เที่ยวแบบกรู >> พาลูกไปเที่ยวกับโรงแรมที่ควรค่าแก่การไปพักผ่อนสักครั้งที่หัวหินค่ะ
Veranda Resort Hua Hin – MGallery Collection ชื่อยาวมาก เป็นโรงแรมที่อยู่ในลิสต์ที่ครอบครัวของเราอยากไปพักสักครั้ง ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องชายหาดส่วนตัวที่เงียบสงบ ห้องพักที่สบายคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย และที่สำคัญบ้านไหนมีเด็กด้วยล่ะก็จะชอบสระว่ายน้ำของที่นี่มาก ตอนนี้ทางวีรันดาได้เปิดโซนใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ตามไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
Veranda Resort Hua Hin จะอยู่ระหว่างชะอำกับหัวหินจริงๆ คือค่อนไปทางชะอำเล็กน้อย เราว่าทำเลค่อนข้างดีเนื่องจากไม่ได้อยู่ในเมืองที่คนพลุกพล่านจนเกินไป จองที่พักไว้ดิบดีแล้วแต่พอวันเดินทางคุณสามีกลับติดงานด่วนขึ้นมาเราก็เลยต้องเดินไปล่วงหน้าไปคนเดียวก่อน ถือว่ามีเวลาส่วนตัวสักครึ่งวัน ดี๊ดี
ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงนิดๆ เราก็เดินทางมาถึงโรงแรมตรงเวลาเช็คอินตอนบ่าย 2 พอดีเป๊ะ คือมีความตื่นเต้นและก็อยากมาพักผ่อนให้คุ้มค่าที่สุดนั่นเองค่ะ
ร่มรื่นตั้งแต่ด้านหน้าเลยค่ะรายล้อมด้วยต้นมะพร้าว ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวเกาะเล็กๆ
บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ซึ่งตกแต่งในสไตล์ Hip Boutique resort ผสมกับความโมเดิร์นแบบเอเชีย ว้าววว อยากจะกระโดดน้ำขึ้นมาเลยล่ะค่ะ แต่ช้าก่อน! ตรงนี้ไม่ใช่สระว่ายน้ำนะ สระว่ายน้ำเดินไปอีกค่ะ
เดี๋ยวตอนเย็นค่อยเดินไปดูดีกว่าตอนนี้อยากเข้าไปดูห้องใหม่แล้วสิคะ โซนใหม่จะอยู่ตึกด้านหลังเราไม่มีภาพประกอบให้ดูเนื่องจากว่าวันที่ไปตึกยังไม่เสร็จเรียบร้อยอยู่ในขั้นตอนเก็บรายละเอียดอีกเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปดูห้องกันเลยค่ะ
ห้องนี้เป็น Pool Suite ว้าววเลย คือห้องกว้างขวางมีเตียง King Size มีมุมนั่งพักผ่อนดูทีวี
สนุกสนานกับการลองเปิดปิดไฟว่ามีกี่แบบนี่แหละค่ะ โดยส่วนตัวชอบสีม่วงเป็นพิเศษ
ห้องสีขาว โล่งๆ สบายตาทำให้รู้สึกรีแลกซ์ สำหรับเราไม่ต้องตกแต่งเยอะขอแค่กว้างๆแบบนี้ใช่เลยค่ะ
ขวามือจะมีโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ พร้อมกาต้มน้ำ ผนังห้องตกแต่งด้วยปลา เป็นเทกเจอร์ที่เก๋มาก
เปิดลิ้นชักออกมาเจอยากันยุงกับปลั๊ก
มุมแต่งตัวพร้อมกระจกบ้านใหญ่และนี่คือห้องน้ำ ว้าวววมาพร้อมอ่างล้างหน้าที่แบบไ่ม่ต้องยืนเบียดกัน และอ่างอาบน้ำที่เหมาะแก่การนอนแช่ชมวิวสระว่ายน้ำและทะเลที่อยู่เบื้องหน้าส่วนของ shower ที่ไม่มีส่วนกั้นทำให้เวลาอาบน้ำอาจจะทำให้เปียกไปถึงด้านนอก ที่ชอบมากในห้องน้ำคือน้ำอุ่น น้ำร้อน เราสามารถปรับได้ง่ายมีปุ่มแยก ซึ่งเราจะมีปัญหามากกับการเปิดน้ำอุ่นน้ำร้อน ถ้าแยกกันแบบนี้เพียงแค่หมุนๆ จบเลย
ครีมอาบน้ำ แชมพู คอนดิชันเนอร์ กลิ่นตะไคร้หอมทั้งหมด
กลับเข้ามาในห้องของตกแต่งที่เด่นที่สุดก็จะมีแค่กรอบรูป
เอ๊ะ ! นั่นอะไรนะที่ห้อยเอาไว้
ถุงผ้ายาวๆ คือแผ่นรองนั่ง ส่วนอีกถุงก็คือโดมิโน สนุกล่ะคืนนี้มีอะไรเล่นแล้วอีกมุมที่ชอบคือมุมนั่งเล่นมุมนี้ สามารถเปิดหน้าต่างบานนี้นั่งมองทะเลได้ด้วยค่ะไฮไลต์ของนี้ก็คือนี่เลย สระว่ายน้ำ ยะฮู้ๆๆ อยากจะร้องว่ามีความสุขมากกกค่ะ
จะว่ายน้ำ จะนั่งห้อยขา จะนอนเอกเขนกชมวิวพักสายตา คือจะทำอะไรก็ได้เพราะห้องนี้เป็นของเราแล้ว
ลั้ลลาอยู่คนเดียวจนเย็นๆ ได้เวลาไปสำรวจโรงแรมกันค่ะ
ระหว่างเดินไปสระว่ายน้ำก็จะผ่านอาคาร 2 สองฝั่งที่จะได้วิวสระตรงกลางโรงแรม
ฝั่งนี้ได้วิวสนามหญ้าสีเขียวกว้างๆ แสงตอนเย็นทอดผ่านมารำไร ชอบเวลาแบบนี้จังน่าวิ่งไล่จับกับเด็กหัวหยองมากๆ เดินต่อไปก็จะเจอกับสระว่ายน้ำกว้างขวาง อยากจะวิ่งแล้วกระโดดตูม! แต่อย่าเลยเดี๋ยวจะตกใจกันทั้งโรงแรม
อยากจะเล่นน้ำแต่รอเจ้าตัวเล็กกับคุณพ่อมาดีกว่า ระหว่างนี้ก็เดินเล่นริมหาด นั่งชมวิวไปเพลินๆ
ห้องอาหาร I-SEA
Beach Bar & Restaurant
เป็นห้องอาหารที่เปิดบริการสำหรับมื้อเย็นโดยเฉพาะ เพราะที่นี่จะได้ความโรแมนติกริมทะเล อากาศเย็นสบาย ออกแบบในคอนเซ็ปต์ Cool Beachfront Restaurant ห้องอาหารทรงโมเดิร์น มีลานกว้างสีเขียวสบายตาเหมาะแก่การนั่งพักผ่อน โซนนี้สามารถจัดเป็นไพรเวทปาร์ตี้เบาๆ ได้เลยนะ
หรือจะนอนมองฟ้ามุมนี้ก็ดีงาม
เวลาผ่านไปเร็วมาก แป๊บเดียวก็เริ่มจะมืด
อยากจะเก็บช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ไว้นานแสนนาน
บรรยกาศริมชายหาดบ้างก็เล่นโยคะท่ายากด้วยสิ
บ้างก็ถ่ายรูปเล่น ส่วนเราแค่ได้มองก็มีความสุขแล้วค่ะ
ขอไปเลือกมุมสำหรับดินเนอร์กันก่อน ภายในห้องอาหาร I-SEA ซึ่งรีบมีลูกค้าเข้ามานั่งตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าการตกแต่งภายในมีความโมเดิร์น พร้อมกระจกรอบทิศทางสามารถเปิดรับลมทะเลได้
มุมชิลล์สุดคือริมทะเล แนะนำให้ไปสัก 5-6 โมงเย็น หากมืดค่ำยุงก็เยอะทีเดียวเก็บภาพประทับใจใกล้มืดรัวๆ เลยล่ะค่ะ
หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแสงไฟจากห้องอาหารก็พร้อมใจกันทำงาน แสงไฟตกกระทบกับสระน้ำเป็นภาพที่สวยงามมาก
ช่วงเวลาที่สวยที่สุดและต้องรีบเก็บภาพให้เร็วที่สุดก็คือช่วงของแสงสีน้ำเงินนี่แหละค่ะพระจันทร์ก็โผล่มาให้เห็นบนยอดไม้พอดี
หันไปทางฝั่งโรงแรมก็สวยงามไม่แพ้กัน
เมื่อความมืดมิดเข้ามาเยือน เรากลับไปยังห้องอาหารอีกครั้ง มาคนเดียวแบบนี้ไม่รู้จะสั่งอะไรเลยจริงๆค่ะ แต่หิวแล้วสิ พนักงานแนะนำว่า พิซซ่า เป็นเมนูแนะนำ งั้นก็คงต้องจัดพิซซ่าแล้วสินะคนเดียวจะหมดมั้ย เครื่องดื่มแก้วนี้ชอบมากๆ ฟินมากๆ Mango Smoothie 180 บาท แก้วนี้เนื้อเน้นๆ จริงๆค่ะ คือถ้าอร่อยมากราคาขนาดนี้คือยอมจ่ายแบบไม่เสียดายเงินเลย
Marinara 330 บาท พิซซ่าชาโคลซีฟู้ดแผ่นบาง ชีสเยิ้มๆ อยากจะโชว์ชีสเยิ้มมากๆ แต่ถ่ายรูปอยู่คนเดียวนะ มี 8 ชิ้น เราจัดการไปคนเดียว 4 ชิ้น ที่เหลือเก็บไว้ให้คุณสามีโทรมาบอกว่าใกล้ถึงแล้วด้วยรีบกลับห้องมารับเด็กหัวหยอง หลับบนรถตั้งแต่กรุงเทพฯ ยันหัวหินเลย พออุ้มมาถึงห้องเท่านั้นแหละตื่นทันที เจออ่างไม่ได้เลยค่ะวิ่งเข้าใส่ พร้อมกับร้องว่า “เมลลี่สนุกจังเลย” เล่นยัน 4 ทุ่ม!!
_____________
เช้าวันใหม่…
เมื่อคืนหลับไปแบบมีความสุขบนเตียงนุ่มๆ แม้ว่าใจจะสั่งว่าอย่าลุกเลยนะกำลังสบาย แต่ว่าการตื่นมาเจอแสงเช้าก็เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาด คุณลูกตื่นสายกว่าทุกวัน ลืมตาบอกว่า “เมลลี่ตื่นแล้ว” พอชวนออกไปดูน้ำทะเลรีบลุกทันที
บริเวณริมชายหาดมีพระเดินบิณฑบาตรด้วย เสียดายจังที่ไม่มีอาหารมาถวายอากาศสดชื่น
ต้องถอดรองเท้าเดินเล่นแล้วล่ะ
เมื่อวานถ่ายรูปคนเดียว เช้านี้เลยกดชัตเตอร์รัวๆ ถ่ายรูปครอบครัวไว้เป็นที่ระลึก
“แม่ เมลลี่มีความสุข ฮู้”“แม่ก็มีความสุขค่ะ ฮูเร่”
พระอาทิตย์จะขึ้นฝั่งนี้พอดี แต่น่าเสียดายวันที่เราไปพระอาทิตย์ขี้อายไม่โผล่มาทักทายกันเลยวิ่งเล่นกันบนหาดทรายนุ่มๆ สบายเท้า จนเหนื่อยได้เวลาไปทานอาหารเช้ากันค่ะ
Dining Room
เราไปทานอาหารเช้ากันที่ห้องนี้ค่ะ จะอยู่ริมสระข้างๆล็อบบี้
เราเก็บบรรยากาศตอนเช้าประมาณ 6 โมง ไปคนแรกเลย ไฟที่ห้องอาหารก็เลยยังเปิดไว้
ห้องอาหารค่อนข้างกว้างขวาง นั่งได้ทั้งในโซนห้องแอร์และด้านนอก
อาหารเช้าก็มีทั่วๆ ไปเลยค่ะ สลัดที่มาพร้อมกับน้ำสลัดหลายแบบให้เลือก เช่น Thousand Island , Italian Dressing , French Dressing Bread raisin pudding น่ากินมากฝั่งนี้เป็นอาหารประเภทเส้น
ติ่มซำ
ซาลาเปาร้อนๆอ้าา Yummy! มากค่ะ คุณแม่มัวแต่ดูลูกสรุปตัวเองได้ชิมไม่กี่อย่างเองค่ะ
ม้าโพนี่ เรือเป็ด ก็มีให้เช่าด้วยนะอิ่มแล้วกลับไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเล่นน้ำที่สระกัน แต่พอไปถึงเด็กน้อยก็ชวนแม่เล่นปาหมอนบนเตียงอีกรอบ
ช่วงเวลาดีๆ ที่ได้พักผ่อนพร้อมกับครอบครัว ^^
หากวันที่ท้องฟ้าเป็นใจ เราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้จากที่ระเบียงห้องพักเลยค่ะ หรือจะว่ายน้ำไปด้วยก็ฟินที่สุดสระว่ายน้ำตอนเช้า หลายๆ คนเริ่มออกมาเล่นน้ำกันแล้ว
ขุ่นแม่ของนอนแช่จากุชชี่สักพักนะคะลูก
สไลเดอร์มุมนี้สนุกกันทั้งบ้าน ของเมลลี่เล่นฝั่งซ้ายจะปลอดภัยกว่า
เล่นน้ำกันจนเกือบได้เวลา Check-out ก่อนกลับแวะไปทานขนมอร่อยๆ จิบกาแฟเบาๆ ที่ The Glass Room
The Glass Room
The Glass Room ยกให้เป็นร้านขนมแสนอร่อยอีกร้านห้ามพลาดเมื่อแวะไปที่ชะอำ-หัวหิน เป็นร้านกระจกใสใกล้ล็อบบี้ริมสระ
บรรยากาศด้านในโล่งๆ โปร่งๆ ชอบเก้าอี้ของร้านมากๆ ให้อารมณ์ผู้กำกับเล็กๆ ของตกแต่งแต่ละชิ้นในร้านดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เก้าอี้มุมสูงให้ความเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การจิบกาแฟนั่งมองต้นไม้ ใบหญ้า หรืออ่านหนังสือเงียบๆ ลำพังมุมนี้เหมาะแก่การชมวิวสระด้านนอก
ของตกแต่งไม่เยอะแต่เอาอยู่ มีความน่ารักเบาๆ เช่นกระถางต้นไม้ ดอกไม้แห้ง หรือจะเป็นหนังสือที่สามารถหยิบอ่านได้
ส่วนของเมนูเลือกที่นี่เลยค่ะเครื่องดื่มแนะนำ Iced Latte 120 บาท เมนูโปรดของคุณสามี อันนี้ไม่ได้ชิมนะเราไม่ใช่คอกาแฟ สำหรับเราต้องขนมเท่านั้นขนมที่ร้านจะมีไม่เยอะประมาณวันละ 4-5 อย่าง เช่น Blueberry Cheesetart, Tiramitsu, Banoffee Chocolate Oreo Tartเราสั่งถ้วยนี้ Fruit Tart จะมาในถ้วยแล้วใส่ส่วนผสมต่างๆ เรียงลงไปเป็นชั้นๆ ด้านล่างสุดจะเป็นแครกเกอร์ ผลไม้ที่ใส่มาในถ้วยได้แก่ สตรอว์เบอร์รี มะม่วง ละมุนเข้ากับครีม
The Glass Room
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00-20.00 น.
ไม่ได้พักที่นี่ก็แวะไปทานขนมอร่อยๆ ได้นะคะ
เวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ที่ Veranda Resort Hua Hin – MGallery Collection มีความสุขมาก รู้สึกได้ชาร์ตแบต ได้มาพักผ่อนจริงๆ สักที ปกติเห็นครอบครัวของเราเดินทางกันบ่อยแต่ก็ไปทำงานมากกว่า รอบนี้ทั้งคุณพ่อ คุณลูก ติดใจต้องหาเวลามาพักอีกแน่นอนค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม :http://www.verandaresortandspa.com/