ญี่ปุ่น…เป็นอีกประเทศที่แม่ไข่ไปหลายครั้ง (และคิดว่าคงต้องอีกหลายรอบ) แต่ละครั้งก็ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เที่ยวในที่ที่ไม่ซ้ำกันเลย อย่างเช่นทริปล่าสุดมีโอกาสได้ไปเที่ยวโซนเกาะของญี่ปุ่นบ้าง จะสนุกแค่ไหน ใครมีแพลนจะไปโซนนี้เซฟหรือแชร์รีวิวนี้เก็บไว้ได้เลยนะ
ทริปนี้เราเดินทางไปลงที่สนามบิน Fukuoka ที่ตอนนี้มีหลายสายการบินให้บริการใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงก็ถึงค่ะ ทริปนี้เราไป 5 จังหวัด ได้แก่ Yamaguchi , Hiroshima , Ehime , Oita, Fukuoka แม่ไข่ขอรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละจังหวัดให้เพื่อนๆ เป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวกันนะคะ ซึ่งแผนที่ในการเดินทางจะเป็นการเที่ยวแบบขับรถ ลงเรือ
จังหวัด Yamaguchi
ข้อมูลพื้นฐาน : จังหวัดยะมะงุชิ (Yamaguchi) ตั้งอยู่ทางฝั่งปลายสุดตะวันตกของเกาะฮอนชู (Honshu) เป็นจังหวัดที่มีภูมิอากาศอบอุ่น นอกจากนี้ยังมีเสน่ห์ดึงดูดด้วยทิวทัศน์สวยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพทางธรรมชาติอย่างแนวฝั่งทะเลกว้างใหญ่งดงาม ที่ราบสูงอันสวยแปลกตาด้วยลักษณะภูมิประเทศแบบคาสต์ (Karst Plateau) อีกทั้งสะพานเก่าแก่และทันสมัยสวยๆ มากมาย
การเดินทาง : จากฟูกุโอกะ เดินทางด้วยรถไฟใช้เวลาเร็วสุด 1 ชั่วโมง 44 นาที เช่ารถขับประมาณ 2 ชั่วโมง
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัด Yamaguchi
Karato Market
ที่จังหวัดยะมะงุจิ เป็นจังหวัดติดทะเลที่ขึ้นชื่อเรื่องปลาปักเป้า ถึงขนาดมีรูปปลาปักเป้าตัวใหญ่ตั้งอยู่
ตลาดปลาคะระโตะ ตั้งอยู่ที่เมืองชิโมะโนะเซะกิ (Shimonoseki) เป็นเมืองติดทะเลอยู่ในจังหวัด (Yamaguchi) ที่ตลาดปลาแห่งนี้นอกจากจะมีขนาดใหญ่ เปิดขายพืชผัก ผลไม้และเนื้อต่างๆทั่วไปแล้ว เอกลักษณ์เด่นของที่นี่คือ มีการขายซูซิมากมายหลากหลายหน้า
และไฮไลต์คือปลาปักเป้าสดๆ ที่ต้องชิมเลยนะ
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/fusTVqhni352
สวนผลไม้ “Hana no Umi”
สวนผลไม้ที่มีให้ชิมตลอดทั้งปีเป็นสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มีผลไม้ เช่น สตรอเบอร์รี ลูกพลับ แอปเปิ้ล ราคาเริ่มต้นคนละ 600 เยน สามารถชิมได้ไม่อั้น ฟินตรงเก็บสดๆ กินสดๆ หวานฉ่ำนี่แหละ แถมลูกใหญ่มากกกกก
ด้านนอกมีแปลงดอกไม้ มีสัตว์เลี้ยง และคาเฟ่ด้วยนะ 
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/bxe7QMV7LMn
Yanai
เราชอบจังหวัดนี้นะคะ โดยเฉพาะที่เมืองแห่งการทำปลาทองเงียบสงบน่าเที่ยว ทุกบ้านจะแขวนโคมไฟปลาทองไว้ที่หน้าบ้าน และในทุกปีก็จะมีการจัดงาน “เทศกาลแห่โคมปลาทอง (Goldfish Lantern Festival)” บนถนนหน้าสถานีรถไฟ Yanai Station เป็นงานเทศกาลที่น่าสนใจมากๆ
นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้การทำปลาทองด้วยตัวเอง
มีหลายสีด้วยนะ
และยังได้เรียนรู้การทอผ้าแบบโบราณฉบับญี่ปุ่นด้วยค่ะ
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/bxe7QMV7LMn
จังหวัด Hiroshima
ข้อมูลพื้นฐาน : ฮิโรชิมะ ถูกขนานนามว่าเป็น เมืองแห่งน้ำ เพราะมีแม่น้ำใสสะอาดไหลผ่านถึง 6 สาย เป็นจังหวัดที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทั้งทางตะวันตกติดทะเลเซะโตะในและทางตะวันออก-เหนือติดภูเขา โดยตั้งอยู่ใน ภูมิภาคจูโกกุ ที่นี่เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านอุตสาหกรรมและการค้าขายมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง
การเดินทางไปฮิโรชิมะ :
(1) จากโตเกียว :
จากสถานี Tokyo -> สถานี Hiroshima ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
(2) จากโอซาก้า :
จากสถานี Shin- Osaka -> สถานี Hiroshima ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
(3) ฟูกุโอกะ :
จากสถานี Hakata -> สถานี Hiroshima ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
Kumano’s makeup brush
จังหวัดฮิโรมะเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำแปรงแต่งหน้า พู่กันต่างๆ หลากหลายแบรนด์ เช่น Shiseido , RMK, KAMA ฯลฯ สาวๆ นี่ต้องไปเลยนะ เพราะว่าเราจะได้เห็นวิธีการทำแปรงแต่งหน้า เข้าใจแล้วว่าทำไมราคามันสูงเพราะการทำปราณีตมากกก กว่าจะได้แต่ละอันงานทำมือนะจ๊ะ ขนแปรงทำมาจาก แพะ ม้า อีเห็น และขนสัตว์อีกหลายชนิดเลย
Kakigoya
ที่นี่คือร้าน Oysters House ชื่อดังในเมืองฮิโรชิมะ จุดเด่นคือหอยนางรม ใหญ่ๆ ปิ้งย่างสดๆ แกล้มเบียร์เย็นๆ อ๊ากกกดี
โดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome)
อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะเป็นอาคารที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางการระเบิดมากที่สุดในบรรดาอาคารที่ยังตั้งทนต่อแรงระเบิด ตัวอาคารได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพหลังจากถูกระเบิด ปัจจุบันได้กลายเป็นอนุสรณ์เตือนให้ระลึกถึงพลังทำลายล้างของระเบิดปรมาณู และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในสันติภาพและการต่อต้านการใช้อาวุธปรมาณู
Orizuru tower
เป็นร้านขายของที่ระลึกอยู่ตรงข้ามกับโดมสันติภาพที่นี่มีสินค้าหลากหลายมากให้น่าเสียเงิน แต่ที่โดดเด่นที่สุดในร้านคือสินค้าที่เป็นรูปนกกระเรียน สัญลักษณ์แห่งเสรีภาพนั่นเอง
กล่องนี้เป็นขนมอร่อยเลยนะ
ชิมอาหารขึ้นชื่อ “โอโคโนมิยากิ”
จำถนนสายนี้ไว้ด้านหน้าคือมีห้างดองกิ แล้วเดินไปที่ตึกซ้ายมือกดลิฟต์ไปที่ชั้น 4
จะพบกับความอร่อยหลากหลายเลือกนั่งได้ตามใจชอบ
เมนูนี้คือ โอโคโนมิยากิ หรือพิซว่าสไตล์ญี่ปุ่นเป็นเมนูเด็ดของฮิโรชิมะเลยต้องไปชิม ความเพลินก็คือเรานั่งจิบเบียร์ไปมองอาหารไป จะเห็นตั้งแต่ว่าใส่ผักอะไรลงไปบ้าง
คือเยอะมากกก กินคนเดียวไม่หมดเอาจริงๆ
Hiroshima Washington Hotel
แนะนำโรงแรมในฮิโรชิมะที่ติดถนน เดินทางสะดวกห้องดีอาหารเช้าเริ่ด
IROHA Village Fujiya
ที่นี่เป็นโรงงานขนม Momiji Manju (โมมิจิ มันจู) หรือขนมใบเมเปิ้ล เป็นขนมขึ้นชื่อของจังหวัดฮิโรชิมะ โรงงานนี้ปลูกวัตถุดิบเอง เช่น ต้นข้าวสาลีที่อยู่ด้านหน้า ขนมีหลายไส้ให้เลือก ได้แก่ ถั่วแดง (ต้นตำรับ) คัสตาร์ด ชาเขียว ช็อกโกแลต แพคเก็จน่ารักซื้อเป็นของฝากได้เลย
The Outlets Hiroshima
งานช้อปต้องไป บอกเลยว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าราคาดี ไปส่องมาพวกเสื้อกันหนาว โค้ช วูล ผ้าดีๆ ราคาไม่ถึงพันนะ รองเท้าก็หลักพันต้นๆ
และอย่าลืมลงไปดูตรง Food court มีสินค้าพื้นเมือง ของกิน ที่น่าซื้อกลับแหล่งรวมของดีของจังหวัด รวมทั้งงานแฮนด์เมด สวยๆ งามๆ อยู่ที่นั่นเลย
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/AJTMan1Krm32
จังหวัด Ehime
ข้อมูลพื้นฐาน :
จังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime) ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) จังหวัดเอะฮิเมะตั้งอยู่ส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของภูมิภาคชิโกะคุ โดยชื่อเอะฮิเมะนี้มีความหมายว่า “เจ้าหญิงผู้อ่อนหวาน” มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี และมีธรรมชาติมากมายล้อมรอบไปด้วยทะเลเซะโตะ
Matsuyama Shopping Street
สายช้อปปิ้งต้องไป เพราะเป็นถนนที่รวมร้านค้าไว้มากมาย
Iori Matsuyama
ร้านนี้เป็นร้านที่เน้นงานแฮนเมดด์ งานหัตถกรรม สินค้าชื่อดังคือ ผ้าขนหนผ้าเช็ดหน้า สินค้าเด็กก็เยอะนะคะ จริงๆ คือรวมของดีมาไว้ร้านนี้เลยล่ะ
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/h7Pvf3GVTfK2
Ehime no Kanko Bussankan
ร้านขายผลิตภัณฑ์จังหวัดเอะฮิเมะสำหรับนักท่องเที่ยว ร้านจะเป็นป้ายส้มๆ ซึ่ง ส้ม เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองนี้ด้วยค่ะ ร้านนี้มีตู้กดน้ำส้มให้ชิม มีน้อง Mican ตุ๊กตาส้มน่าร้ากกกมากก และสินค้าน่ารักๆ อีกเยอะเลย ทั้งเสื้อ ตุ๊กตา สมุด รวมทั้งของกินก็มีให้ช้อป
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/SdyZpAahSMS2
10 Factory
คาเฟต์ส้มสดๆ จากสวน พนักงานจะคั้นสดๆ ให้เราชิมเลยค่ะ มีส้มทั้งหมด 6 สายพันธุ์ รสชาติก็แตกต่างกันชอบเปรี้ยว หวาน ก็บอกได้เลย นอกจากนั้นในร้านยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากส้ม เช่น dressing , jelly , citrus vinegar
Goshiki Somen
ร้านอาหารที่อยากแนะนำ มีเมนูเด็ดเยอะเลยนะหน้าร้านสวยโดดเด่นหาไม่ยากค่ะ
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/Rspfbe8cZzz
ANA Crowne Plaza
โรงแรมสวย ห้องกว้างขวาง และถูกใจที่สุดคือห้องอาหารที่สามารถชมวิวสวยๆ ได้ด้วย
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/u35dbxCfmuw
จังหวัด Oita
ข้อมูลพื้นฐาน : เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อน เมืองชื่อดังคือ Beppu 
Umi Jigoku
ทัวร์บ่อนรก Beppu Jigoku Meguri หรือ Hell Tour ชื่อเรียกอาจจะฟังดูน่ากลัวหน่อยๆ แต่บ่อนรกที่เรียกกันนี้ แท้จริงก็คือ “บ่อน้ำพุร้อน” นั่นเอง
บ่อนรก Beppu Jigoku Meguri มีทั้งหมด 8 บ่อหลักๆ (บางบ่อหลัก จะมีหลายบ่อเล็กๆ ในบริเวณนั้น) ซึ่งบ่อน้ำพุแต่ละบ่อก็จะมีลักษณะและจุดเด่นแตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ด้วยแร่ธาตุที่แตกต่างกันจึงทำให้น้ำพุร้อนในแต่ละบ่อมีสีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราได้ไปไม่ครบทุกบ่อนะคะ รอบหน้าต้องจัดทั้ง 8 ให้ได้ ที่ชอบสีที่สุดคือบ่อนี้ Umi Jigoku 
บ่อน้ำพุร้อนสีฟ้า ลึกประมาณ 200 เมตร อุณหภูมิร้อนถึง 98 องศาเลย
Kamado Jigoku
เป็นบ่อที่ลักษณะสีเหมือนโคลน มีหลายบ่อในที่เดียวกัน ได้แก่ บ่อฟ้า บ่อแดง บ่อโคลน บ่อทั้งหมดขนาดไม่เท่ากันและสามารถเดินถึงกันได้
บ่อนี้มีการแสดงด้วยนะ 
สามารถไปนั่งแช่เท้าได้
หรือจะแวะทานไข่ต้ม ข้าวโพด ที่ใช้ความร้อนจากบ่อมาทำให้สุก
Chinoike Jigoku
บ่อนี้จะอยู่ไกลจากบ่อแรก จริงๆ เขาบอกว่าเป็นสีแดง แต่เรามองว่าเป็นสีส้ม น้ำในบ่อมีสีส้ม อุณหภูมิ 78 องศาเซลเซียส บ่อนี้มีอายุเก่าแก่มากที่สุด มากกว่า 1,300 ปี จุดนี้มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติด้วย
สามารถเอาเหรียญสกปรกๆ ไปแช่แป๊บเดียวก็สะอาด
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/uHeg3oFqiEM2
Tatsumaki Jigoku
บ่อนี้จะเป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งออกมาจากใต้ดิน มีจุดให้นั่งชมโชว์ด้วยนะ
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/VkgEGtWqWiD2
ร้าน Okamotoya
ร้านขายพุดดิ้งที่ดังที่สุด อร่อย วิวสวย 
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/toXf2hFtxT62
Hell Streamed Gourmet
ร้านอาหารที่ใช้ความร้อนจากไอน้ำในการทำให้อาหารสุก ร้านนี้อร่อยดีค่ะ ซึ่งเราจะได้ทดลองนำอาหารไปลงในบ่อด้วยตัวเองด้วย
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/s6CTviVTxf42
Beppuwan Hotel
ยกให้เป็นโรงแรมที่ชอบที่สุดในทริปนี้ เป็นโรงแรมใหญ่ อย่างแรกติดทะเล วิวสวย ห้องกว้างมากกกก อุปกรณ์ในห้องมีให้เยอะมาก ตื่นเต้นสุดก็ต้องห้องคิดตี้นี่แหละ
ห้องอาหารเช้าที่วิวทะเล
มื้อเย็นแนะนำที่ห้องอาหารของโรงแรมอาหารอร่อยมากกก
แผนที่ GPS : https://goo.gl/maps/ZGEgF4QHVVF2
จังหวัด Fukuoka
ข้อมูลพื้นฐาน : เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคิวชู และใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศญี่ปุ่น
Dazaifu Tenmangu Shrine
หรือศาลเจ้าเทนมากุที่ดาไซฟุ ถือว่าเป็นศาลเจ้าเทนมานกุที่มีชื่อเสียงติดหนึ่งในสองจากบรรดาศาลเจ้าเทนมากุนับพันๆแห่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ ส่วนใหญ่นักเรียนจะมาขอพรเรื่อง การเรียน การสอบ จะบอกว่าที่นี่มีของกิน ร้านเด็ดๆ เยอะมากกก 
ขนม Umegae-Mochi เป็นขนมขึ้นชื่อเวลาไปศาลเจ้าดาไซฟุ เป็นขนมโมจิที่นำไปปิ้งให้ด้านนอกเหลืองกรอบ
ก่อนเข้าไปในศาลเจ้าต้องชำระมือให้สะอาดก่อน ด้วยการใช้กระบวยตักน้ำมาราดแขนซ้ายขวา จะมีวิธีการบอกไว้อยู่ค่ะ
เซียมซี
ส่วนใหญ่คนที่แขวนคือได้คำทำนายไม่ค่อยดีนัก ถ้าดีก็เอาใส่กระเป๋ากลับด้วย
ไอศกรีมหลากรสชาติให้เลือก อย่างอันนี้คือ มันม่วง กับบ๊วย อร่อยดีค่ะ
ร้านขนมอื่นๆ ที่นี่เยอะมาก เอาเป็นว่าเตรียมเงินไปเยอะๆ เพราะจะสนุกกับการกิน
Kushida Jinja
เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองฟูกุโอกะเลย ใครมาที่นี้มักขอพรเรื่องสุขภาพ ความสำเร็จในธุรกิจและการงาน
Hotel Sunroute
โรงแรมที่ตั้งอยู่ใจกลางฟูกุโอกะ เดินทางสะดวกติดรถไฟฟ้า
ช้อปปิ้งที่ฟูกุโอกะต้องไปที่สถานี Tenjin มีร้านเยอะมาก
อาหารการกินก็เพลินไม่ว่าจะเป็น street food หรือข้าวหน้าไข่ปลาแบบนี้
เรือเฟอร์รี
อย่างที่เล่าตอนต้นว่าทริปนี้นอกจากจะนั่งรถแล้ว การเดินทางที่สำคัญในภูมิภาคนี้คือการนั่งเรือเฟอร์รี่ เราเดินทางโดยใช้เรือสองรอบได้แก่
จากจังหวัดฮิโระชิมะ ไปจังหวัดเอะฮิเมะ และ
จากจังหวัดเอะฮิเมะไปจังหวัดโออิตะ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ค่าเรือประมาณ 3100 เยน
บนเรือคือสบายมากกก จะนั่ง จะนอน จะกิน เล่นเกมมีครบเลย ดี พอๆ กับการนั่งเรือสำราญเลยล่ะ ต่างกันแค่ไม่มีโชว์ให้ดูเท่านั้นเอง
การเที่ยวโซนเกาะก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ คนละเรื่องกับการเที่ยวโตเกียว หรือเมืองอื่นๆ ที่เคยไปเลยนะ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอนนี้คนไทยไม่ค่อยเยอะด้วยค่ะ
เที่ยวญี่ปุ่นให้สนุกต้องรู้ร้านค้าปลอดภาษีและแหล่งช้อปปิ้ง >>https://tax-freeshop.jnto.go.jp/tha/index.php
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.or.th/
