมืองตรังตรงที่อาหารเช้ามาเต็มนี่แหละ ร้านตรังหมูย่าง เป็นลักษณะตึกแถวสองคูหาคนแน่นเลยนะ ดีที่ทัวร์ไม่มาลง ไปถึงก็นั่งเลยพนักงานก็จะยกทั้งหมดทั้งมวลแบบนี้มาให้กินแค่ไหนจ่ายแค่นั้น
ชอบติ่มซำแบบเข่งมากกว่ามันได้อรรถรส แต่แบบนี้ก็โอนะ หมูย่างอร่อยกรอบแป๊บเดียวหมดจาน ที่เซอร์ไพรส์กว่านั้นคือปาท่องโก๋อร่อยมาก
ราคาตามนี้เลย เช็คบิลมื้อเช้าจ่ายไป 340 บาทถ้วนหาร 4 ตกคนละ 85 ถูกอะไรเบอร์นั้นกินไปตั้งเยอะแยtมากมาย
วันนี้แพลนของเราคือ ไปเที่ยวเกาะรอก พักเกาะมุก เราได้เหมาเรือล่วงหน้าเอาไว้ของ ตรัวทัวร์ดอทคอม (ต้องขอเอ่ยชื่อถึงเพราะจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับบริษัทนี้เลย) ที่เกาะรอกไม่มีอาหารขายเราไม่ได้ซื้อทัวร์ไปดังนั้นต้องเตรียมเสบียงไปเอง ขับรถกันไปที่ตลาดเพื่อหาของกินตุนไว้ เราขนแตงโมจากกรุงเทพไปลูกนึง จะขนไปเพื่อ! ที่ตรังก็มีขายป่ะ แถมลูกนั้นไม่ได้กินหอบกลับกรุงเทพอีก ตลกตัวเอง
บรรยากาศที่ตลาดคึกคักดีแต่ลูกติดแม่แจ “แม่อุ้มๆ ” ไม่มีภาพประกอบเลย
ขอบคุณภาพจากทะเลตรังดอทคอม
จากแผนที่จะเห็นว่าการเดินทางของเราจะยาวไกลมากเมื่อเราต้องการไปเกาะรอก
ตัดภาพมาที่ ท่าเรือควนตุ้งกู ไปเกาะรอก เกาะมุก ไปขึ้นท่าเรือนี้ อยู่ที่ อ.กันตัง ประมาณ 46 กิโลเมตร จากตัวเมือง ดังนั้นเผื่อเวลาเอาไว้ด้วยก็ดีค่ะ (จริงๆ ขึ้นที่ท่าเรือปากเมงก็ได้ลองสอบถามเรือที่เหมาลำไว้แต่ที่ถามมาขึ้นที่ควนตุ้งกูใกล้กว่าค่ะ)
มีบริการฝากรถ พื้นดินขรุขระมีหลุมบางช่วง แดดร้อนหน่อยนะ คืนละ 50 บาท
เรือหางยาวเข้าคิวเตรียมรอรับผู้โดยสาร เราเหมาเรือในราคา 4,500 บาท 4 คน (ปกติ 4,000 เทศกาลขึ้นราคา 500 จ้า) ใครจะไปแค่เกาะมุกขึ้นเรือโดยสารก็ได้นะคนละ 20 บาท เที่ยวเดียวคือตอนเที่ยง หรือขี้เกียจรอเหมาเรือหางยาวลำละ 1,000 – 1,500 แล้วแต่ต่อรอง
ที่ท่าเรือควนตุ้งกู มีห้องน้ำสามารถอาบน้ำ เปลี่ยนชุดที่นี่ได้เลยค่ะ เรานัดเรือไว้ 08.30 น. แต่กว่าจะได้ออกก็ 09.40 น. เพราะมัวแต่เปลี่ยนชุด รอต่อคิวเข้าห้องน้ำนานนิดนึงห้องน้ำมีน้อยเทศกาลคนเยอะ
เช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง บอกว่าทะเลอันดามันมีคลื่นลมแรง อาจมีฝนตก เราก็เห็นว่าแดดเปรี้ยงๆ ไม่เห็นจะมีอะไรก็สบายใจไป ขึ้นเรือลั้ลลา หน้าตาสมาชิกทริปนี้ ประหนึ่งชาวเลรู้สึกผิวพรรณจะกลมกลืนอย่างรวดเร็ว ริอยากไปทะเลอย่าไปกลัวดำเนอะ ^^ทะเลอันดามันคร้ังแรกของเมลลี่ แต่ดูหน้านางตอนนี้ รู้สึกว่าแม่จะสนุกเกินไปแล้วนะคะ 55การเดินทางไปเกาะรอก จากท่าเรือควนตุ้งกูใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างนี้ก็ถ่ายรูปไป หลับไปก็ได้นะเมลลี่บอกว่า ” จะถ่ายรูปคนเดียว” จัดรูปเดี่ยวให้ไปตามคำขอ แต่ก็ยังคงนั่งเกร็งเหมือนเดิม ^^ซูมเข้าไปถึงบ้านพัก จริงๆ อยากพักที่นี่นะเมื่อ 5 ปีก่อนได้มีโอกาสแวะมาเดินเล่นเลยบอกกับตัวเองว่าถ้าได้มาเกาะมุกอีก ขอไปนอนที่นี่แต่พอถึงเวลาเงินไม่พอ 55 อด T_Tอยู่ในมุมที่ดีมาก มีชายหาดสวยตัวทอดยาว หน้าเป็นน้ำหลังเป็นเขา
มัวแต่ชมความงามของ เกาะมุกสิวาลัยบีชรีสอร์ท พอเรือแล่นผ่านเกาะมุกไปสักพัก จนถึงเกาะกระดาน บังวา คนขับเรือบอกว่าเลยเขาลูกนี้ไปเราจะพบกับคลื่นสูงมาก วันนี้มีมรสุมนะ ได้ฟังก็ยังชิลล์นะไม่ได้อะไรแต่พอเรือผ่านแท่นหินนี่ไปจริงๆ น้ำตาจะไหลพอผ่านกำแพงหินตรงนี้ไป นึกภาพตามนะเรานั่งบนเรือหางยาว มันค่อนข้างจะเห็นคลื่นชัดมาก จุดนี้เราไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปละ หันไปมองลูกนางหลับสนิทเลย ลูกเรือของบังวาบอกว่าถ้าพี่จะไปเกาะรอกในเวลานี้ต้องใช้เวลาอีก 2 ชั่วโมงซึ่งไปถึงแล้วดำน้ำไม่ได้แน่นอน พี่ต้องตัดสินใจนะ เรานั่งนิ่งสักครู่ทุกคนในเรือบอกให้เราเป็นคนตัดสินใจ เอาจริงๆ นะถ้าเราไปคนเดียวเราคงบ้าบอกคนขับเรือไปว่า ลุยไปเรือ อยากไปเกาะรอกมาก (เราว่ายน้ำไม่เป็นนะเออ) แต่พอหันไปมองลูก มองเพื่อน ตัดสินใจว่าไม่ไปแล้วก็ได้ แม้ว่าจะเสียใจมากแต่เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนนะ (เกาะรอกของช้านนนน T_T) เมื่อตัดสินใจแล้วเรือต้องตีโค้งเลี้ยวกลับใช่มั้ย คุณพระคุณเจ้ามันน่ากลัวมาก เรานั่งสวดมนต์เลยนะ จับมือลูกไว้ คิดภาพตอนนี้แล้วหลอนมาก คือถ้านั่งสปีทโบ๊ทอาจไม่น่ากลัวเท่า
สรุปบังวาเสนอให้เราไปดำน้ำเกาะกระดาน เกาะมุกแทน ซึ่งตอนแรกไม่ได้อยู่ในแพลนแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ได้เห็นใต้น้ำมันทำให้เราลืมเกาะรอกไปชั่วขณะ
จุดดำน้ำจุดแรกที่ เกาะกระดาน น้ำใสมากปลาเยอะสุดๆ เมลลี่ดูจะตื่นเต้นมาก เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวได้เห็นปลาตัวจริงๆ ในน้ำทะเลแบบใกล้ชิดขนาดนี้ขุ่นแม่ขอลงไปทำการแสดงเรียกปลามาให้ลูกดู แค่ลงไปในน้ำปลาก็กรูเข้ามาหาอย่างมากมายประหนึ่งคิดถึงอิชั้นมาก
อากาศมันร้อนนอนแช่น้ำให้ปลาตอดเล่น สบายใจลูกเรือของบังวาทำงานดีจริงๆ ค่ะ แช่เบื่อแล้วลงน้ำไปดูปะการังกันต่อ
“เ ก า ะ ก ร ะ ด า น”
สวัสดีเกาะกระดาน ครอบครัวหัวหยองและผองเพื่อนมาเยือนแล้ว น้ำใส ชายหาดเต็มไปด้วยเรือและผู้คน มีหลายลำที่จะไปเกาะรอกแบบเราแล้วไปไม่ได้ก็จำต้องมาปักหลักกันที่นี่
มีชิงช้าให้นั่งเล่น เด็กกับชิงช้าเป็นของคู่กันจริงๆ ค่ะ เห็นเป็นไม่ได้จะสูงแค่ไหนก็ขอนั่งสักนิดนะคุณแม่
บนเกาะกระดานก็มีที่พัก ใครสนใจลองโทรไปสอบถามราคากันดูนะ ร้อนขนาดนี้เห็นแล้วก็อยากไปเปิดห้องนอนสักชั่วโมง แต่ปูเสื่อใต้ต้นไม้ก็ลมเย็นสบายอยู่นะคะ
ขนอาหารที่หอบกันมาตั้งแต่ที่ตลาดเมืองตรัง ไปสั่งข้าวไข่เจียวให้เด็กน้อย ข้าวไข่เจียวธรรมดาราดข้าวจานละ 100 บาท! กินอิ่มก็หลับกันบนเสื่อนี่แหละ พ่อแม่นะหลับ ลูกนั่งกวน 55
พักผ่อนนอนเล่นที่เกาะกระดานกันเกือบ ๆ 2 ชั่วโมง บังวาบอกว่าไหนๆ ก็มาแล้วแวะไปถ้ำมรกตหน่อยละกัน สมาชิกในทริปยังไม่เคยไปก็ว่าตามนั้น ดังนั้นต้องรอให้น้ำลงค่อยไป
แต่พอไปถึงภาพที่เห็นเล่นเอาช็อค เรือลำใหญ่บรรทุกนักท่องเที่ยวกำลังทยอยกันเข้าไปในถ้ำซึ่งคลื่นแรงมาก แต่ละคนก็ห้อยคอกันเข้าไป
พวกเราลงความเห็นว่าเราไม่สู้ ขนาดแค่เรือจอดเฉยๆ ยังโคลงเคลงน่ากลัวมาก บอกบังไปว่าเราไม่เสียใจที่ไม่ได้เข้า ไปที่อื่นกันเถอะ
เราจึงเดินทางไปเกาะมุกกันเลยค่ะ เกาะมุกมีจุดดำน้ำหลายจุด แต่อย่างที่บอกเอาไว้ว่าจุดที่สวยที่สุดคือมีปะการังสีส้มนั้นเราไม่สามารถลงไปได้เนื่องจากน้ำขึ้นสูง พวกเราจึงไปจุดที่มีปลาดาว และดอกไม้ทะเล
เด็กเมลลี่ (2 ขวบ 2 เดือน) บอกว่า เมลลี่อยากดำน้ำ คุณแม่ก็จัดให้เอาตัวลงไปหย่อนในน้ำแป๊บนึง เด็กอืดของแม่เก่งจริงๆ ไม่กลัวอะไรเลย น้ำตรงนี้ไม่ลึกนะคะ มองเห็นก้นทะเลเลย พอลงไปได้แป๊บเดียว ร้องพอแล้ว ๆ ^^
” จุดดำน้ำเกาะมุก “
บริเวณถ้ำใหญ่สวยที่สุด มีกัลปังหา ปะการังสีๆ แต่เราลงไม่ได้นั่นเอง ส่วนจุดที่เราไปดำมา มีปลาดาวเยอะมาก แบบนอนอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ดอกไม้ทะเลก็เยอะ ปลาการ์ตูนก็มากมาย เจอปลาไหลมอเรย์ด้วยนะ แต่น่าเสียดายอยู่ๆ กล้องใต้น้ำของเราก็กดไม่ลงถ่ายไม่ได้ซะอย่างนั้น (พอถึงบ้านกลับใช้ได้โกรธ!)
” เ ก า ะ มุ ก ช า ลี บี ช”
ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนมะพร้าวค่าา
แอร๊ยยไม่ใช่สิ แต่เหมือนเนอะ 55 ทำการเช็คอินอย่างรวดเร็ว อยากไปโดดสระแล้วมันร้อนนนน
ขอต้อนรับเข้าสู่กระท่อมน้อยกลอยใจ (ชื่อเชยมาก) ชื่อในเวปต์เก๋ๆ Bamboo Chalet เห็นกระท่อมเล็กๆ แบบนี้ เตียงนุ่ม พัดลมเครื่องใหญ่ มีตู้เย็น ตู้เซฟด้วยนะแกรร ไม่ธรรมดา เรือนหลังนี้ข้าจ่ายไปในราคาคืนละ 1,428 บาท ในเว็บเกาะมุกชาลีบีช 1,200 – 1,700
ไปเล่นสระกันเถอะ ถ้าให้นอนอยู่ห้องมันร้อนมาก ณ จุดนั้น หากใครเห็นกระท่อมแล้วเบ้ปากมองบน บอกชั้นนอนไม่ได้หรอกนะ ร้อนจะตาย เดี๋ยวพาไปดูตัวเลือกอื่นนะคะ (ประหนึ่งเป็นเซลล์โรงแรมขอค่าคอมด้วยนะคะ^^)
แบบนี้น่าจะเป็น Deluxe ไม่ติดทะเลนะอยู่ในสวนมะพร้าว เดินไม่ไกลค่ะ ราคา 1,800 – 3,400
ห้องนี้ Beach Front ติดทะเล นั่งมองคลื่น ชมวิวชายหาดได้จากหน้าห้อง ราคา 2,200 – 4,000)
ได้เวลาไปโดดสระแล้ววว
สระว่ายน้ำดีงามมองเห็นทะเล มีสระเด็กด้วย คนไทยเยอะเลยวันที่เราไปเด็กเล่นกันเต็ม สนุกดีค่ะเล่นน้ำจนเหนื่อยได้เวลามาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า รอเวลาพระอาทิตย์ตก เด็กชิลล์มาก
บริเวณชายหาด ยามเย็นผู้คนต่างออกมารอชมแสงสุดท้ายของวัน
“K o y o w R e s t a u r a n t ”
ไม่ได้หาข้อมูลก่อนมาเกาะมุก ว่าต้องไปกินอะไรกะว่าฝากท้องไว้ที่โรงแรมนั่นแหละ แต่ระหว่างรอพระอาทิตย์ตกนั้นได้คุยกับเพื่อนสาวทางโทรศัพท์ นางก็บอกว่าแกร้านโกยาว เค้าว่าวิวสวยแต่อยู่ไหนไม่รู้นะ เราออกมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก เดินเล่นไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าเจอแล้ว
ร้านอาหารที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะมุก คนมากันเต็มเลย
เรามายืนฟินตรงนี้คนเดียว ลูกปั๋วและเพื่อนอยู่ไหนกันไม่รู้เลย 55 ทำการจองโต๊ะไว้แล้วไปเรียกสมาชิกกัน (มือถือก็ไม่ได้พก)
สมาชิกมาถึงกันอย่างพร้อมเพรียงก็มืดซะแล้ว มาดูเมนูอาหารราคาไม่แรงด้วยนะ เราสั่งกันไปหลายอย่างแต่ส่วนใหญ่จะหมด ป้าบอกคนเยอะวันนี้วัตถุดิบไม่พอ (ขออภัยรูปไม่ค่อยคมเราไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปค่ะ)
จะสั่งหมึกนึ่งมะนาว ปลาหมึกหมดได้เป็นกุ้งมะนาวแทน อร่อยดีนะไม่เคยกินกุ้งมะนาวมาก่อน
ไก่ต้มขมิ้น เมนูแนะนำสูตรปักษ์ไต้ ของจริงไม่ได้เขียวแบบนี้นะคะ พอดีแสงไฟบนหัวเขียวมาก
สั่งไปอีกเยอะแยะมากมายหลายเมนูคือหิวไงสั่งไม่ยั้ง แสงไม่ค่อยมีถ่ายรูปมาอวดกันแค่ 2 เมนู เช็คบิลมาทั้งหมด 730 บาท ถูกได้อีก อิ่มแล้วเดินกลับไปกระท่อมหลังน้อยหลับสนิทเลย ไม่ร้อนมากมายแบบที่คิดนะคะ
_______________
DAY 2
เช้าวันใหม่ไม่ได้ตื่นมาถ่ายแสงเช้า หลับสนิทมากประหนึ่งอดนอนมาชาตินึง ลูกก็หลับดี๊ดีคงจะเพลียเหมือนกัน
เช้าๆ เรือเข้ามารับนักท่องเที่ยวได้ หลายคนทยอยกลับแล้ว หรือหลายคนก็ออกไปดำน้ำ ส่วนบ้านนี้นะเหรอ ใส่ชุดง่ายๆ (ใช่หราา) ขนอะไรมาก็ใส่ๆ ไป เมลลี่บอกว่า “คุณแม่ใส่หัวแบบคุณแม่” 55
เอะอะๆ แม่จั๊มพ์ ๆ 1 2 3 ฮึบๆ ไม่พร้อมกันสักที 55 หมกมุ่นกับการกระโดดมากถึงกับต้องทำให้ได้ และแล้วก็ทำสำเร็จ ปรบมือๆๆ
ท่านี้แม่ไม่ได้สอนเลยจริงๆแฮ่ๆๆพอแล้วลูกแม่เหนื่อยแล้วไปทานข้าวเช้ากันเถอะห้องอาหารของที่พักติดทะเลค่ะ ในส่วนของอาหารนั้นเบสิคทั่วไป ขนมปัง เบคอน กับข้าว 4-5 เมนู หาดทรายบริเวณนี้ละเอียดนุ่มเท้ามากก่อนจะเช็คเอ้าต์เรามาถ่ายรูปหมู่กันสักใบนะพวกเธอ
บ๊ายบายเกาะมุก แล้วเราจะกลับมาอีกนะเกาะส่วนตัวของฉัน ได้เวลาออกเดินทางสู่ เกาะไหง นัดรถมารับตอน 11 โมง ไปที่ท่าเรือเหมือนเดิมค่ะเกาะข้างหน้าเลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาทีน้ำใสมากๆ
“เกาะไหงแฟนตาซีรีสอร์ท”
เราพักที่นี่ค่ะ ที่พักที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะไหง เกาะไหงมีชายหาดฝั่งเดียวโรงแรมจึงมาสร้างกันที่ชายหาดแห่งนี้ทั้งหมด แต่ได้ข่าวว่ามีอีกโรงแรมที่สร้างอีกฝั่งเหมือนกันนะ ไว้มีเวลาจะเขียนที่พักทั้งหมดที่อยู่บนเกาะค่ะ ไปถ่ายรูปมาเกือบทั้งหมดเลย
จัดมื้อเที่ยงกันที่นี่เลย เราสั่งผัดไทย 150 บาท นะคะจานนี้เกาะไหงแฟนตาซีรีสอร์ท มีพื้นที่ใหญ่มาก มีชายหาดที่สวยงาม เก้าอี้ผ้าใบสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสมาก เป็นภาพที่ยังติดตาตรึงใจเราอยู่ถึงตอนนี้เห็นสีของน้ำทะเลกันมั้ย ประหนึ่งแบ่งเลเยอร์ความใส
ไปดูห้องพักของเรากัน จะใช่ห้องนี้มั้ยนะ พูลวิลล่าเท่านั้นที่เราคู่ควร Ocean Front Pool Villa (9,750 – 18,857) แต่เต็มเลยอดพักห้องนี้ (จริงคือไม่มีเงินย่ะ) ห้องวิวดีที่สุดหมายเลข 999
ห้องพักที่เกาะไหงแฟนตาซีรีสอร์ท มีหลายแบบมากๆ ถ้าเขียนตอนนี้ไม่จบแน่นอน งั้นไปดูห้องเราเลยดีกว่านะคะห้องนี้เลยห้องนี้ราคาคืนละ 2,396 บาท รวม vat โน่น นี่ นั่น เย่ๆ ได้นอนห้องแอร์แล้ว เมลลี่กล่าว แต่จะไม่ได้วิวทะเลใช่มั้ย งั้นแนะนำห้องนี้เลยอยู่ตรงข้ามกับห้องของเราค่ะ ตอนแรกเห็นปุ๊บอยากจะขอเปลี่ยนห้อง แต่ราคาก็สองเท่าเลย สรุปนอนห้องเดิม!แต่ห้องนี้วิวดีจริงๆ นะ ใจนึงก็อยากเปลี่ยนห้อง แต่พอดูเงินในกระเป๋าแล้วเดินกลับห้องตัวเองเหอะมุกเอ๊ย 55อย่างงว่าไม่ได้พักเข้าไปได้ด้วยเหรอ คือไปขออนุญาตเข้ามาถ่ายรูปมารีวิวให้พวกนายดูนั่นแหละ เห็นมั้ยต้ังใจแค่ไหน ^^
ตรงนี้มุมชิลล์สาธารณะมานั่งได้ไม่ได้อยู่หน้าห้องใครค่ะสิ่งที่ชอบมากๆและเห็นว่าโรงแรมนี้เหมาะกับครอบครัวคือ สไลเดอร์ที่วิวดีที่สุดตั้งแต่เคยเล่นมา เมลลี่กล่าว บรรยากาศตอนเย็นที่เกาะไหงแฟนตาซีรีสอร์ท คนเริ่มออกจากห้องมาพายคายัค เล่นน้ำ กันสนุกสนาน
ไปเล่นสระว่ายน้ำกันต่อ แต่สระที่นี่อยู่ไกลมาก ทางเข้าประหนึ่งบาหลีเลยนะ คนละแนวกับด้านหน้าเลย สระไกลจากผู้คนและทะเล แถมสระเล็กไปนิด
ไปส่องห้องพักด้านบนกันหน่อย เคยอ่านรีวิวมาบอกว่าเดินกันปวดขา ใครจะจองที่นี่เช็คดูให้ดีนะคะว่าเป็นด้านบนหรือเปล่า เผื่อมีเด็ก คนแก่ มาพักด้วย
ห้องแบบอื่นๆกลับไปอาบน้ำแต่งตัว ไปทานมื้อเย็นกันค่ะ
บรรยากาศหลังพระอาทิตย์ตกดิน ชายหาดกลับมาเงียบสงบไร้ผู้คน เค้าไปไหนกันหมด อ๋อ…ก็อยู่ห้องอาหารสิเธอ เห็นโต๊ะเก้าอี้ว่าง มุมดี๊ดี แต่พอไปถึงพนักงานบอกว่าจองไว้หมดแล้ว เศร้า โซนร้านกาแฟยังมีคนจองมองหน้ากันเอาไงดี สรุปเดินเล่นไปเรื่อยๆ ไปหากินเอาดาบหน้าเดินไปไม่ไกลค่ะ เจอกับร้านอาหารของโรงแรม มายาเล วิวดีคนยังไม่เยอะมีที่ว่างจัดไป
เราสั่งเป็นชุดบาบีคิวปิ้งย่างชุดละ 420 บาท มีอาหารอีก 2-3 อย่าง ถ่ายรูปไม่ได้แสงน้อยค่ะ โดยรวมใช้ได้ราคาก็ตามสมควรมื้อนั้นจ่ายไป 1,500 บาท รวมเครื่องดื่มเบียร์ 3 ขวด ขวดละ 150 บาท
__________________
DAY 3
เช้าวันสุดท้ายเราจะไม่พลาดแสงแรกแล้วล่ะ หลังจากที่คืนก่อนหลับไร้สติตื่นอีกทีฟ้าแดดเปรี้ยงแล้ว
ลูกกับสามียังคงหลับไหล เราเด้งออกมาจากเตียงสะพายกล้องไปที่ชายหาด ทันเวลาพอดี สวัสดีพระอาทิตย์ เดินไปถ่ายโรงแรมใกล้ๆ ธันยาบีชรีสอร์ท โรงแรมนี้ก็น่าพักนะไว้จะมารีวิวค่ะ
ในส่วนของอาหารเช้าที่โรงแรมนั้น ไม่มีอะไรน่าจดจำ เฉยๆ ไม่มีอะไรอร่อยเลย ขนาดขนมปังยังไม่อร่อย โรงแรมดี วิวดี แต่อาหารเช้าไม่อร่อยถามสมาชิกในทริปตอบเป็นเสียงเดียวกัน ขนาดน้ำสับปะรดยังไม่อร่อยเลย (น้ำสับปะรดที่เกาะมุกชาลีบีชอร่อยมาก)เด็กเมลลี่ไม่รู้จะกินอะไร ขอชงกาแฟให้พ่อ (หัวหนูขายกิ๊บเหรอคะลูกมาทั้งแผง)
โรงแรมส่วนใหญ่ในทะเลตรังเช็คอิน 14.00 น. เช็คเอ้าต์ 11 โมง แป๊บเดียวได้เวลาต้องกลับแล้ว บ๊ายบายน้ำใสๆ แล้วเราจะคิดถึงเธอนะกลับมาที่เรื่องเรือค่ะ เราตกลงกับ ตรังทัวร์ดอทคอมไว้ในราคา 1,500 บาท แต่เรือที่มารับกลับเป็นเรือลำเล็ก การเดินทางกลับฝั่งในวันที่คลื่นลมแรงเราไม่อยากเสี่ยง ขนาดลำใหญ่กว่าในวันแรกยังน่ากลัว เลยโทรกลับไปหาคุณอเล็กซ์ คุณอเล็กซ์ก็ดี๊ดีแสดงความรับผิดชอบบอกว่าไม่ต้องจ่ายค่าเรือ เราเห็นว่าไม่ควรที่จะนั่งฟรี เลยให้คนขับเรือไป 1,000 เท่ากับลดไป 500 บาท ตรงนี้ขอชมเชยใครอยากเหมาเรือก็ติดต่อตรังทัวร์ดอทคอมได้เลยค่ะหากลับแวะมาเช็คอินที่สถานรถไฟที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดอีกแห่งในสายใต้ สถานีรถไฟกันตัง สถานีสุดท้ายสุดฝั่งอันดามัน
เด็กน้อยกับรถไฟเป็นของคู่กัน “คุณแม่นั่งรถไฟๆ”
พาขึ้นไปนั่งสักแป๊บก่อนรถไฟจะเคลื่อนขบวน ไว้แม่จะพานั่งรถไฟเที่ยวนะคะลูก
“ส ถ า นี รั ก “
ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟกันตัง ด้านในคนเยอะมากแอร์เย็นฉ่ำ เครื่องดื่มราคา 35 – 60 บาทค่ะ เราจัดมะม่วงเขาปั่น เป็นมะม่วงเขียวๆ เปรี้ยวสะใจดี ออกจากสถานีรถไฟกันตังประมาณเกือบบ่ายโมงแล้ว ขับรถเข้าเมืองเพื่อจะไปกินขนมจีนเจ้ปุ้มเจ้าดัง แต่ลืมไปว่าเค้าปิดแล้ว ก็เลยขับวนๆ แถวนั้น ที่มีบึงบัวแถว กะพังสุรินทร์ แถวนี้มีร้านอร่อยเยอะนะคะ จัดส้มตำอีสานไปแซบมาก กำลังยกกล้องจะถ่ายรูปเกรงใจสมาชิก ทำหน้าหิวแทบจะกินจานได้แล้ว
อิ่มแล้วไปเช็คอินต่อที่หอนาฬิกา กลางคืนที่นี่สวยมาก ก่อนจะกลับแวะไปซื้อเค้กเมืองตรังของฝาก ที่ร้านโกป๊อก ร้านนี้ไม่ใส่สารกันบูด เค้กส้มอร่อยเลิศ ล้อหมุนออกจากเมืองตรังตอน 15.30 น. ถึงกรุงเทพประมาณเกือบๆ ตี 1 ค่ะ ถือว่าทำเวลาดีมากถนนโล่งๆ
ทริปนี้เป็นอีกทริปที่พาเมลลี่ไปผจญภัย หลายคนเห็นแบบนี้อาจจะแอบเป็นห่วงว่าลูกจะป่วยหรือเปล่า ครอบครัวของเราพาไปด้วยแบบนี้บ่อยๆ ทุกเดือนค่ะ เมลลี่ไม่เคยป่วยเลย ออกจะลั้ลลาพูดถึงทริปอย่างสนุก ^^
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้
ค่าน้ำมัน 2,950 บาท
ค่าอาหารเช้าวันแรก 340 บาท
ค่าอาหารเย็นวันแรก 730 บาท
ค่าอาหารเย็นวันที่สอง 1,500 บาท
ค่าที่จอดรถ 100 บาท
ค่าเรือเหมาดำน้ำ 3,000 บาท (ลดจากตอนแรก 4,500 ที่จะไปเกาะรอกแล้วไม่ได้ไป)
ค่าเรือจากเกาะมุก – เกาะไหง 1,000 บาท
ค่าเรือเกาะไหง – กลับฝั่ง 1,000 บาท
ค่าส้มตำวันกลับ 1,140 บาท
ค่าที่พักสองคืน 7,643 บาท
รวมทั้งสิ้น 11,760 บาท หาร 4 ตกคนละ 4,850 บาท
**ราคาเรือขึ้นอยู่กับการต่อรองและช่วงเทศกาล**
จริงๆ นอกจาก 3 เกาะที่เราแนะนำแล้ว ตรังยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งเลยค่ะ และห้องพักก็ราคาไม่แพง ลองจองที่พักตรัง ออนไลน์กับ Traveloka กันค่ะ ราคาเด็ดจริง ถ้าจะให้ถูกลงก็ลองจองผ่านแอปค่ะ ลองเปรียบเทียบราคาดู อย่าลืมดูโปรเค้าด้วยนะ ออกมาเยอะเกือบทุกสัปดาห์เลยที่เดียว ส่วนใหญ่ที่เห็นลดจากค่าที่พักไปเกือบ 300-600บาทเลยทีเดียว
ถ้าเราหาที่พักได้ถูก ราคาก็จะประหยัดไปได้มาก หรือหากมีโปรดีๆ จากสายการบินก็เซฟได้เยอะเลย ลองไปดูค่ะ
แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า ^^